รวบตัว ! "โจรแสบ" ทำเนียนกวาดบ้านให้ชายชรา ก่อนฉกมือถือไปขาย เพื่อซื้อยามาเสพ
21 ก.ค. 2565, 15:06
วันนี้ 21 ก.ค. 2565 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า พ.ต.อ.สมเกียรติ โฉมฉาย ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี ร.ต.ท.อาชวินทร์ อองวงศ์ รอง สว.(สอบสวน)สภ.เมืองกาญจนบุรี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี คุมตัวนายสุทนต์ เทือกเถาว์ หรือต๋อง เตาปูน อายุ 50 ปี ผู้ต้องหาก่อเหตุลักทรัพย์ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บ้านเลขที่17/2 หมู่ 1 ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี โดยมีนายจำลอง แจ่มจำรัส อายุ 68 ปี เจ้าของสถานีวิทยุ FM 107.50 mhz CR radio ผู้เสียหายและเป็นเจ้าของบ้านหลังดังกล่าวร่วมสังเกตการณ์การทำแผนประกอบคำรับสารภาพในครั้งนี้ด้วย
การทำแผนประกอบคำรับสารภาพครั้งนี้นั้นสืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 18 ก.ค.ที่ผ่านมา ผู้ใช้เฟสบุ๊คชื่อ "ชัยวัฒน์ แจ่มจำรัส" ได้นำคลิปวีดีโอจากกล้องวงจรปิดที่ติดเอาไว้ภายในบ้านมาโพสต์ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยในคลิปดังกล่าวเป็นคลิปที่คนร้ายเป็นชายทำทีเข้าไปกวาดพื้นเพื่อทำความสะอาดบ้าน จากนั้นได้เดินเข้าไปลักขโมยโทรศัพท์มือถือของนายจำลอง แจ่มจำรัส ที่ชาร์ตเอาไว้ภายในห้องส่งสัญญาณวิทยุ แล้วเดินหนีไป
นอกจากนำคลิปมาโพสต์ลงในเฟซบุ๊กแล้ว บุคคลดังกล่าวยังได้เขียนระบุเอาไว้ว่า "ขโมยเข้าบ้านครับ! ใครพบเจอเบาะแส โปรดแจ้งหน่อยครับ เข้ามาเดินบริเวณบ้านเป็นชม.เลย ทำทีมาทำความสะอาด ในบ้านมีปู่กับพี่สาวอยู่ ซึ่งปู่ไม่ค่อยแข็งแรง คิดว่าเพื่อนพ่อมาทำความสะอาดบ้านให้ เพราะปกติ พ่อเป็นคนเพื่อนเยอะ ก่อนหน้านี้มักจะมาหากันบ่อยๆ แล้วเขาบอกว่า มาหาลูกชายปู่มาจากอุทัย มาขอข้าวขอน้ำ ปู่ก็ให้ 50 บาท แล้วก็ให้น้ำกิน แล้วยังจะขอเข้าห้องพี่สาว มาอาบน้ำอีก แต่ปู่ไม่ให้เพราะพี่สาวกับหลานอยู่ ส่วนพี่สาวก็คิดว่าปู่จ้างคนมาทำความสะอาดบ้าน เพราะก่อนหน้านี้ก็เคยมีจ้างมาเหมือนกัน และบ้านผมเป็นสถานีวิทยุ มักจะมีคนเข้าออกเรื่อยๆ เลยไม่ค่อยเอะใจอะไร พอพ่อผมขับรถออกไปทำงานปุ้บ หลังจากนั้นแปปเดียว ชายคนนี้ก็เดินเข้ามา สิ่งที่หาย ตอนนี้ รู้แค่เพียงโทรศัพท์ Realme C35 ซื้อได้ไม่ถึง 7 วัน ที่ชาร์จไว้ในห้องส่งสัญญาณ วิทยุ หาย กำลังตรวจสอบว่ามีอะไรหายอีก ใครพบเจอโปรดแจ้งที่ 080050XXXX ฟร้อง"
วันเดียวกัน พ.ต.อ.สมเกียรติ โฉมฉาย ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี ร.ต.ท.อาชวินทร์ อองวงศ์ รอง สว.(สอบสวน)สภ.เมืองกาญจนบุรี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี รวมทั้งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภ.จว.กาญจนบุรี และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตำรวจ ลงพื้นที่ตรวจหาหลักฐาน และสอบปากคำผู้เสียหายเพื่อติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดี
ทั้งนี้ พ.ต.อ.สมเกียรติ โฉมฉาย ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี เปิดเผยภายหลังว่า ผู้ลงมือก่อเหตุลักทรัพย์ที่นำตัวมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพในครั้งนี้ อดีตเคยมาส่งน้ำให้กับบ้านหลังนี้ และเคยรู้จักกับลูกชายเจ้าของบ้าน ก่อนลงมือก่อเหตุลักทรัพย์คนร้ายได้ทำทีมาพูดคุยกับนายจำลองฯเจ้าของบ้านที่อายุมากแล้วโดยอ้างกับเจ้าของบ้านว่ารู้จักกับลูกชาย จากนั้นได้ทำทีหยิบไม้กวาดมากวาดเศษใบไม้เพื่อทำความสะอาด ซึ่งเจ้าของบ้านเองไม่ได้เอะใจอะไร เมื่อเจ้าของบ้านเผลอจึงฉวยโอกาสเข้าไปขโมยโทรศัพท์มือถือแล้วหนีไป
