หนุ่มอุดรฯ ฟ้าผ่ากลางเถียงนา รอดตายปาฏิหาริย์ แต่ไก่ตาย 5 ตัว
8 ก.ค. 2565, 18:50
วันนี้ (8 ก.ค.65) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเพจ “แจ้งข่าวชาวนาพู่ เผยเรื่องราวของเรื่องราวปฏิหาริย์ของคนที่ถูกฟ้าผ่าแต่รอดชีวิตมาได้ โดยบอกว่า นาทีเฉียดตายของอานนท์ เย็นวันที่ 6 ก.ค.65ได้เกิดเหตุฟ้าผ่าชาวบ้านกิ่ว แถวดงเตาไห ต.นาพู่ อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี คือ นายอานนท์ กองสุวรรณ อายุ 29 ปี ซึ่งอานนท์ได้เล่านาทีเฉียดตายให้ทีมเพจฯได้ฟังหลังมีพายุฝน ฟ้าคะนอง ระหว่างที่อานนท์ กำลังทำธุระส่วนตัวอยู่ที่เถียงนาก็เกิดสายฟ้าฟาดแบบเฉียดตัวมากๆ" ผมเห็นแค่แสงวาบ สว่างจ้า เสียงดังเปรี้ยงและหลังจากนั้นผมก็ภาพตัดสลบไปเลย นับจากฟ้าผ่าจนสลบก็ราวๆ 1 ชั่วโมง มารู้สึกตัวอีกทีเหมือนหูแว่วได้ยินแม่ซึ่งเสียชีวิตไปแล้วมาปลุกว่า .".ตื่นๆแหม่บักหล่า..บักหล่าตื่นๆ " และเข้ามาเขย่าตัวก็เลยพยายามตั้งสติ แต่ตอนนั้นคือ หายใจไม่ออก แน่นหน้าอก และมีน้ำลายฟูมปาก จึงค่อยๆหยิบเอาโทรศัพท์โทร.ขอความช่วยเหลือจากพ่อ จากนั้นพ่อก็มารับและนำตัวส่งที่กู้ชีพ นาพู่ ก่อนส่งโรงพยาบาล ถ้าหายครั้งนี้ผมคงต้องสะเดาะเคราะห์ใหญ่เพราะปกติแล้วคนที่โดนฟ้าผ่ามักไม่รอด
ต่อมาวันนี้ เวลา 14.00 น.ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับนายอานนท์ กองสุวรรณ หรือ “ต่อ” อายุ 29 ปีชาวบ้านบ้านกิ่ว ต.นาพู่ อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี กำลังนอนรักษาตัวที่เตียงของรพ.ตึกผู้ป่วยชาย รพ.เพ็ญ จ.อุดรธานี มีสายน้ำเกลือติดอยู่แขนตลอดเวลา นายอานนท์ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวถึงเรื่องราวถูกฟ้าผ่าแต่รอดตายราวปฏิหาริย์ โดยบอกว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 6 ก.ค.65 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 16.00 น.ตนเองซึ่งอยู่ที่ทุ่งนาของตนเองท้ายหมู่บ้านกิ่ว กำลังต้อนควายไปกินหญ้า แต่เกิดมีฝนตกลงมาอย่างหนัก และมีฟ้าร้องตลอดเวลา จึงรีบวิ่งขึ้นกระท่อมนา จากนั้นไม่นานได้รีบปิดโทรศัพท์กลัวฟ้าผ่า สักพักได้ยินเสียงดังเปรี้ยง ลงตรงกลางเถียงนา ตนเองก็สลบทันที ตอนที่สลบน่าจะประมาณ 1 ชม.คิดว่าตายไปแล้ว แต่ก็ได้ยินเสียงแม่ของตนเองคือนางจำรัส ซึ่งเสียชีวิตไปแล้วเมื่อ 3 ปีมาปลุกว่า .".ตื่นๆแหม่บักหล่า..บักหล่าตื่นๆ " และเข้ามาเขย่าตัวก็เลยพยายามตั้งสติ แต่ตอนนั้นคือ หายใจไม่ออก แน่นหน้าอก และมีน้ำลายฟูมปาก แน่นหน้าอก พอลุกขึ้นมาได้หยิบโทรศัพท์โทรหาพ่อให้มาช่วย จากนั้นพ่อและญาติๆ ก็รีบนำส่งรพ.สต.และส่งต่อมายังรพ.เพ็ญทันที ตอนนี้ยังมีอาการปวดหัวและช้ำตามแขนและขา และขาอ่อนแรง ต้องฉีดยาแก้ปวดก่อนนอนตลอด
