เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



สสน.สร้างฝายชะลอน้ำ ส่งเสริมเกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น 20,000–50,000 บาท


29 ก.ค. 2565, 13:57



สสน.สร้างฝายชะลอน้ำ ส่งเสริมเกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น 20,000–50,000 บาท




คณะกรรมการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำชุมชนปะทิว อำเภอปะทิว จ.ชุมพร ได้เริ่มดำเนินงานมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2559  ภายใต้เครือข่ายน้ำกับสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) หรือ สสน. และมูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชูปถัมภ์  ซึ่งได้เข้ามาส่งเสริมและพัฒนาการบริหารจัดการน้ำเพื่อการเกษตร ตลอดจนน้ำอุปโภคบริโภคของอำเภอปะทิว 4 ตำบลได้แก่ ตำบลบางสน ตำบลชุมโค ตำบลทะเลทรัพย์  และตำบลสะพลี  มีการส่งเสริมและสนับสนุนต้นแบบด้านการบริหารจัดการน้ำ ทำให้เกิดเครือข่ายการจัดการน้ำชุมชนตามแนวพระราชดำริ  

คณะกรรมการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำชุมชนปะทิว หลังการดำเนินงานร่วมกับ สสน. และมูลนิธิอุทกพัฒน์ฯ ส่งผลให้ชุมชนเกิดแนวคิดในการฟื้นฟูแหล่งน้ำ ซ่อมแซมดูแลรักษาโครงสร้างเดิมในพื้นที่ รวมถึงการบริหารจัดการน้ำ ทำให้การกักเก็บน้ำ การหาน้ำและใช้น้ำ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์ต่อชุมชนในส่วนของหน่วยงานที่มีส่วนร่วมกับพื้นที่ดำเนินงานตามแผนงานดังกล่าว อาทิ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้ง 4 ตำบล   สถานีตำรวจภูธรอำเภอปะทิว  ศูนย์ปรับปรุงพันธุกรรมกุ้ง (สาขาปะทิว) (CPF) สถาบันการศึกษาในพื้นที่ และ ประชาชนทั่วไปที่อาศัยอยู่ในพื้นที่

ปัจจุบันประชาชนในพื้นที่อำเภอปะทิว 4 ตำบล  มีน้ำใช้เพื่อการเกษตรและอุปโภคบริโภคตลอดปี ลำห้วยและแหล่งน้ำต่าง ๆ มีน้ำหล่อเลี้ยงตลอดปี โดยนำเอาฝายชะลอน้ำ ฝายหินก่อ การพัฒนาแหล่งน้ำ ตามแนวพระราชดำริในหลวงรัชกาลที่ 9 มาปรับใช้ในชุมชน จนเกิดผลสำเร็จเห็นเป็นรูปธรรมจับต้องได้ และยังก่อให้เกิดพลังความสามัคคี ความร่วมมือกันระหว่างคนในชุมชนเอง และระหว่างชุมชน รวมทั้งหน่วยงานราชการและเอกชนในพื้นที่ เกิดการขยายเครือข่ายไปยังชุมชนใกล้เคียง เกิดการดำเนินงานที่ต่อเนื่อง ทำให้ชุมชนเข้าใจปัญหาดิน น้ำ ป่า โดยมีเครื่องมือ และข้อมูลทางวิทยาศาสตร์เข้ามาช่วย จนเกิดผลสำเร็จ มีน้ำใช้เพียงพอ และเกิดการอนุรักษ์ ดูแล ป่าต้นน้ำของเราไว้ให้ลูกให้หลานในวันหน้าต่อไป

