สุดสลด ! ร.ต.ต. ขับฟอร์จูนเนอร์ พุ่งชนท้ายรถบรรทุก 6 ล้อ เสียขีวิต
13 ก.ค. 2565, 08:41
เมื่อเวลา 18.12 น.วันที่ 12 กรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมา ศูนย์วิทยุ 191 ตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ ได้รับแจ้งจากพลเมืองดี ว่ามีอุบัติเหตุ ช่วงใกล้ถึงสี่แยกไฟแดงสลักได ถนนเลี่ยงเมือง ทางหลวงสาย 293 ขาเข้าเมืองสุรินทร์ รถนั่งส่วนบุคคล โตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ ชนท้าย รถบรรทุกหกล้อ มีผู้ติดภายในรถ หลังจากได้รับแจ้ง ได้ประสาน แจ้งให้ ศูนย์วิทยุ ศรีไผท สภ.เมืองสุรินทร์ และศรถพยาบาลฉุกเฉิน 1669 พร้องแจ้งให้ ร.ต.อ.ทัศพล ชูบัว พนักงานสอบสวนเวร สภ. เมืองสุรินทร์ เดินทางไปยังที่เกิดเหตุ
เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางไปยัง ที่เกิดเหตุพบรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อ toyota รุ่น fortuner สีขาว เลขทะเบียน กต 3389 สุรินทร์ ชนท้ายอัดก็อปปี้ หน้ารถพังยับทะลุ มาถึงห้องเก๋ง ยับเยิน ติดอยู่กับท้ายรถบรรทุกหกล้อ ยีห้อฮีโน่ สีขาว เลขทะเบียน 70-6620 อุดรธานี โดยมีนายทวีศักดิ์ สายสุข อายุ 45 ชาว จ.ขอนแก่น เป็นคนขับรถบรรทุก และพบผู้เสียชีวิต 1 ราย ติดถายในรถ toyota รุ่น fortuner ทราบชื่อคือ ร.ต.ต ไพศาล ศรีตุลานุ อายุ 54 ปี ตำแหน่ง รองสารวัตรปราบปราม สภ.สวาย อ.เมือง จ.สุรินทร์ เป็นคนขับรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ดังกล่าว เสียชีวิตติดอยู่ภายในซากรถยนต์ จนท.กู้ภัยสุรินทร์ และวีอาร์กู้ชีพ ใช้อุปกรณ์เครื่องตัดถ่างงัด เพื่อนำศพผู้เสียชีวิตออกมา โดยมี พญ.เปรมฤดี ทวีคง แพทย์เวรนิติเวช รพ. สุรินทร์ จะมาร่วมชันสูตรพลิกศพในเบื้องต้นในที่เกิดเหตุ หลังจากนั้น ได้ส่งมอบให้แพทย์นิติเวชชันสูตรที่ รพ.สุรินทร์อีกครั้ง
จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ในขณะเกิดเหตุ ทราบว่าผู้ตาย กำลังเดินทางกลับมาจากที่ทำงาน ขับรถมาด้วยความเร็ว พอมาถึงที่เกิดเหตุได้พุ่งชนท้ายรถบรรทุก 6 ล้อที่จอดติดไฟแดง และจะเดินทางไปส่งสินค้าที่ จ.อุบลราชธานี และมีรถจอดติดไฟแดงอยู่ยาวเหยียด พอรถที่เกิดเหตุ วิ่งมาด้วยความเร็ว มาถึงตรงข้ามหน้าตลาดไอคิวเมืองใหม่ คาดว่าผู้ตายไม่ทันสังเกตุและอยู่ในช่วงโพล้เพล้ ทำให้มองไม่เห็นประกอบกับที่ขับรถด้วยความเร็ว จึงทำให้ไม่ได้ชะลอความเร็วรถลง จึงพุ่งชนท้ายรถบรรทุกหกล้อเข้าอย่างรุนแรง เป็นเหตุให้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ
เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าของคดี จะได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด ใกล้เคียงกับที่เกิดอุบัติเหตุ พร้อมสืบสวนสอบสวนถึงสาเหตุของกานเกิดอุบัติเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง พร้อมจะได้ประสานญาติมารับศพไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป