พระภิกษุเมืองคอน สร้างโลงแก้วบรรจุศพของตัวเอง หลังมรณภาพ
15 ก.ค. 2565, 14:47
วันที่ 14 ก.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระเดชพระคุณพระสิริคณาจารย์ เจ้าอาวาสวัดประดู่พัฒนาราม เจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช (มหานิกาย) พร้อมพุทธบริษัทและบรรดาศิษยานุศิษย์ เดินทางไปศูนย์อำนวยการโครงการก่อสร้างตำหนักพระมหาโพธิสัตว์กวนอิม ศูนย์ปฏิบัติธรรม และศูนย์บรรเทาสาธารณภัยแห่งใหม่ มูลนิธิประชาร่วมใจ องค์การสถานสาธารณกุศล (ลำดับที่ 694) ถนนเฉลิมพระเกียรติ หมู่ 2 ต.ปากนคร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เพื่อเข้ากราบไหว้ขอพระ เยี่ยมพระบุญฤทธิ์ หงส์ประสาธน์ ประธานมูลนิธิประชาร่วมใจ ที่พักฟื้นหลังจากอาพาธโรคชรารับการรักษาและผ่าตัดเจาะคอช่วยในระบบหายใจ มีเจ้าหน้าที่หน่วยบรรเทาสาธารณภัยมูลนิธิประชาร่วมใจคอยปรนนิบัติดูแลอย่างใกล้ชิด แม้อาพาธและชราอายุ 85 ปี 5 เดือน 20 วัน แต่พระบุญฤทธิ์ ยังมีสุขภาพแข็งแรง สามารถออกมาคอยต้อนรับ ร่วมสนทนาธรรมกับพระเดชพระคุณพระสิริคณาจารย์ และคณะพุทธบริษัทอย่างเป็นกันเอง อย่างไรก็ตามพบว่าภายในอาคารอำนวยการ ฯ มีการสร้างโลงบรรจุศพ ทำด้วยไม้เนื้อแข็ง ตรงกลางติดกระจกแก้ว พร้อมแท่นติดตั้ง และมีภาพถ่ายพระบุญฤทธิ์ ใส่กรอบวางบนแท่นด้านข้างโลงศพ จนสร้างความแปลกใจ ให้กับผู้ที่มาเยี่ยมศูนย์
พระบุญฤทธิ์ หงส์ประสาธน์ เจ้าของโลงศพที่เตรียมไว้ เผยว่า อาตมาเตรียมพร้อมเรื่องการจัดการศพของอาตมา หลังมรณภาพทั้งหมด พร้อมเขียนพินัยกรรมสั่งเสียทุกเรื่องให้ลูกศิษย์ ให้ดำเนินการเฉพาะสวดพระอภิธรรมศพ ห้ามมีการเทศนา เพราะงานศพอาตมาจะมีแขกต่างชาติ ต่างศาสนา เดินทางมาร่วม จึงห้ามมีการเทศนา แต่ให้ใช้วิธีการบอกกล่าวเล่าเรื่องแทนเทศนาธรรม
พระบุญฤทธิ์ เผยอีกว่า อาตมาไม่รู้จะมีชีวิต มีลมหายใจต่อไปอีกกี่ปี จึงเตรียมความพร้อมเอาไว้ทั้งหมด จะเป็นห่วงก็เรื่องการก่อสร้างตำหนักพระมหาโพธิสัตว์กวนอิม ศูนย์ปฏิบัติธรรม และศูนย์บรรเทาสาธารณภัยแห่งใหม่ มูลนิธิประชาร่วมใจ ที่ใช้งบประมาณจากผู้ที่ใจบุญจากต่างประเทศ ซึ่งเป็นส่วนใหญ่ แต่ยังสร้างไม่แล้วเสร็จ โดยมีเป้าหมายที่จะให้มีศูนย์รับบริจาคโลหิต เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ป่วยตามโรงพยาบาลต่าง ๆ รวมทั้งเป็นสถานที่ใช้สอนภาษาจีนกลาง และภาษาอังกฤษ รวมถึงศูนย์ปฏิบัติด้วย
"อาตมาขอฝากพุทธบริษัททุกท่านว่าให้เดินทางสายกลาง อย่าเป็นน้ำล้นแก้ว ใครที่ทำตัวเป็นน้ำล้นแก้วจะประสบกับความยุ่งยากเดือดร้อน ที่สำคัญในยุคปัจจุบันการต่อสู้เพื่อทำนุบำรุงและเผยแผ่หลักธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าจะต้องไม่ทำแบบ 1+1 เท่ากับ 2 ขอให้พุทธบริษัทคิดและดำเนินการแบบ 1+ 1 เท่ากับเป็นพันเป็นหมื่นเป็นแสนเป็นล้านหรือหลายล้าน นั่นคือการทำดี ทำให้ดี ผู้คนเขาจะมองเห็นเองศรัทธาก็จะเพิ่มพูนมากขึ้นตามไปด้วย แต่ท่าหากทำแบบ 1+1 เป็น 2 เราจะพ่ายแพ้ตลอดไป"
สำหรับประวัติพระบุญฤทธิ์ หงส์ประสาธน์ เกิดเมื่อวันที่ 24 มกราคม พ.ศ.2480 ที่ อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช เป็นบุตรของ นายกลิ้ง และนางหงส์ หงส์ประสาธน์ (ปัจจุบันทั้งสองท่านถึงแก่กรรมแล้ว) อุปสมบทเมื่อปี พ.ศ. 2500 ณ วัดสุวรรณบรรพต อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช การศึกษาจบชั้นประถมศึกษาโรงเรียนชุมชนบ้านบางโหนด อ.ขนอม จบชั้นมัธยมศึกษาจากโรงเรียน ซูน วาน อิงลิช ค็อลเล็จ ประเทศฮ่องกง จบปริญญาตรี สาขาบริหารธุรกิจ จากมหาวิทยาลัยมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ จบปริญญาโทสาขารัฐประศาสนศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ จบปริญญาโทสาขารัฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ส่วนผลงาน “ได้ปฏิบัติศาสนกิจในประเทศต่าง ๆ หลายประเทศ ตั้งแต่ พ.ศ.2506 จนปัจจุบัน นำชาวต่างประเทศทั้งชายและหญิงมาบวชในประเทศไทย สร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างศาสนาต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศ
ขณะกำลังศึกษาได้รับคัดเลือกจากมหาวิทยาลัยมะนิลา ให้เป็นนักศึกษาดีเด่น ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และปี พ.ศ. 2519 ก่อตั้งศูนย์ศึกษาพุทธศาสนา และคริสต์ศาสนาในมหาวิทยาลัยมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ,ปี พ.ศ.2524 ก่อสร้างเรือนพักคนไข้ขนาด 10 เตียงให้กับโรงพยาบาล อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช ,ปี พ.ศ. 2525 ริเริ่มจัดตั้งมูลนิธิประชาร่วมใจ อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช,ปี พ.ศ.2529 ได้รับการคัดเลือกจากกรมราชทัณฑ์ฮ่องกง ให้เป็นผู้ให้คำปรึกษาแนะนำแก่นักโทษฮ่องกงตามเรือนจำต่าง ๆ ที่เมืองฮ่องกงเป็นเวลาติดต่อกันกว่า 10 ปีและปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานกรรมการมูลนิธิประชาร่วมใจ องค์การสถานสาธารณกุศล ลำดับที่ 694 และได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานสันนิบาตมูลนิธิจังหวัดนครศรีธรรมราช จากสมาคมสันนิบาตมูลนิธิแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์