ในปี พ.ศ. 2559   สร้างฝายชะลอน้ำแบบแกนดินหินก่อตำบลทะเลทรัพย์  1 แห่ง แปลงทฤษฎีใหม่ชุมชน 1 แปลง  ฟื้นฟูพื้นที่ป่าไม้ 1 แห่ง ปี พ.ศ.2560  สร้างฝายชะลอน้ำแบบแกนดินหินก่อตำบลสะพลี  1 แห่ง  แปลงทฤษฎีใหม่ชุมชน จำนวน 3 แปลง ปี พ.ศ. 2561  สร้างบล็อกหน้าฝาย เพื่อป้องกันน้ำกัดเซาะตลิ่งจำนวน 1 แห่ง ในตำบลชุมโคและแปลงทฤษฎีใหม่ชุมชน จำนวน 5 แปลง  สนับสนุนโรงน้ำดื่มชุมชนตำบลทะเลทรัพย์ 1 โรง  ปี พ.ศ. 2562  สร้างฝายชะลอน้ำแบบแกนดินหินก่อ จำนวนพื้นที่ตำบลบางสน จำนวน 5 ตัว และแปลงทฤษฎีใหม่จำนวน 3 แปลง ปี พ.ศ. 2563  สร้างบล็อกชะลอน้ำจำนวน 2 แห่งในพื้นที่ตำบลสะพลี และตำบลทะเลทรัพย์ และแปลงทฤษฎีใหม่ชุมชนจำนวน 3 แปลง  สนับสนุนโรงน้ำดื่มชุมชน จำนวน 2 โรง  ในพื้นที่ตำบลบางสน และตำบลสะพลี และจากผลงานที่สร้างให้ชุมชุนเกิดความเข้มแข็งพึ่งพาตนเอง มีรายได้เลี้ยงครอบครัว  จนได้รับรางวัลสระพระราชทาน จำนวน 2 สระ จากมูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ และต่อมาในปี พ.ศ. 2564  ซ่อมฝายและประตูน้ำตำบลบางสน  จำนวน 1 แห่ง  แปลงทฤษฎีใหม่ชุมชนจำนวน 2  แปลง โรงน้ำดื่มชุมชน จำนวน 2 โรงในพื้นที่ตำบลบางสน และตำบลชุมโค

ในปี พ.ศ.2565 นี้ ทางมูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้รับงบประมาณสนับสนุนจากแหล่งทุนภายนอก เข้ามาร่วมสมทบคือ ธนาคารไทยพาณิชย์ ฯ (SCB) และในปี พ.ศ. 2565 สร้างฝายชะลอน้ำแบบแกนดินหินก่อตำบลบางสน จำนวน 1 แห่ง โรงน้ำดื่มชุมชนตำบลทะเลทรัพย์ 1 แห่ง ระบบกรองน้ำเพื่อการอุปโภค ประปาหมู่บ้าน จำนวน 2 แห่ง หน่วยงานที่ร่วมสมทบทุนเข้ามูลนิธิฯ ของปีนี้ คือ มูลนิธิบัวหลวง ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)

นายพิเชษฐ์ ศรีสดใส รองประธานเครือข่ายบริหารจัดการทรัพยากรน้ำชุมชนปะทิว  นางสาวชิดสุภางค์ ชำนาญ ผู้ประสานงาน/เลขานุการ เครือข่ายบริหารจัดการทรัพยากรน้ำชุมชนปะทิว นายธนเทพ กมศิลป์ คณะกรรมการเครือข่ายบริหารจัดการทรัพยากรน้ำชุมชนปะทิว แกนหลักสำคัญในการขับเคลื่อนรวมกันเปิดเผยว่า ขอบเขตพื้นที่ดำเนินงานใน 4 ตำบลคือ ตำบลทะเลทรัพย์ ตำบลชุมโค ตำบลบางสน และตำบลสะพลี ที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 59 - 65 ขุดสระน้ำพระราชทานจำนวน 2 สระ สร้างฝายชะลอน้ำ 12 ฝาย โรงน้ำดื่มชุมชน 5 โรง และแปลงทฤษฎีใหม่ 15 แปลง

ภายใต้แผนงานบริหารจัดการน้ำชุมชนตามแนวพระราชดำริ ที่สนับสนุนงบประมาณ โดย มูลนิธิอุทกพัฒน์ในพระบรมราชูปถัมภ์ และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (สสน.) (องค์การมหาชน) เป็นการดำเนินงานทฤษฎีใหม่ของชุมชน ตามโครงการเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9  

“ เป็นการปรับแนวคิดในการทำเกษตรครัวเรือนตามแนวทฤษฎีใหม่ เสริมระบบกระจายน้ำเพื่อลดการใช้น้ำ และเก็บสำรองน้ำในแปลงเพาะปลูก พึ่งพาตนเอง ลดรายจ่ายในครัวเรือนจากบริโภคพืชผักในแปลง ร่วมแบ่งปันและแบ่งขาย จดบันทึกรายรับ – รายจ่าย เปรียบเทียบความเปลี่ยนแปลง เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 20,000 – 50,000 บาทต่อครัวเรือนต่อปี” นายพิเชษฐ์ ศรีสดใส รองประธานเครือข่ายบริหารจัดการทรัพยากรน้ำชุมชนปะทิวกล่าว





คำที่เกี่ยวข้อง : #สระน้ำพระราชทาน   #ชุมพร  




Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.