วันที่ 4 ก.ค.65 พลตรี จิรวัฒน์ นาคะรัตน์ ผู้บัญชาการศูนย์ทหารม้า ประธานกรรมการโครงการศูนย์การเรียนรู้ตามรอยพระบาทศาสตร์พระราชา เป็นประธานพิธี  โดยมี พ.ท. ธรรมสฤษดิ์  จุนเจือจาน ผู้บังคับกองพันบริการ กองบริการ ศูนย์การทหารม้า ผู้ช่วยนายทหารโครงการศูนย์การเรียนรู้ตามรอยพระบาทศาสตร์พระราชา ศูนย์การทหารม้า เป็นผู้กล่าวรายงาน พร้อมหัวหน้าหน่วยราชาการ ร่วมในพิธี  

ซึ่งศูนย์การเรียนรู้ตามรอยพระบาทศาสตร์พระราชา ของศูนย์การทหารม้า แบ่งออกเป็น 4 พื้นที่คือ 
1.พื้นที่โซน A เป็นศูนย์การเรียนรู้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง สำเร็จเรียบร้อยแล้ว 
2.พื้นที่โซน Bเป็นพื้นที่ทำการเกษตรและปศุสัตว์ สำเร็จเรียบร้อยแล้ว 
3.พื้นที่โซน C เป็นตลาดต้นไม้ของชุมชน อยู่ในขั้นตอนประสานงานการปรับปรุงพื้นที่กับทางจังหวัดสระบุรี
4.พื้นที่โซน D เป็นพื้นที่อบรมเยาวชนจิตอาสาตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ปัจจุบันให้ชะลอโครงการ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙

พื้นที่โซน A หรือ ศูนย์การเรียนรู้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งผู้บัญชาการศูนย์การทหารม้า ได้ดำริให้จัดตั้งและขยายผลโครงการแห่งนี้ ตั้งแต่ห้วง ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔ ที่ผ่านมา โดยมอบให้ กองบริการศูนย์การทหารม้า เป็นหน่วยรับผิดชอบ

สำหรับศูนย์การเรียนรู้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงแห่งนี้จัดตั้งตามนโยบายของกองทัพบก มุ่งหมายให้กำลังพลภายในหน่วยน้อมนำศาสตร์ของพระราชา ขยายผลไปสู่ครอบครัวและชุมชน ลดรายจ่ายเพิ่มรายได้อยู่แบบพอเพียง ไปปฏิบัติและเผยแพร่ให้กับชุมชนตามภูมิลำเนาของกำลังพลต่อไป สำหรับกลุ่มเป้าหมายของศูนย์การเรียนรู้แห่งนี้ คือน้อง ๆ พลทหารกองประจำการที่เข้ามารับราชการ ได้เรียนรู้ด้วยการลงมือปฏิบัติจริงในการพัฒนาความรู้ทางด้านการเกษตรอินทรีย์ เพื่อให้น้องพลทหารเหล่านี้ กลับไปใช้ชีวิตหลังจากปลดประจำการอย่างพอเพียง ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ รู้จักประหยัดอดออม ลดรายจ่ายเพิ่มรายได้ โดยการจำหน่ายเมื่อเหลือกินเหลือใช้จากทำการเกษตรกรรม ซึ่งในปัจจุบันหน่วยได้ดำเนินการจัดตั้งร้านค้าเพื่อให้บริการ ปรับภูมิทัศน์ให้สามารถเป็นแหล่งท่องเที่ยวโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และเปิดรับนักเรียนในพื้นที่ค่ายอดิศรรวมทั้งผู้ที่สนใจ เข้าฝึกอบรมเรียนรู้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงอีกด้วย ศูนย์การเรียนรู้พื้นที่โซน A แห่งนี้มีขนาดพื้นที่ ๓๐ ไร่ โดยมีการทำการเกษตรแบบผสมผสานทั้งการปลูกพืชไร่ พืชสวน รวมทั้งการเลี้ยงสัตว์ ปัจจุบันมีฐานการเรียนรู้ จำนวน  ๗ ฐาน ดำเนินการโดย ๓ หน่วย ดังนี้

