วันที่ 2 สิงหาคม 2565 พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบช.ภาค 3 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ประสิทธิ์ เปรมกมล ผกก.สภ.เมืองนครราชสีมา พ.ต.อ.สุริยา นาคแก้ว รอง.ผบก.ตร.ภูธรจังหวัดนครราชสีมา ได้แถลงการจับกุมโจรใช้อาวุธปืนชิงทอง ภายในห้างทองแสงมณี ทองเยาวราช ตั้งอยู่ที่ถนนจอมพล ตำบลในเมือง จังหวัดนครราชสีมา โดยคนร้ายที่จับกุมคือนายเบส อายุ 24 ปี เป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในจังหวัดนครราชสีมา โดยพฤติการของคนร้ายพบว่าได้ปล้นทองสร้อยคอทองคำ 5 เส้น น้ำหนักเส้นละ 1 บาท รวม 5 บาท มูลค่า 150,000 บาท ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี เหตุเกิดเมื่อ 16.10 น.วันที่ 27 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ตำรวจสืบสวนภูธร จ.นครราชสีมา สนธิกำลังกับสืบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา แกะรอยไล่ล่าคนร้าย จนพบเบาะแสคนร้ายขโมยรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า ฟีโน่ สีเทาแดง มาจากบริเวณทุ่งทะเล ต.หัวทะเล อ.เมือง นำมาใช้ก่อเหตุชิงทอง ก่อนมีพลเมืองดีแจ้งเบาะแสพบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัย จอดทิ้งไว้ที่ป่ามันสำปะหลัง ต.ไชยมลคล ห่างจากร้านทองที่เกิดเหตุ 18 กิโลเมตร เมื่อตำรวจไปตรวจสอบ กลับไม่พบรถจักรยานยนต์ แต่พบเสื้อแขนยาว สีกรมท่า ผ้าห่ม 1 ผืน และหมวกกันน็อกถูกทิ้งไว้ คาดว่าเป็นของคนร้าย จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ต่อมาพบว่า รถจักรยานยนต์ต้องสงสัย ถูกคนร้ายนำมาจอดทิ้งไว้บริเวณทุ่งทะเล จุดเดิมที่คนร้ายก่อเหตุขโมย ตำรวจแกะรอยจากกล้องวงจรปิด จึงทราบตัวคนร้าย ก่อนตามไปจับกุมตัวได้ที่หอพักแห่งหนึ่งในตัวเมืองโคราช

ด้านพล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบช.ภาค 3 เปิดเผยว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาชื่อนายเบส อายุ 24 ปี เป็นนักศึกษาแห่งหนึ่งในจังหวัดนครราชสีมา พบว่าสาเหตุของการลงมืออ้างว่าคนไม่พอใช้ ต้องการหาเงิน จึงได้ก่อเหตุลงมือโดยใช้เวลาวางแผนแค่วันเดียว แต่งตัวเสื้อแขนยาวสวมหมวกกันน็อก แต่เห็นในวงจรปิดพบว่าขาเป๋นั้นไม่เป็นความจริง ทางผู้ต้องหาต้องการตบตาเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อไม่ให้ตามจับกุมได้ ทั้งนี้ยังได้มีการลอกสติ๊กเกอร์บนหมวกกันน็อกเพื่อไม่ให้ตำรวจตามตัวได้และส่วนนึงได้ของกลางมาครบเป็นทอง 5 เส้น แต่ 1 เส้นนั้นได้มีการหลอมไป 1 เส้น คาดว่าน่าจะเตรียมตัวไปขายโดยไม่ให้ทองเป็นรูปเดิม ส่วนมอเตอร์ไซด์พบว่าไปขโมยมาอีกทีจากชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ ต.หัวทะเล จ.นครราชสีมา อาวุธปืนไม่พบเนื่องจากผู้ต้องหาได้โยนทิ้งระหว่างทางที่หลบหนี เบื้องต้นได้แจ้งสองข้อหาชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธปืนข่มขู่ ลักทรัพย์เป็นประเภทจักรยานยนต์ อย่างไรก็ตามพฤติกรรมดังกล่าวของคนร้ายคาดว่าน่าจะเลียนแบบมาจากหนังในเรื่องการปล้นทอง โดยไม่มีการวางแผนและกระทำการภายในวันเดียว ซึ่งก็อยากฝากหากคิดจะก่อเหตุแบบนี้ไม่ใช่เรื่องดี เพราะหากต้องคดีมาก็มีโทษร้ายแรงและแนะอยากให้ทำมาหากินแบบสุจริตดีกว่า