เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



"ขจรศักดิ์ ศรีบุญเรือง" สำนึกรักบ้านเกิดทุ่ม 5 ล้านบาท สร้างซุ้มประตูวัดบ้านด่าน เพื่อเฉลิมฉลอง 70 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว


8 ส.ค. 2565, 08:39



"ขจรศักดิ์  ศรีบุญเรือง" สำนึกรักบ้านเกิดทุ่ม 5 ล้านบาท สร้างซุ้มประตูวัดบ้านด่าน เพื่อเฉลิมฉลอง 70  พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว




เมื่อวันที่  7 ส.ค.2565  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ที่วัดบ้านด่าน  ต.สร้างปี่  อ.ราษีไศล  จ.ศรีสะเกษ  พล.อ.สันติพงศ์ ธรรมปยะ  เสนาธิการทหารบก และเลขาธิการ  กอ.รมน.และคณะ ได้เดินทางไปเป็นประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์การก่อสร้างซุ้มประตูวัดบ้านด่าน และพิธีถวายความจงรักภักดี พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ์  พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง  ซึ่ง นายขจรศักดิ์  ศรีบุญเรือง ประธานกรรมการบริหารบริษัท ยูเวิร์ค 999 จำกัด และบริษัท Neo 727 จำกัด บ้านเกิดอยู่ที่บ้านด่านแห่งนี้ ได้บริจาคเงินจำนวน 5,000,000 บาท เพื่อจัดสร้างซุ้มประตูแห่งนี้ขึ้นมา และจัดซื้อรถจักรยาน 2 ล้อ จำนวน  100  คัน มอบให้แก่เด็ก น.ร.ได้ใช้เป็นพาหนะในการเดินทางไปเรียนหนังสืออีกด้วย โดยได้รับความเมตตาจาก พระราชกิตติรังษี ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 10 เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ โดยมี นายสำรวย  เกษกุล  รอง  ผวจ.ศรีสะเกษ  กล่าวต้อนรับ  และมี นายทิวา  รุ้งแก้ว  นายกพุทธสมาคม  จ.ศรีสะเกษ ในนามของคณะทำงานเฉลิมพระเกียรติ  70  พรรษา  มหาวชิราลงกรณ และ 90 พรรษา พระบรมราชชนนีพันปีหลวง  เป็นผู้กล่าวรายงานและมี น.ส.สุชารัตน์ แสงอรุณ ผอ.ททท.สำนักงานสุรินทร์- ศรีสะเกษ  นายตรีเพชร  หารไชย ประธานสภาวัฒนธรรม อ.ราษีไศล นายทอง  คำเอี่ยม กรรมการวัดบ้านด่าน นำคณะข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน ชาวบ้านด่านและหมู่บ้านใกล้เคียงจำนวนมากมาร่วมพิธีและให้การต้อนรับ