นายอานนท์ บอกอีกว่า รอดตายมาครั้งนี้ตนเองคิดว่าเรื่องนี้มีทั้งโชคและซวยมาพร้อม ซวยเพราะโดนฟ้าผ่า เพราะเกิดมาไม่เคยเจอสักครั้ง แต่โชคด้วยเช่นกันที่ตนเองรอดตายจากฟ้าผ่ามาได้ราวปฏิหาริย์ หรือยังไม่ถึงคราวจะตาย ตนเองเชื่อว่าแม่จำรัสที่รักตนเองมาช่วยให้ตนเองรอดในครั้งนี้และเหรียญปู่ศรีสุทโธที่ตนเองนับถือ แม้ตนเองจะรอดเกือบตายเช่นกัน แต่ไก่ที่อยู่ใต้ถุนเถียงนาที่ตนเองนั่งอยู่ปรากฎว่าไก่ไปทั้งหมด 5 ตัว ขณะที่ผู้สื่อข่าวสังเกตรอยสักที่แขนขวา ของขลังประจำกายนายอานนท์บอกว่า รอยสักเป็นจระเข้มหาอุต ที่ตนเองให้อาจารย์โอ๊คอยู่ที่อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ สักให้สมัยตนเองไปรับจ้างตัดอ้อยเมื่ออายุ 17 ปีก่อน หลังออกจากรพ.รักษาหายแล้วคงต้องไปทำบุญเรียกขวัญตัวเองครั้งใหญ่ที่รอดตายมาได้เหมือนตายแล้วเกิดใหม่อย่างแน่นอน
ขณะที่ผู้สื่อข่าวเดินทางไปดูที่เกิดเหตุบริเวณกระท่อมนาของนายอานนท์ อยู่ท้ายหมู่บ้านบ้านกิ่ว หมู่ 7 ต.นาพู่ อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี พบกับนางสว่างจิตร ซุยเสนา อายุ 45 ปี น้าสาว และน.ส.พรทิพย์ พิมพ์ทอง อายุ อายุ 34 ปี ป้าของนายอานนท์ พาผู้สื่อข่าวไปดูบริเวณกระท่อมนาที่นายอานนท์ถูกฟ้าผ่าลงมาแต่รอดตายราวปฏิหาริย์ โดยสภาพกระท่อมนาเป็นหลังเล็กๆ มีต้นสะเดาความสูงกว่า 10 เมตรติดกับกระท่อมนา ใกล้ๆ กันพบที่ปลายต้นยูคามีรอยไหม้ โดยทั้งสองคนเปิดเผยว่า วันนั้นฝนตกลงมาและมีเสียงฟ้าร้อง ฮึ่มๆ ตลอดเวลา พวกเราก็อยู่ทุ่งนาก็พากันไปหลบ ไม่นานได้ยินเสียงเปรี้ยงลงมา ตอนแรกไม่คิดว่าฟ้าจะผ่าตรงกระทอ่มนาของหลานชาย ไม่นานเห็นพ่อของเขาวิ่งมาบอกว่า นายอานนท์ถูกฟ้าผ่า จึงรีบพากันมาดู เห็นเขาน้ำลายฟูมปาก สลึมสะลือ หมดสติ จึงรีบหาพาไปส่งรพ.สต.จากนั้นนำส่งรพ.เพ็ญ ดีใจที่หลานชายรอดตายมาได้ ไม่คิดว่าถูกฟ้าผ่าจะรอด แต่ไก่ 5 ตัวที่อยู่ใต้ถุนกระท่อมนาตรงที่นานอานนท์อยู่ถูกฟ้าผ่าตายถึง 5 ตัว ตกใจอย่างมาก หลังจากเข้ารักษาตัวหายแล้วญาติๆ จะต้องทำพิธีหอมข้าวหอมขวัญ หรือพิธีเรียกขวัญคนตายแล้วฟื้นกลับมาคืนอย่างแน่นอน