"อ.ท่าวังผา" ยังอ่วมหนัก! ระดับน้ำขึ้นสูงเรื่อยๆ ด้าน "เทศบาลเมืองน่าน" เร่งระบายน้ำออกจากตัวเมืองพื้นที่เศรษฐกิจ
12 ส.ค. 2565, 22:00
จากประกาศ กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเตือน พายุดีเปรสชั่น "มู่หลาน" บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 570 กิโลเมตร มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ด้วยความเร็วประมาณ 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนผ่านเกาะไหหลำ และเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนในวันที่ 11 สิงหาคม 2565 ส่งผลทำให้ในช่วงวันที่ 11 – 13 สิงหาคม 2565 มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก ซึ่งทางจังหวัดน่าน จะได้รับผลกระทบ ในวันที่ 12 และ13 สิงหาคม 2565 ขอให้ประชาชน บริเวณดังกล่าวระวังอันตรายเฝ้าระวังไว้ด้วยโดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย
ทางด้านบ้าน ท่าค้ำ อ.ท่าวังผา จ.น่าน ในช่วงเย็นวันนี้ ระดับน้ำยังเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ชาวบ้านบางส่วนได้ขึ้นไปอยู่บนชั้น2 ของบ้าน และ ขนของขึ้นไว้บนชั้น2ของบ้าน โดยบ้านท่าค้ำ มีบ้านกว่า 200 หลังคาเรือน ในตอนนี้ ถูกน้ำท่วมเกือบทุกหลัง นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ได้เข้าช่วยเหลือผู้ป่วยที่มีอาการหายใจติดขัด ออกมาเพื่อนำส่งโรงพยาบาล ท่ามกลางน้ำไหลเชี่ยว โดยระดับน้ำท่วมบ้านท่าค้ำ มีระดับ 50เซนติเมตร ถึง 1เมตร และมีแนวโน้มบริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ในตอนนี้ ที่ อ.ท่าวังผา มีหมู่บ้านไรรับผลกระทบจากน้ำท่วมแล้ว 6 หมู่บ้าน บ้านอาฮาม, นาหนุน,ท่าค้ำ ,ดอนตัน ,สบหนอง รวมทั้งเขตเทศบาลตำบลท่าวังผา รวมแล้วกว่า 1,000 กว่าหลังคาเรือน ทางเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนเร่งให้ความช่วยเหลือ
ในส่วนของเทศบาลเมืองน่าน ด้านนายสุรพล เธียรสูตร นายกเทศมนตรีเมืองน่าน มอบหมายให้งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลเมืองน่าน เร่งระบายน้ำออกจากตัวเมืองพื้นที่เศรษฐกิจ ในเขตเทศบาลเมืองน่าน หลังจากฝนตกหนักใน ในพื้นทีเมื่อคืนที่ผ่านมาติดต่อกันหลายชั่วโมง ทำให้มวลน้ำในพื้นที่ อ.เมืองน่านเพิ่มขึ้น โดยทางเทศบาลเมืองน่านได้ปิดประตูน้ำทั้งหมดแล้ว และทำเปิดเครื่องสูบน้ำขนาด 12 นิ้ว บริเวณใต้ต้นโพธิ์ พร้อมเปิดเครื่องสูบน้ำขนาด 12 นิ้ว บริเวณใต้สะพานพัฒนาภาคเหนือ และเปิดเครื่องสูบน้ำขนาด 1.20 เมตร 3 เครื่อง ที่ติดตั้งท้ายคลองเจ้าฟ้า บ้านพวงพยอม ตำบลในเวียง อำเภอเมืองน่าน เพื่อระบายน้ำออกจากพื้นที่เขตเทศบาลเมืองน่าน คาดว่าจะสามารถป้องกันไม่ให้น้ำไหลเข้าท่วมตัวเมืองได้