"สาวออฟฟิต" ไปเที่ยวผับกับเพื่อนชายที่ไว้ใจ ก่อนถูกลวงเข้าบ้าน หวังกระทำชำเรา
12 ส.ค. 2565, 08:43
สาวออฟฟิศวัย 24 ปี เข้าร้องสื่อ หลังถูกเพื่อนชายวัย 30 ปี ที่ไว้ใจชวนไปเที่ยวผับโดยพาเพื่อนไปด้วย ซึ่งขากลับชายดังกล่าวขับรถไปส่งเพื่อนสาวอีกรายเสร็จไม่ไปส่งสาวดังกล่าวไปที่พัก แต่กลับพาแวะเข้าบ้านตัวเองและพยายามกระทำชำเรา โดยที่ฝ่ายหญิงได้ออกอุบายจะช่วยสำเร็จความใคร่ให้ เพื่อให้ผู้ก่อเหตุตายใจก่อนใช้แรงที่มีบีบเจ้าโลกหนุ่มหื่น ลากออกจากห้อง สบโอกาสวิ่งหลบหนีขอความช่วยเหลือจากพลเมืองดี
วันที่ 10 สิงหาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสาวเอม (นามสมมติ) อายุ 24 ปี พนักงานออฟฟิศแห่งหนึ่งในเขตพื้นที่อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ ได้นำหลักฐานเข้าร้องเรียนกับสื่อมวลชนว่า ถูกเพื่อนชายที่ไว้ใจ ชื่อนายมนต์(นามสมมติ) อายุ 30 ปี ออกอุบายชวนไปเที่ยวผับ และไม่พากลับไปส่งที่หอพักคืน แต่กลับพาเข้าบ้านตัวเองและพยายามกระทำชำเรา กระทั่ง นางสาวเอม (นามสมมติ) ต้องออกอุบายหลอกล่อให้ผู้ก่อเหตุตายใจ โดยได้สัญญาว่าจะช่วยให้สำเร็จความใคร่ และได้ใช้มือข้างหนึ่งจับอวัยวะเพศของนายมนต์(นามสมมติ) และใช้แรงทั้งหมดที่มีบีบสุดกำลังจนผู้ก่อเหตุยอมปล่อยตัว นางสาวเอม (นามสมมติ) จึงได้รีบวิ่งไปเปิดประตูห้องเพื่อหนีออกจากบ้านหลังดังกล่าวประกฎว่าประตูรั้วถูกล็อกไว้ จึงได้ปีนกำแพงหลบหนีซึ่งมีความสูงราว 1.5 เมตร จนถูกไม้ระแนงขูดที่น่องขาข้างซ้ายบาดเจ็บ และได้วิ่งไปขอความช่วยเหลือจากพลเมืองดีนำส่งหอพัก ช่วงเช้ามืดของวันอาทิตย์ที่ 7 สิงหาคม ที่ผ่านมา
และต่อมา นางสาวเอม (นามสมมติ) ได้นำหลักฐาน ข้อความแชทและภาพความบาดเจ็บ เข้าพบ พ.ต.ท.แสงหิรัณย์ แก้วดี สว.สส.สภ.เมืองสุรินทร์ เพื่อแจ้งความใน เวลาประมาณ 20.00 น. ของวันเดียวกัน โดยทางตำรวจจะได้เรียกผู้ก่อเหตุมาสอบสวน และหากมีความคืบหน้าอย่างไร ผู้สื่อข่าวจะรายงานให้ทราบต่อไป
นางสาวเอม (นามสมมติ) ได้เล่าเหตุการณ์ในคืนเกิดเหตุให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ตนเองมีงานประจำทำอยู่แล้ว และมีงานเสริมคือโพสต์เฟซบุกขายโทรศัพท์มือสองจากร้านคนรู้จัก นายมนต์(นามสมมติ) (ซึ่งทราบภายหลังว่าเป็นเพื่อนของแฟนเพื่อนตนเอง) ได้ทักเฟซบุกมาหาตนถามหาร้านซ่อม เพื่อจะเอาโทรศัพท์ไปซ่อม ตนจึงให้รายละเอียดร้านไป จากนั้นนายมนต์(นามสมมติ) ก็แชทเข้ามาเรื่องๆ ลักษณะคุยเล่นอยอกล้อกัน แต่ตนก็ไม่ได้คิดอะไร และนายมนต์(นามสมมติ) ได้ถามตนว่า มีแฟนหรือยัง ตนเองก็บอกไปว่าตนมีแฟนแล้ว ซึ่งแฟนตนอยู่ตนอยู่ต่างจังหวัด ซึ่งหลังจากนั้น ตนและนายมนต์(นามสมมติ) ก็เจอกันโดยบังเอิญบ่อยครั้ง และนายมนต์(นามสมมติ)ก็มักชักชวนตนเองไปเที่ยวอยู่เรื่อย
