เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



นายกฯ สั่งการผลักดันขยายตลาดสินค้าเกษตรไทยในญี่ปุ่นอย่างต่อเนื่อง พร้อมพัฒนาส่งออกครบวงจร


8 ก.ค. 2565, 10:56



นายกฯ สั่งการผลักดันขยายตลาดสินค้าเกษตรไทยในญี่ปุ่นอย่างต่อเนื่อง พร้อมพัฒนาส่งออกครบวงจร




วันนี้(8 ก.ค. 65) นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชื่นชมทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ร่วมกันทำงานผลักดันการขยายตลาดสินค้าไทยในประเทศญี่ปุ่นอย่างต่อเนื่อง จนเห็นผลสำเร็จเป็นรูปธรรม โดยกระทรวงพาณิชย์รายงานว่า ญี่ปุ่นเป็นตลาดส่งออกสินค้าเกษตรและอาหาร อันดับ 2 ของไทย โดยระหว่างปี 2562-2564 ไทยมีสัดส่วนการส่งออกไปญี่ปุ่นประมาณร้อยละ 11.35 ของมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรไปตลาดโลก และที่ผ่านมา ไทยได้ดุลการค้าสินค้าเกษตรกับญี่ปุ่นมากกว่า 130,000 ล้านบาท

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะผู้แทนไทย ได้เดินทางเยือนประเทศญี่ปุ่นเพื่อหารือร่วมกับภาคเอกชนด้านโลจิสติกส์และคลังสินค้าเกษตรของไทยในญี่ปุ่น พร้อมรับฟังข้อเสนอแนะจากผู้ประกอบการ ศึกษาแนวโน้มตลาด และรสนิยมของผู้บริโภค เพื่อผลิตสินค้าเกษตรและอาหารให้สอดคล้องตามยุทธศาสตร์ "ตลาดนำการผลิต" ทั้งนี้ เนื่องจากมีโอกาสและความต้องการเป็นช่องทางให้ไทยขยายการส่งออกสินค้าเกษตร และอาหารไปยังตลาดญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น รวมทั้ง มีช่องทางในการเพิ่มความร่วมมือด้านต่าง ๆ อาทิ ร่วมลงทุนด้านเกษตรอุตสาหกรรม เครื่องจักรกลและเทคโนโลยีเกษตร พัฒนาระบบโลจิสติกส์ทางเรือและทางอากาศให้ต้นทุนและเวลาลดลง



กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ขยายความร่วมมือด้านการพัฒนาอาหารแห่งอนาคต (Future Food) ร่วมกับมหาวิทยาลัยทากะซากิ  (Takasaki City University of Economics) ในจังหวัดกุนมะ และ บริษัท ฟิวเจอร์นอท อิงค์ (Futurenaut Inc.) ซึ่งเป็นผู้ผลิตอาหารจากแมลงโดยใช้ผงจิ้งหรีดนำเข้าจากประเทศไทยไปแปรรูป เช่น ขนมแครกเกอร์ โปรตีนแท่ง เป็นต้น ทั้งนี้ เพื่อร่วมมือวิจัยและพัฒนาแมลงต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์อาหารจากโปรตีนทางเลือก สอดรับแนวทางองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO: Food and Agriculture Organization) ที่ประกาศให้แมลงเป็นแหล่งอาหารในอนาคตของโลก โดยตลาดอาหารจากแมลงนั้นมีการเติบโตสูงในญี่ปุ่น จึงถือเป็นโอกาสไทยในการขยายตลาด สร้างงาน สร้างรายได้แก่เกษตรกร ซึ่งปัจจุบันมีฟาร์มแมลงของเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และบริษัทเอกชนกว่า 1 แสนฟาร์ม ส่งออกแมลงทั้งในทวีปอเมริกาใต้ ยุโรปและเอเซีย


นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังได้ทำงานร่วมกับกรมทรัพย์สินทางปัญญา และกระทรวงเกษตร ป่าไม้ ของญี่ปุ่น ผลักดันการจดทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (Geographical Indications : GI) สินค้าท้องถิ่นไทยในตลาดญี่ปุ่นจำนวน 3 รายการ ได้แก่ กาแฟดอยตุง กาแฟดอยช้าง จังหวัดเชียงราย และสับปะรดห้วยมุ่น จังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและขยายโอกาสทางการค้าให้กับสินค้า GI ไทยในตลาดต่างประเทศ สร้างรายได้แก่ชุมชนท้องถิ่นอย่างยั่งยืน ตั้งเป้าสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรไทยกว่า 1.2 พันล้านบาท โดยคณะผู้ตรวจสอบฯ จะเดินทางลงพื้นที่ดูแหล่งเพาะปลูกและแหล่งผลิตสินค้า GI ในไทยช่วงปลายปี 2565 นี้

"นายกรัฐมนตรีชื่นชมหน่วยงานเกี่ยวข้องที่ได้บูรณาการความร่วมมือระหว่างไทย-ญี่ปุ่น และระหว่างประเทศ เพื่อกระตุ้น และขยายการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมร่วมกัน รวมทั้งรับฟังความเห็นเกี่ยวกับปัญหา และข้อเสนอแนะโดยตรงจากผู้ประกอบการของไทยและญี่ปุ่น เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาและการออกมาตรการที่มีประสิทธิภาพ พร้อมกำชับทุกฝ่ายร่วมพัฒนา และผลักดันภาคการเกษตรและสินค้าชุมชนของไทยอย่างต่อเนื่อง บูรณาการความร่วมมือในการส่งออกแมลงผงเพื่อตอบโจทย์เทรนด์อาหารแห่งอนาคต อีกทั้งส่งเสริมสินค้า GI ให้มีมูลค่าการตลาดเพิ่ม เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม และขยายช่องทางการตลาดให้กับสินค้า เพิ่มรายได้ให้กับผู้ผลิตสินค้าในชุมชน มุ่งหวังเกษตรกรและผู้ประกอบการชุมชนรายย่อยมีรายได้เพิ่มขึ้น" นายธนกรฯ กล่าว






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.