ดังนั้นจึงขอฝากประชาสัมพันธ์ไปถึงประชาชนชาวกาญจนบุรี ว่าที่ผ่านมาบ้านใครที่มีผู้สูงอายุอยู่เพียงลำพังรวมทั้งบ้านที่เปิดประตูทิ้งเอาไว้โดยไม่มีคนอยู่ ก็ขอให้กลับมาระมัดระวังเพิ่มขึ้น สำหรับบริเวณโดยรอบบ้านหลังเกิดเหตุค่อนข้างเป็นพื้นที่เปลี่ยว และเจ้าของบ้านที่อยู่ก็อายุมากแล้ว จึงทำให้ง่ายต่อการก่อเหตุ แต่อย่างไรก็ตามเบื้องต้นได้ประสานผู้นำท้องถิ่นให้ช่วยกันสอดส่องดูแลซึ่งกันและกันส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจจะออกตรวจตราพื้นที่สุ่มเสี่ยงให้เคร่งครัดมากขึ้นกว่าเดิม
สำหรับที่มาของการจับกุมนั้น เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรีและเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภ.จว.กาญจนบุรี ได้ร่วมกันตรวจภาพจากกล้องวงจรปิดจนกระทั้งทราบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุนั้นเป็นใคร จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ติดตามและไปเฝ้าบ้านพักของผู้ต้องสงสัยมาเป็นเวลา 2 วัน จนกระทั้งคนร้ายย้อนกลับมาที่บ้านพัก เมื่อพบเจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวและสามารถจับกุมตัวคนร้ายเอาไว้ได้ และจากการตรวจปัสสาวะพบว่าฉี่เป็นสีม่วงซึ่งตัวผู้ต้องหาก็ยอมรับสารภาพว่าเพิ่งเสพยาบ้าเข้าไป เบ้องต้นเจ้าหน้าที่จำดำเนินคดีในข้อหาลักทรัพย์และข้อหาเสพยาเสพติดรวม 2 คดี
ด้านนายจำลอง แจ่มจำรัส เจ้าของบ้านผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ช่วงเวลาประมาณ 07.00 น.ของวันที่ 18ก.ค.ที่ผ่านมา ขณะนั้นตนอยู่หน้าบ้านส่วนหลานสาวนอนเล่นอยู่ในห้องนอน ต่อมาคนร้ายได้เดินมาทักพร้อมกับถามหาลูกชายของตนโดยบอกว่ารู้จักกัน ตนก็ไม่ได้เอะใจอะไร จากนั้นคนร้ายได้ไปหยิบเอาไม้กวาดมากวาดเศษใบไม้ ตนจึงไม่ได้เอะใจอะไรและคิดในใจว่านิสัยดี แต่ระหว่างที่ตนขนขยะไปทิ้งคนร้ายได้ฉวยโอกาสเข้าไปไปขโมยเอาโทรศัพท์ที่ชาร์ตเอาไว้ในห้องส่งสัญญาณวิทยุแล้วหลบหนีไป ตนจึงนำคลิปจากกล้องวงจรปิดส่งไปให้ลูกชายแล้วสอบถามว่ารู้จักกันหรือไม่ ซึ่งปรากฏว่าลูกชายไม่รู้จัก
สำหรับโทรศัพท์มือถือของตนซื้อมาในราคา 12,000 บาท ถึงแม้จะไม่ได้คืนตนก็ไม่เสียดาย แต่การที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมตัวคนร้ายได้อย่างรวดเร็วตนก็รู้สึกดีใจและต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นอย่างมาก เพราะอย่างน้อยคนร้ายจะได้ไม่มีโอกาสไปก่อเหตุกับคนอื่นอีก
ด้านนายสุทนต์ เทือกเถาว์ หรือต๋อง เตาปูน ผู้ต้องหากล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนเคยมาส่งน้ำที่บ้านหลังดังกล่าว และเคยขอให้ลูกชายเจ้าของบ้านที่เป็นดีเจวิทยุเปิดเพลงให้ฟัง ครั้งแรกตนไม่ได้ตั้งใจที่จะขโมยเอาทรัพย์สินอะไร แต่เมื่อพบโทรศัพท์จึงตัดสินใจขโมยเอาไปขายในราคา 500 บาท เมื่อได้เงินมาจึงนำไปซื้อยาบ้ามาเสพ จนกระทั้งมาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบประวัติพบว่านายสุทนต์ เทือกเถาว์ หรือต๋อง เตาปูน เคยถูกเจ้าหน้าที่ สภ.หนองขาว อ.ท่าม่วง จับกุมตัวมาแล้วครั้งหนึ่งในข้อหายาเสพติด ระหว่างนำตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดกาญจนบุรี ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชะลอรถเพื่อข้ามทางรถไฟ นายสุทนต์ฯ ได้อาศัยช่วงที่ดังกล่าวกระโดดลงจากรถแล้ววิ่งหลบหนีไปทั้งๆที่ยังถูกล็อกด้วยกุญแจมือ แต่เจ้าหน้าที่ก็สามารถติดตามจับกุมตัวเอาไว้ได้ ซึ่งนายสุทนต์ฯ ถูกศาลตัดสินจำคุกเป็นเวลา 6 เดือน หลังจากพ้นโทษก็ยังมาก่อเหตุคดีดังกล่าวอีก