ในวันที่เกิดเหตุ ช่วงเย็นวันเสาร์ที่ 6 สิงหาคม ที่ผ่านมา หลังจากที่ตนเลิกจากงานประจำ ตนเองได้โพสต์เฟซบุกส่วนตัวว่า “เลิกงานแล้ว ชวนออกหน่อย” นายมนต์(นามสมมติ) จึงได้ส่งข้อความมาทางกล่องข้อความในเฟซบุกส่วนตัวว่า “คืนนี้ไปเมาที่ไหนไหมครับ” ตนเองจึงตอบกลับไปว่า ไม่ได้ไปไหน เพราะไม่มีเงิน ไหนพี่เคยบอกว่าจะเป็นเจ้ามือเลี้ยงหนู นายมนต์(นามสมมติ) จึงได้โทรศัพท์มาหาตนผ่านแอพลิเคชั่น เฟซบุก พอดีตนติดสายคุยกับแฟนอยู่ จึงได้โทรกลับไปหานายมนต์(นามสมมติ) และได้ชวนตนไปเที่ยวผับ ตนจึงขอเวลาตัดสินใจพร้อมกับได้โทรศัพท์ไปชวนเพื่อนสาวที่สนิทกันไปด้วย และตอบตกลงไป หลังจากนั้น เวลาประมาณ 01.00 น. (เช้าวันอาทิตย์ที่ 7) นายมนต์(นามสมมติ) ก็ขับรถออกมารับตนและเพื่อนที่หอพัก ระหว่างนั่งรถก็คุยกันปกติ ส่วนใหญ่แล้ว นายมนต์(นามสมมติ) จะคุยถึงแต่เรื่องที่ตัวเองอกหัก อยากมีเพื่อนกิน เที่ยว และจะย้ำเสมอว่า “พี่เป็นสุภาพบุรุษพอ ไม่ต้องกลัว”
หลังจากเดินทางไปถึงผับแห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองสุรินทร์ นายมนต์(นามสมมติ) จึงได้สั่งเครื่องดื่มมา 2 ชุด ของเขาเอง 1 ชุด และของตนกับเพื่อนอีก 1 ชุด โดยตนเองได้ลุกเดินไปเข้าห้องน้ำบ่อยครั้ง นายมนต์(นามสมมติ) จึงได้พยายามถามถึงตนกับเพื่อนตนว่า เพื่อนนอนที่ไหน และตนเองนอนที่ไหน โดยนายมนต์(นามสมมติ) ได้บอกกับเพื่อนตนไปว่า เขาจะนอนกับตนเอง ซึ่งก่อนหน้านี้ตนได้บอกไปกับนายมนต์(นามสมมติ) ไปว่า ตนนอนกับเพื่อนสาวคนดังกล่าว และหลังจากนั้น เวลาราว 04.20 น. ผับใกล้ปิด นายมนต์(นามสมมติ) จึงได้ชักชวนกันไปกินหมูกระทะต่อ พอกินเสร็จก็ขับรถกลับ โดยได้เดินทางไปส่งเพื่อของตนก่อน โดยนายมนต์(นามสมมติ) ได้รับปากกับเพื่อนตนว่า จะเดินทางไปส่งตนเอง ซึ่งช่วงนั้นก็เช้าจนเห็นพระออกบิณฑบาตแล้ว ซึ่งนายมนต์(นามสมมติ) ขับรถเร็วมาก และขับออกนอกเส้นทาง ตนจึงถามไปว่า จะพาตนไปไหน นายมนต์(นามสมมติ) ได้บอกกับตนว่า ไปบ้านพี่ก่อน ไปคุยเป็นเพื่อน พี่เหงา จึงเลี้ยวเข้าบ้าน และเดินไปล็อกประตูรั้ว ตนเองเริ่มใจไม่ดีแล้ว พยายามจะหมุนเพื่อปิดกระจกรถไม่ให้นายมนต์(นามสมมติ) เข้าถึงตัวเองได้ แต่นายมนต์(นามสมมติ) ก็ได้พยายามเปิดประตูและถามตนว่า