ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา (13 ส.ค.65) ที่สนามแสดงช้างอำเภอเมืองจังหวัดสุรินทร์ นายสุวพงศ์ กิติภัทย์พิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เป็นประธานเปิดงาน การแสดงแสงสีเสียง “สืบสานตำนานช้างไทย”ภายใต้โครงการพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยววิถีชุมชน ประจำปี2565 ระหว่างวันที่ 13 - 14 สิงหาคม 2565 ณ สนามแสดงช้างจังหวัดสุรินทร์ ตำบลนอกเมือง อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดสุรินทร์ ด้านศิลปะวัฒนธรรม ประเพณี อารยธรรมอีสานใต้ และร่วมอนุรักษ์วิถีชีวิตคนกับช้างจังหวัดสุรินทร์ให้คงอยู่สืบไป ตามแผนแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (ยุทธศาสตร์การพัฒนาภาคเมืองและพื้นที่เศรษฐกิจ) นโยบายของรัฐบาล ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยการสร้างสิ่งจูงใจและสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกื้อกูลต่อบรรยากาศการท่องเที่ยวส่งเสริมการท่องเที่ยวที่ครอบคลุมแหล่งท่องเที่ยวอันมีลักษณะโดดเด่นร่วมกันหรือจัดเป็นกลุ่มได้ เช่น กลุ่มธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่นและสุขภาพ และเชื่อมโยงกับผลิตภัณฑ์ที่พัฒนามาจากวิถีชีวิตชุมชน เน้นให้ความรู้ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน การควบคุมสินค้าและบริการให้มีคุณภาพ ราคาเป็นธรรมตลอดจนการอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ได้มีการนำช้างแสนรู้ร่วมกว่า 20 เชือก ที่แต่งองค์ทรงเครื่องอย่างสวยงามมาร่วมการแสดงครั้งนี้ ร่วมกับชาวบ้านที่แต่งกายในชุดพื้นเมืองมาร่วมแสดงวิถีชีวิตพื้นบ้านของคนกับช้าง ด้วยบรรยากาศที่อบอุ่นอย่างยิ่ง
สำหรับการแสดงแสงสีเสียง “สืบสานตำนานช้างไทย” มีองก์การแสดง(ฉาก) ดังนี้ องก์ที่ 1 รอยอารยะธรรมปราสาทตาเหมือน (ปราสาทสองแผ่นดิน สุรินทร์-กัมพูชา) การเดินแบบแฟชั่นโชว์ ชุดขอมโบราณ “ศิราภรณ์แห่งศรัทธา ปราสาท 2 แผ่นดิน”,องก์ที่ 2 คชสารป้องปฐพี (ยุทธหัตถี) องก์ที่ 3 การจับช้างป่า (โพนช้าง) การเดินแบบแฟชั่นโชว์ "แพรพรรณห่มแผ่นดินถิ่นวิถีชาวสุรินทร์", องก์ที่ 4 ตำนานความภักดีจารึกแผ่นดิน,องก์ที่ 5 วิถีช้าง วิถีชน ชาวสุรินทร์ และการเดินแบบแฟชั่นโชว์ชุดฟินาเล่" "มหัศจรรย์ภูษาถักทอคุณค่างานช้างสุรินทร์" องค์ที่ 6 แสดงช้างแสนรู้ องค์ที่ 7 ช้างเดินแฟชั่นโชว์ องค์ที่ 8 การเซ่นศาลปะกำของช้าง
วันที่ 14 สิงหาคม 2565 ยังมีการจัดแสดงอีก 1 วันภายในงาน มีสนามไฟต่างๆที่สวยงามเป็นรูปสัตว์ต่างๆเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูป และการเที่ยวในงานไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้นฟรีตลอดงานพร้อมทั้งช็อปปิ้งสินค้าที่มีคุณภาพจากชาวชุมชน