เจ้าหน้าที่ส่งซาก "พะยูนปริศนา" ผ่าชันสูตรหลังพบรอยถูกของมีคมตัด
18 ก.ย. 2562, 19:50
เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 18 กันยายน 2562 ผู้สื่อข่าว onb news รายงานว่า เจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง จ.ตรัง เร่งนำซากพะยูนตัวใหญ่ ไม่ทราบเพศ ไม่ทราบสาเหตุการตาย ขนาดโตเต็มวัย คาดว่าตายมาแล้วประมาณ 5-7 วัน กลับมาขึ้นฝั่งที่ท่าเรือหาดยาว ต.เกาะลิบง โดยเชื่อว่าเป็นพะยูนตัวที่ 11 ที่ถูกพบลอยตายอยู่ในทะเลตรัง บริเวณระหว่างเกาะยา จ.ตรัง - เกาะไหง จ.กระบี่ ห่างกันประมาณ 3 ไมล์ทะเล โดยผู้พบใช้เชือกมัดซากผูกติดไว้ถังแกลลอนน้ำมัน ตั้งแต่วันที่ 14 กันยายนที่ผ่านมา และแจ้งเจ้าหน้าที่สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 10 ให้ออกไปเก็บซาก แต่ค้นหาไม่พบเนื่องจากฝนตกหนักและคลื่นลมแรง จนกระทั่งมีชาวบ้านไปพบซากถูกคลื่นซัดเข้ามาเกยตื้นอยู่บริเวณชายหาดบ้านหลังเขา ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง ในช่วงสายของวันนี้
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่า ซากพะยูนเหลือเพียงหนังและเศษเนื้อ ยาวประมาณ 2 เมตร น้ำหนักประมาณเกือบ 200 กิโลกรัม ส่วนของครีบหางกว้างประมาณ 40 เซ็นติเมตร นับเป็นพะยูนตัวเต็มวัยหนุ่มสาว เบื้องต้นเชื่อว่าน่าจะตายอย่างเฉียบพลันหรือตายจากอุบัติเหตุ แต่ที่สลดซ้ำคือ พบส่วนของผิวหนังมีร่องรอยถูกของมีคมตัดเป็นแนวตามลำตัว สันนิษฐานว่าอาจมีชาวประมงบางคนไปพบซากขณะถูกผูกมัดไว้กับถังแกลลอนน้ำมันลอยอยู่ในทะเล จึงกรีดตัดเลาะเอากระดูก หรือชิ้นส่วนสำคัญเอาไปตามความเชื่อโบราณเรื่องการทำเครื่องรางของขลัง และหากเป็นพะยูนตัวนี้เป็นเพศผู้ ก็อาจมีเขี้ยวหายไปด้วย
ด้าน นายวิทยา มากนคร เจ้าหน้าที่สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 10 เชื่อว่า ซากพะยูนที่พบตัวนี้จะต้องเป็นตัวเดียวกับที่ได้ออกเรือตามหาก่อนหน้านี้อย่างแน่นอน เนื่องจากจุดเกยตื้นบริเวณบ้านหลังเขา จะสัมพันธ์กับทิศทางของคลื่นลม และอยู่ไม่ไกลจากจุดที่คนไปพบขณะลอยอยู่ในทะเล จึงเชื่อว่าเป็นซากพะยูนตัวเดียวกัน ส่วนเพศระบุไม่ได้ โดยจะเร่งนำซากไปส่งศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอันดามัน จ.ภูเก็ต ต่อไป เพราะเท่าที่ตรวจสอบด้วยตาเปล่าพบว่า บริเวณส่วนหนังถูกของมีคมตัด ทำให้ชิ้นส่วนกระดูกหายไป ทั้งนี้ เพื่อให้ทีมสัตวแพทย์ได้ผ่าชันสูตรหาสาเหตุการตายที่แท้จริงต่อไป และดูว่าชิ้นส่วนไหนหายไปบ้าง