จะลงดีๆหรือจะให้พี่อุ้มลง ตนจึงบอกไปว่า เดี๋ยวหนูลงเอง อย่ามาแตะเนื้อต้องตัวหนู และตนก็ย้ำอยู่คำเดียวว่า ให้ไปส่งหนูที่หอ นายมนต์(นามสมมติ) ได้บอกกับตนว่า อยู่เป็นเพื่อนพี่ก่อน เหลือเบียร์อยู่ 2 กระป๋อง ตนเองจึงยอมเดินเข้าไปนั่งในบ้าน ตนเองก็ย้ำไปอีกว่า ไม่ดื่ม หนูจะกลับห้อง ไปส่งเดี๋ยวนี้ ตนจึงลุกเพื่อจะเดินออกจากบ้านหลังดังกล่าว นายมนต์(นามสมมติ) จึงได้กระชากชนเข้าไปในห้องนอน ตนเองเห็นท่าไม่ดีจึงได้ใช้มือจับกับขอบประตูไว้พร้อมใช้ขาเกี่ยวขอบประตู แต่สู้แรงผู้ชายไม่ไหว เพราะนายมนต์(นามสมมติ) เป็นคนตัวใหญ่แรงเยอะ ตนจึงล้มลงนอนไปกับพื้น นายมนต์(นามสมมติ) จึงได้ล็อกประตูและลากเก้าอี้มากั้นประตูอีกที เพื่อปิดทางไม่ให้ตนหนี หลังจากนั้น นายมนต์(นามสมมติ) ก็ได้นั่งคุยเรื่องผู้หญิงของเขา และได้เดินมาหอมที่หัวของตน ตนก็พยายามขัดขืนไม่ให้นายมนต์(นามสมมติ) เข้าใกล้
นายมนต์(นามสมมติ) ได้ดึงเอากระเป๋าสะพายของตนออกซึ่งในนั้นมีโทรศัพท์อยู่ และก็ได้มีปากเสียงกัน นายมนต์(นามสมมติ) ก็เริ่มลวนลามตน ขณะนั้นตนกลัวจนร้องให้หนักมาก ตนเองก็พยายามขัดขืนตลอด ผู้ก่อเหตุจึงได้พูดออกมาว่า พี่ขอไป ชักว่าว ในห้องน้ำได้ไหม ตนเองจึงตอบไปว่า ไปเลยจะทำอะไรก็ได้ แต่อย่าแตะต้องตัวหนู นายมนต์(นามสมมติ) จึงพูดมาอีกว่า ขอชักว่าวต่อหน้าหนูได้ไหม ตนก็ตอบไปคำเดิมว่า จะทำอะไรก็ได้ แต่อย่ามาแตะต้องตัวหนู ฝั่งนายมนต์(นามสมมติ) เองก็พยายามเข้ามาประชิดตัวตน แต่ตนก็พยายามขัดขืนจนเกิดการต่อสู้กัน นายมนต์(นามสมมติ) ได้พูดมาว่า ยิ่งหนูร้องให้พี่ก็อยากจะเอาชนะ ตนจึงได้รวบรวมสติและพูดออกไปว่า งั้นหนูจะทำให้พี่เสร็จเอง นายมนต์(นามสมมติ) จึงได้ถอดเสื้อผ้าออกทั้งหมด และเดินไปเอาถุงยางอนามัยมา และเดินมาประชิดตัวของตนพยายามถอดกระดุมกางเกงตน ซึ่งในวันที่เกิดเหตุตนใส่กางเกงยืนขาสั้นแน่นพอดีจึงไม่สามารถถอดออกได้ง่าย และได้มีการขัดขืนป้องกันตัวเองอยู่ระยะหนึ่ง ตนจึงพูดไปว่า เดี๋ยวหนูจะช่วยพี่เอง ผู้ก่อเหตุก็ได้นอนลง ตนจึงใช้จังหวะนี้จับและใช้แรงทั้งหมด บีบไปที่อวัยวะเพศของนายมนต์(นามสมมติ) พร้อมพูดทั้งน้ำตาว่า หนูให้พี่ไปส่ง ทำไมพี่ไม่ไปส่งหนู ตนเองจึงบอกให้นายมนต์(นามสมมติ) ไปเปิดประตูให้ โดยนายมนต์(นามสมมติ) ขอร้องให้ตนปล่อยแต่ตนก็ไม่ปล่อยเพราะกลัวจะไม่ปลอดภัย ตนจึงเดินไปเปิดประตูเองโดยมือหนึ่งกำอวัยวะเพศของนายมนต์(นามสมมติ) ไว้แน่น และลากนายมนต์(นามสมมติ) เดินมาที่ประตูเพื่อใช้อีกมือหนึ่งเปิดประตูออกจากห้อง