วันนี้ 01 ส.ค. 2656 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นายสุทธิพร ศิวเวทพิกุล นายอำเภอสังขละบุรี เป็นประธานงานรณรงค์ปลูกหญ้าแฝกเพื่อการอนุรักษ์ดินและน้ำ เพื่อความยั่งยืนทางการเกษตร เพื่อประชาชนและเกษตรกรตระหนักถึงประโยชน์ของหญ้าแฝกในการอนุรักษ์ดินและน้ำตามแนวทางพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในการทรงงานจะสืบสานรักษาและต่อยอดโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริต่างๆและสืบเนื่องด้วย ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมาเป็นวันเฉลิมระชนมพรรษา 70 พรรษา ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติ แสดงออกถึงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่มีต่อพสกนิกรชาวไทย

 

ทั้งนี้เป็นที่ทราบกันดีว่าสภาพพื้นที่อำเภอสังขละบุรี มีลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาและพื้นที่ลาดชัน ในช่วงฤดูฝนเมื่อมีฝนตกลงมาน้ำจะไหลจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดการกัดเซาะพังทลายของหน้าดิน นอกจากนี้ทำให้ดินสูญเสียความอุดมสมบูรณ์  อ่างเก็บน้ำไม่สามารถอยู่ในสภาพตื้นเขินเนื่องจากตะกอนจากภูเขาหรือพื้นที่ไหลลงในอ่างเก็บน้ำ ทำให้ไม่สามารถกักเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้ง ทำให้เกษตรกรไม่สามารถทำการเกษตรได้ 

 

นอกจากนั้นไม่เข้าสู่ฤดูฝนเมื่อฝนตกติดต่อกันหลายวัน จะส่งผลให้เกิดน้ำป่ากัดเซาะพื้นที่ริมตลิ่ง ส่งผลให้พื้นที่ทางการเกษตรและที่อยู่อาศัยของชาวบ้านได้รับความเสียหาย ทำให้ทางราชการต้องสูญเสียงบประมาณในการสร้างกำแพงคอนกรีต เพื่อป้องกันน้ำป่ากัดเซาะตลิ่ง และนอกจากนั้นน้ำที่กัดเซาะตลิ่งยังส่งผลให้แม่น้ำ ลำคลอง ในพื้นที่ตื้นเขินซึ่งเป็นปัญหาที่ทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นทุกๆปี

ซึ่งในงานนอกจากมีการให้ความรู้เกี่ยวกับหญ้าแฝก แก่เกษตร ประชาชน ผู้นำชุมชนแล้ว ภายในงานยังมีการแจกหญ้าแฝกให้ส่วนราชการ ผู้นำชุมชน ประชาชน และเกษตรกรนำไปปลูกเพื่อเป็นการใช้ประโยชน์จากหญ้าแฝกและขยายพันธุ์แฝกให้มีการใช้อย่างแพร่หลายในการแก้ปัญหาในพื้นที่ชุมชน และพื้นทำกินของประชาชน

 

นอกจากนั้นยังมีการร่วมกันปลูกหญ้าแฝก เพื่อป้องกันการชะล้างพังทลายของดินบริเวณรอบคลองห้วยมาลัย ความยาวกว่า 500 เมตร ทั้งนี้เพื่อสร้างจิตสำนึกที่ดีและมีส่วนร่วมในการฟื้นฟูพื้นที่สาธารณะและแหล่งน้ำให้มีความอุดมสมบูรณ์ รวมทั้งเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้ชุมชนด้วย

 

ทั้งนี้นายคงกฤช อินทเสน (รักษาราชการผู้อำนวยการศูนย?ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตร จังหวัดกาญจนบุรี (เกษตรที่สูง) เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า กิจกรรมในวันนี้มุ่งหวังให้เกษตรกรตระหนักถึงปัญหาการชะล้างพังทลายของดิน และการสูญเสียธาตุอาหารจากดินในพื้นที่ทำการเกษตร เนื่องจากหญ้าแฝกเป็นพืชที่มีระบบรากลึก เจริญเติบโตในแนวดิ่ง เป็นพืชที่ทนแล้งได้ดี มีความสามารถกักเก็บน้ำและความชื้น ช่วยกักเก็บตะกอนที่ถูกน้ำพัด โดยทั่วไประบบรากแผ่กว้างเพียง 50 เซนติเมตรรอบกอเท่านั้น จึงไม่เป็นอุปสรรคต่อเพียงที่ปลูกข้างเคียง หญ้าแฝกยังช่วยกักเก็บตะกอนดิน จากน้ำที่ไหลมาปะทะกอหญ้าแฝก ตะกอนดินจะตกค้างอยู่ตามแนวของหญ้าแฝก รวมทั้งช่วยชะลอความเร็วของน้ำที่ไหลบ่า ทำให้น้ำไหลอย่างช้าๆและบงส่วนซึมลงสู่ดิน จึงเหมาะในการนำมาปลูกในพื้นที่ริมคลองที่ประสบปัญหาการกัดเซาะตลิ่ง ซึ่งหญ้าแฝกช่วยลดความเสียหายได้

ขณะที่นายสุพล สังขโศภา เกษตรกรตัวอย่างที่นำหญ้าแฝกมาปลูกป้องกันการกัดเซาะและชะลอการไหลของน้ำในพื้นที่สวนผสมผสานและนาขั้นบันได เปิดเผยว่านอกจากหญ้าแฝกจะช่วยลดน้ำกัดเซาะคันนาแล้ว ยังช่วยกักเก็บตะกอนที่น้ำฝนพัดพาลงมาจากพื้นที่สูงลงมาสะสมอยู่ในพื้นที่นาข้าว ทำให้ต้นข้าวเจริญเติบโตได้ดี ที่สำคัญช่วยลดต้นทุนเรื่องปุ๋ย โดยอนาคตตนเองจะเปิดพื้นที่สวนให้เป็นแหล่งเรียนรู้เรื่องประโยชน์ของหญ้าแฝกและเกษตรแบบผสมผสาน ซึ่งเป็นวิธีการทำการเกษตรตามแนวพระราชดริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว.