รวบตัว ! "ชาวไทย" นำแรงงานเถื่อนชาวเมียนมา จำนวน 12 คน เป็นชาย 4 หญิง 8 ลักลอบเข้าเมือง
23 ก.ค. 2565, 10:59
วันที่ 23 ก.ค.65 พ.อ.พสิษฐ์ ชาญเลขา รอง ผบ.มทบ.44/รอง ผอ.รมน.จังหวัด ช.พ.(ท.) เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ หน.ชรต.403(ช.พ.) พร้อม จนท.ฝ่ายการข่าว กอ.รมน.จังหวัด ช.พ. บูรณาการกำลังร่วมกับ จุดตรวจตรวจศิลาสลัก ร้อย.ร.2521 เนื่องจากได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ว่าจะมีการขนแรงงานต่างด้าวโดยใช้ถนนเส้นทางสายบ้าน บางมาด-บ้านท่าข้าม มุ่งหน้าสู่ พื้นที่ อ.เมืองชุมพร จว.ชพ. และจะมีรถมารับออกไปนอกพื้นที่ จึงจัดกพ.ซุ่ม พื้นที่ ถนนบ้านบางมาด ม.12 ต.รับร่อ อ.ท่าแซะ จว.ชพ.
ต่อมาวันที่ 22 ก.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบรถยนต์กระบะตอนเดียวสีขาวคลุมผ้าใบสีดำยี่ห้อโตโยต้าวีโก้ทะเบียนบน 9265 ประจวบคีรีขันธ์ กำลังเปลี่ยนถ่ายคนจำนวนมาก ไปยังรถยนต์กระบะตอนครึ่งยี่ห้อเอ็มจีทะเบียน ผต 8678 นครศรีธรรมราช จากนั้นนำผ้าใบสีดำปิดทับ เร่งเครื่องออกจากพื้นที่ทันทีเจ้าหน้าที่จัด กพ.ไล่ติดตามไปตามถนนมุ่งหน้าบ้านท่าข้ามเมื่อไปถึงสี่แยกท่าข้ามรถคันดังกล่าวเลี้ยวซ้ายขับมุ่งหน้าบ้านหัวว่าว และลื่นลงไหล่ถนนด้านซ้าย ลักษณะหัวรถหันขึ้นถนน บริเวณข้างวัดถ้ำรับร่อ ม.4 ต.ท่าข้าม อ.ท่าแซะ จว.ชพ. ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือตกออกนอกตัวรถ
เจ้าหน้าที่ได้เข้าทำการตรวจสอบ พบว่ามีคนหลบหนีออกจากรถและควบคุมตัวได้ คือ นายทวีศักดิ์ หรือ ตาล แสวงศิลป์ อายุ 28 ปี ที่อยู่ 131 ม.10 ต.ดงเสือเหลือง อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร และนาย นัฐพล หรือ นุ ปราบนรินทร์ อายุ 36 ปี ที่อยู่ 6 ม.10 ต.ดอนยาง อ.ปะทิว จว.ชพ. เป็นคนนั่งข้าง ส่วนด้านหลังกระบะรถ พบคนวิ่งลงจากรถ หลบหนีเข้าไปยังสวนปาล์ม สามารถควบคุมตัวได้ เป็นชาวเมียนมา จำนวน 12 คน เป็นชาย4 คนหญิง 8 คน
จากการสอบสวนผ่านล่าม เบื้องต้น ชาวเมียนมา ได้เดินทางมาจากที่ต่างๆของประเทศเมียนมาโดยรถตู้โดยสารจำนวน 1 คัน เมื่อวันที่ 14 ก.ค. 65 ใช้เวลาเดินทาง 5 วัน ได้ลงรถตู้ที่ อ.เขม่าจี ฯ วันที่ 19 ก.ค.65 พักในป่า จนมาถึง วันที่ 21 ก.ค.65 เวลา 19.00 น.ข้ามมายังฝั่งไทยด้วยเรือหางยาว จำนวน 1 ลำ นั่งเรือ 5 นาทีมายังฝั่งไทยจากนั้นเดินเท้า 5 นาที มารอพักคอยเพื่อรอรถ วีโก้สีขาว ทะเบียน บน9265 ปข. โดยคนที่เดินทางไปประเทศมาเลเซียจ่ายค่านายหน้าคนละ 52,000 บาท ส่วนคนที่ยังไม่ทราบจุดหมายทราบแค่ว่าทำงานในประเทศไทยจ่ายค่านายหน้าคนละ 68,000 บาท โดยจ่ายไปแล้วครึ่งหนึ่งเมื่อไปที่ทำงานแล้วค่อยหักเงินอีกครึ่ง ในภายหลังจนครบจำนวน
โดยนาย นัฐพลฯ ผู้นำพาให้การว่า มีนายสุธีร์ ฯ ติดต่อให้ตนไปรับชาวเมียนมาที่ ต.ปากจั่นฯ ตนไม่ทราบว่าเป็นที่ไหนแต่วิ่งจากเส้นใน ต.ปากจั่น อ.กระบุรี จ.ระนอง โดยชาวเมียนมาได้นั่งรออยู่แล้วบริเวณป่า โดยคนที่ประสานจุดรับชาวเมียนมาชื่อ นายไข่ ฯ ให้บรรทุกชาวเมียนมาไปส่งยังพื้นที่จังหวัดชุมพร บริเวณบ้านท่ามะปริงได้ค่าจ้างหัวละ 6,500 บาท โดยตนจะต้องแบ่งให้นายสุธีร์ หัวละ1,000 บาท จ่าย ให้ นาย ทวีศักดิ์ฯทำหน้าที่ขับรถนำทาง 5,000 บาท ทำมาแล้วจำนวน 3 ครั้ง
ด้านนายทวีศักดิ์ฯ ได้รับว่าจ้างจากนาย นัฐพลฯ ให้ขับรถนำทาง มาแล้วจำนวน 3 ครั้ง แต่เนื่องจากคืนเกิดเหตุรถของ นายนัฐพลฯ ยางแตก ตนจึงต้องถ่ายคนมายังรถของตนพร้อมด้วยนายนัฐพลฯมานั่งข้างคนขับและปล่อยรถคันวีโก้สีขาวจอดอยู่ข้างทาง
เจ้าหน้าที่จึงดำเนินการตามมาตรการป้องกันโรค โควิด-19 และนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางบันทึกจับกุมส่ง พนักงานสอบสวน สภ.ท่าแซะ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป