จากกรณี เมื่อกลางดึกวันที่ 5 กรกฎาคม 65 ร.ต.ท.หญิง ศุภลักษณ์ หวานวาจา รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ รับแจ้งเหตุคนถูกมีดแทงได้รับบาดเจ็บสาหัส ที่ร้านอาหารตามสั่ง ริมถนนเลียบชายทะเล หมู่ 2 บ้านอ่าวน้อย ต.อ่าวน้อย จึงไปตรวจสอบพร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ที่เกิดเหตุปลูกเป็นเพิงมุงสังกะสีเปิดเป็นร้านขายอาหารตามสั่ง พบกองเลือด มีดปลายแหลมเปื้อนเลือด อาวุธที่ใช้ก่อเหตุ 1 เล่ม ตกอยู่ที่พื้นหน้าร้าน จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน สำหรับผู้บาดเจ็บหน่วยกู้ชีพนำตัวส่งโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทราบชื่อ นางสาวพัชรียา หรือ หนุงหนิง ขำคม อายุ 33 ปี พบบาดแผลถูกของมีคมแทงเข้าที่บริเวณชายโครงซ้ายด้านหลัง บาดแผลลึกประมาณ 6 เซนติเมตร(ซม.) ยาวประมาณ 6 ซม

ส่วนคนร้ายทราบชื่อ นายปฐมพร ศรีภิรมย์ อายุ 32 ปี หลังก่อเหตุได้หลบหนีไปซ่อนตัวที่บ้านพัก ที่อยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 40 เมตร เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังจับกุมโดย พบผู้ก่อเหตุนั่งรอเจ้าหน้าที่บริเวณหน้าบ้าน โดยไม่มีท่าทีสะทกสะท้าน จึงควบคุมมาสอบสวน คนร้ายให้การรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือก่อเหตุใช้มีดแทงผู้ตายจริง เนื่องจากเข้าใจว่าผู้ตายเป็นผู้ทำมนต์ดำใส่หลานสาวทำให้เกิดอุบัติเหตุเสียชีวิต ทั้งที่ไม่เคยมีเรื่องบาดหมาง นอกจากนั้นคนร้ายมีประวัติเป็นผู้ป่วยที่มีอาการทางจิตเวช ขณะสอบปากคำพบว่านายปฐมพร มีลักษณะคล้ายคนเสพยา จึงนำตรวจปัสสาวะพบมีสารเสพติดเมทแอมเฟตามีน เจ้าหน้าที่จึงตั้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และเสพยาเสพติดให้โทษ ก่อนนำตัวไปดำเนินคดี

มีรายงานว่า หลังเกิดเหตุสะเทือนขวัญทำให้ชาวบ้านชายทะเลหมู่ 2 วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก กรณีผู้ลงมือก่อเหตุเสพยาเสพติด เนื่องจากปัจจุบันในพื้นที่มีจำนวนผู้ค้าและผู้เสพจำนวนมาก ยาบ้าหาซื้อได้ง่ายและมีราคาถูก

นางสุพิณณา เต๋จ๊ะ มารดาผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ลูกสาวยืนทำอาหารเมนูน้ำตกอยู่ โดยที่หน้าร้านมีลูกค้าสองคน คนร้ายมายืนดูไม่คิดว่าจะมาทำร้าย เพราะเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกัน เดินเลี่ยงไปข้างๆ เตาไฟจากนั้นได้ใช้มีดแทง พอแทงปุ๊บลูกสาวก็ร้องโอ๊ย แล้วลูกสาวใช้มือดึงมีดออกแล้วล้มฟุบลงกับพื้น หลานอายุ 1 ขวบครึ่ง ซึ่งนอนเล่นและดูการ์ตูนได้ร้องขึ้นมา ตนจึงพาหลานเข้าไปในบ้าน และรอรถกู้ชีพโรงพยาบาล แต่สุดท้ายก็สิ้นใจ

คนร้ายมีอาการหลอน เคยไปรักษาอาการเสพยาเสพติด และช่วงหลังไม่ได้กินยารักษาต่อเนื่อง เนื่องจากคนร้ายเชื่อฝังใจว่า ลูกสาวตนทำมนต์ดำใส่

ซึ่งบุตรสาวตนเป็นเสาหลักในการดูแลครอบครัว โดยช่วยกันขายส้มตำน้ำตก มีบุตรสาวคนโตอายุ 8 ขวบ และบุตรสาวคนเล็กอายุขวบครึ่ง ซึ่งหลานคนโตรู้แล้วว่าแม่เสียชีวิต แต่หลานคนเล็กยังพูดไม่ได้ ไม่รู้ภาษา เวลาเห็นรถวิ่งผ่านร้านจะเรียก “จ๋าจ๊ะ” เรียกหาแม่ ยายก็ร้องไห้เพราะสงสารหลาน