๑.  ฐานพืชสมุนไพร ปลูกพืชสมุนไพรต่างๆที่ใช้ในชีวิตประจำวันของกำลังพลที่ประจำศูนย์ 
๒.  ฐานปุ๋ยคอก เป็นการนำมูลสัตว์ มาผลิตเป็นปุ๋ยชีวภาพ และการนำมาปรับปรุงดินในพื้นที่ให้กลายเป็นดินที่มีคุณภาพ 
๓.  ฐานการเลี้ยงสัตว์ ( โค กระบือ สุกร ปลาและไก่ )

โดยมีการเลี้ยงสัตว์ ๔ ชนิด ดังนี้
๓.๑ โคและกระบือ เลี้ยงเพื่อใช้ในการทำนาข้าวและบริโภคเมื่อถึงเวลา ทั้งยังนำมูลมาใช้ในการผลิตปุ๋ยชีวภาพ พัฒนาปรับปรุงดินในพื้นที่การเกษตรของหน่วย
๓.๒ ปลา มีปลานิล ปลาตะเพียน ปลาดุก ปลาสวาย และปลาช่อน เพื่อการบริโภคของกำลังพลประจำศูนย์ ใช้ในการเรียนรู้อาชีพเสริม สำหรับผลผลิตที่ได้จะประกอบอาหารเสริมให้กับกำลังพล
๓.๓ ไก่ไข่และไก่เนื้อ นำไข่และเนื้อที่ได้มาประกอบอาหารให้กับกำลังพลในศูนย์และใช้ในการเรียนรู้อาชีพเสริม
๓.๔ สุกร เพื่อการบริโภคของกำลังพลประจำศูนย์ ใช้ในการเรียนรู้อาชีพเสริม ดำเนินการ โดย กองพันบริการ กองบริการ ศูนย์การทหารม้า
๔. ฐานเตาถ่าน (การทำถ่านโดยใช้เตาอิวาเตะ และเตาชีวะมวล ) นำถ่านที่ได้มาใช้หุงต้มประกอบอาหารให้กับกำลังพลในศูนย์
๕. ฐานปลูกผัก จะปลูกพืชผักสวนครัว มาใช้ประกอบอาหารให้กำลังพลในศูนย์  ดำเนินการ โดย กรมนักเรียน โรงเรียนทหารม้า ศูนย์การทหารม้า
๖.  ฐานนาข้าว ปัจจุบัน เราได้ปลูกข้าวพันธุ์เจ๊กเชย ซึ่งเป็นข้าวพื้นเมืองของจังหวัดสระบุรี นำข้าวที่ได้มาประกอบเลี้ยงให้กับกำลังพลในศูนย์ นำเอาข้าวเปลือกที่ได้มาเป็นอาหารให้ไก่ด้วย
๗. ฐานนาบัว ซึ่งเราได้ผลผลิตทั้งไหลบัวมาใช้เพื่อประกอบอาหารให้กำลังพลในศูนย์และดอกบัวเพื่อถวายวัด ดำเนินการ โดย กองพันทหารม้าที่ ๒๒ ศูนย์การทหารม้า

ทั้งนี้ ทุกฐานที่ได้กล่าวมานั้น ส่วนที่เหลือจากการอุปโภคบริโภคของกำลังพลที่ดูแลศูนย์ จะนำมาจำหน่ายในพื้นที่โซน C ให้กับกำลังพลและประชาชนทั่วไปที่เข้ามาเยี่ยมชม

ในลำดับต่อไปกระผมขอเรียนเชิญ ผู้บัญชาการศูนย์การทหารม้าประธานในพิธี กล่าวเปิดโครงการศูนย์การเรียนรู้ตามรอยพระบาทศาสตร์พระราชา ศูนย์การทหารม้า พื้นที่โซน A และ ร่วมปลูกไม้ผลยืนต้นใ

พื้นที่โซน B เพื่อเป็นมงคลฤกษ์กับโครงการศูนย์การเรียนรู้ตามรอยพระบาทศาสตร์พระราชา ศูนย์การทหารม้าต่อไป ขออนุญาตเรียนเชิญ