พร้อมกับดึงอวัยวะเพศนายมนต์(นามสมมติ) มานั่งที่โซฟากลางบ้านขอให้เอากุญแจเปิดประตูรั้วหน้าบ้านให้ นายมนต์(นามสมมติ) จึงบอกมาว่า ประตูไม่ได้ล็อก ตนไม่เชื่อ จึงหาโอกาสปล่อยมือและรีบวิ่งออกจากบ้านหลังดังกล่าว ขณะนั้นตนเองไม่ได้คิดอะไรเลย คิดแต่จะทำยังไงให้หลุดรอดออกไปได้ โดยประตูรั้วบ้านก็ถูกล็อกไว้และมีความสูงท่วมหัวตน ตนจึงได้ปีนข้ามรั้วกำแพงบ้านหลังดังกล่าวและตกลงใส่โคลนสภาพเปื้อนโคลนทั้งตัว
ขณะนั้นตนทั้งกลัว ตัวสั่นและร้องให้เดินออกไปถึงปากซอยเจอพลเมืองดี 2 คน และได้ขอความช่วยเหลือ ต่อมาไม่นอน นายมนต์(นามสมมติ) จึงขับรถตามมาและบอกว่าจะไปส่ง ตนจึงพูดไปว่า หนูไม่ไปกับพี่หรอก พี่จะข่มขืนหนู และหนูก็จะไปแจ้งความด้วย โดยพลเมืองดีจะอาสาพาไปส่งเอง ซึ่งตนเองก็ได้บอกไปกับนายมนต์(นามสมมติ) ว่า หนูรู้จักกับพี่เขา(พลเมืองดี) ผู้ก่อเหตุจึงรีบขับรถออกไปเลย หลังจากนั้นพลเมืองดีคนดังกล่าวก็ได้ขับรถมาส่งตนเองที่หอพัก และได้ถามว่าเป็นอะไร ตนจึงเล่าให้ฟังทั้งหมด
โดยหลังจากที่เกิดเรื่องขึ้น นายมนต์(นามสมมติ) ก็ยังตามตื้อด้วยการโทรหาตนและพยายามเข้ามาหาตนให้ได้ ตนจึงได้ติดต่อไปยังเพื่อนที่รู้จักนายมนต์(นามสมมติ) โดยเพื่อนก็บอกมาว่า ผู้ชายคนนี้เจ้าชู้ ให้ตนระวังตัวไว้ด้วย
โดยก่อนหน้านี้ตนได้รู้จักกับนายมนต์(นามสมมติ) มาเกือบ 1 ปีแล้ว จากการพูดคุยเรื่องโทรศัพท์และยังเป็นเพื่อนของแฟนเพื่อนตนด้วย ดูจากภายนอกเป็นคนนิสัยดี พูดจาดี เจอกันในที่เที่ยวบ่อยครั้ง พูดจาจนตนไว้ใจว่าเป็นสุภาพบุรุษ เป็นคนไว้ใจได้ โดยที่ตนตนกล้ารับปากไปเที่ยวกับผู้ก่อเหตุครั้งนี้ เป็นเพราะความไว้ใจและไปกับเพื่อนไม่ได้ไปคนเดียว ตนจึงอยากจะฝากเตือนเป็นอุทาหรณ์สำหรับผู้หญิงทุกคน แม้แต่คนที่ไว้ใจที่สุด ยังไว้ใจไม่ได้เลย
ล่าสุดในวันนี้ (11 ก.ค.65) ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ไปสอบถาม พ.ต.ท.แสงหิรัณย์ แก้วดี สว.สส.สภ.เมืองสุรินทร์ (สารวัตรเวรเจ้าของคดี) ระบุว่า ตำรวจได้ออกหมายเรียกผู้ถูกกล่าวหาแล้ว และได้รับการติดต่อกลับจะเข้ามาให้การตามหมายเรียก และขอเจรจาไกล่เกลี่ยกับผู้เสียหายในวันจันทร์ที่ 15 ส.ค.65 นี้ ขณะที่ผู้ถูกกล่าวหา คือนายโจ้ นามสมมติ ได้ใช้เฟสบุ๊คส่วนตัว ส่งข้อความไปยังเฟชบุ๊คของผู้เสียหาย ในลักษณะบ่ายเบี่ยงและระบุว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ร้ายแรงอย่างที่ถูกกล่าวหา และยังกล่าวหาฝ่ายหญิงในเชิงให้การกับตำรวจเกินความเป็นจริงอีกด้วย