นายทิวา  รุ้งแก้ว  นายกพุทธสมาคม  จ.ศรีสะเกษ  กล่าวว่า สืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 28 ก.ค.65 ที่ผ่านมา เป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพ ครบ 70 พรรษา ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว  และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง จะทรงเจริญพระชนมายุครบ 90 พรรษา ในวันที่ 12 ส.ค. 65 ที่จะถึงนี้ นำความปลื้มปิติยินดีมาสู่พสกนิกรทุกหมู่เหล่า ชาวบ้านด่าน อ.ราษีไศล อ.ยางชุมน้อย จ.ศรีสะเกษ และชาว อ.ค้อวัง จ.ยโสธร ที่อยู่ในเขตปริมณฑลของหลวงพ่อทอง  ได้พร้อมใจกันจัดงานเฉลิมฉลอง 70  พรรษา  มหาวชิราลงกรณ  และ  90 พรรษา พระบรมราชชนนีพันปีหลวงขึ้นในวันนี้  ประกอบกับหลวงพ่อทอง  เป็นพระพุทธรูปที่เป็นที่เคารพสักการะของพุทธศาสนิกชนทุกหมู่เหล่า  โดยเฉพาะ  3  อำเภอที่กล่าวมาแล้วนั้น  ได้มาประดิษฐานที่วัดบ้านด่าน ครบ 70  ปี  จึงได้พร้อมใจกันจัดงานขึ้นในวันนี้  โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเฉลิมพระเกียรติ  เนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว  ทรงเจริญพระชนมายุ  ครบ  70 พรรษา  และสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง  ทรงเจริญพระชนมายุครบ  90  พรรษา  เพื่อทำพิธีขอขมา และเฉลิมฉลองในโอกาสที่หลวงพ่อทองมาประดิษฐานอยู่ที่วัดบ้านด่าน ครบ  70  ปี  เพื่อก่อสร้างซุ้มประตูวัดให้สวยงาม  สอดรับกับความวิจิตรงดงามของวิหารหลวงพ่อทอง  โดยประวัติของหลวงพ่อทอง  หลวงพ่อทองเป็นพระพุทธรูปปางห้ามสมุทร  หรือปางห้ามญาติ  ที่อัญเชิญมาจากกรุงเทพมหานคร  มาประดิษฐานที่วัดบ้านด่าน  ตั้งแต่  ปี พ.ศ.2495  พุทธศาสนิกชนทั่วไปให้ความเคารพศรัทธาเป็นอย่างยิ่ง  เคยถูกโจรกรรมไปถึง  2  ครั้ง  แต่ก็ไม่สามารถนำท่านไปได้  ชาวบ้านด่านตามหาจนพบและนำกลับมาประดิษฐานที่วัดบ้านด่านเช่นเดิมทุกครั้ง  ทำให้กิตติศัพท์  และเมตตาบารมีของหลวงพ่อทองขจรขจายเป็นที่กล่าวถึงในวงกว้าง  และเพื่อป้องกันการโจรกรรม  ชาวบ้านด่านจึงได้ทำกรงเหล็ก  นำหลวงพ่อทองไปประดิษฐานไว้ตั้งแต่นั้นมา  ต่อมา นายขจรศักดิ์  ศรีบุญเรือง  ลูกหลานชาวบ้านด่านที่ไปประกอบสัมมาชีพที่กรุงเทพมหานคร  ได้กลับมาอธิษฐานขอเมตตาบารมีจากหลวงพ่อทองว่า  ถ้าทำมาค้าขาย  ธุรกิจเจริญรุ่งเรือง  จะกลับมาสร้างวิหาร  นำท่านออกจากกรง  คำอธิษฐานเป็นจริงดังตั้งใจ  ดังนั้นในปี พ.ศ.2553  นายขจรศักดิ์ ศรีบุญเรือง  จึงได้รวบรวมปัจจัยมาตั้งต้นก่อสร้างวิหาร  พร้อมทั้งได้รับแรงศรัทธาจากญาติมิตร และพุทธศาสนิกชน  ร่วมสมทบทุนก่อสร้างวิหารหลวงพ่อทองอย่างต่อเนื่อง  คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี พ.ศ.2566 แล้วจะอัญเชิญหลวงพ่อทองขึ้นประดิษฐานบนวิหารหลวงพ่อทองต่อไป

พล.อ.สันติพงศ์ ธรรมปยะ  เสนาธิการทหารบก และเลขาธิการ  กอ.รมน. กล่าวว่า ตนขอชื่นชมคณะกรรมการจัดงานทุกท่านและพี่น้องประชาชนชาวศรีสะเกษทุกคนที่ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติฯนี้ขึ้นมา เป็นการรวมพลังความศรัทธาเพื่อสร้างประโยชน์ต่าง ๆ ต่อสาธารณะ ทั้งการมอบรถจักรยาน 2 ล้อและกิจกรรมมากมาย นับว่าเป็นสิ่งที่ดีมีประโยชน์ต่อ จ.ศรีสะเกษและประเทศชาติเป็นอย่างดียิ่ง







Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.