เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



ครม.ไฟเขียวลดภาษีประจำปี "แท็กซี่-สามล้อ-วินจยย." ลง 90%


16 ส.ค. 2565, 16:34



ครม.ไฟเขียวลดภาษีประจำปี "แท็กซี่-สามล้อ-วินจยย." ลง 90%




วันนี้ ( 16 ส.ค.65 ) นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงมติคณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่าง พ.ร.ฎ. ลดภาษีประจำปีสำหรับรถยนต์รับจ้าง รถยนต์รับจ้างสามล้อ และรถจักรยานยนต์สาธารณะตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ พ.ศ. .... เพื่อช่วยลดต้นทุนการประกอบการรถสาธารณะทั้งรถยนต์รับจ้าง (แท็กซี่) รถยนต์รับจ้างสามล้อ และรถจักรยานยนต์สาธารณะ บรรเทาภาระค่าใช้จ่ายจากราคาพลังงานโลกมีการปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากวิกฤติพลังงานรอบใหม่ทั้งน้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซธรรมชาติ จากสงครามการสู้รบระหว่างรัสเซียและยูเครน กระทบต่อเศรษฐกิจไทยที่พึ่งพาการนำเข้าพลังงานถึงร้อยละ 75 ส่งผลให้ต้นทุนการประกอบการของรถสาธารณะเพิ่มสูงขึ้น กระทบต่อรายได้ของผู้ประกอบอาชีพ อาจจะไม่เพียงพอต่อการดำรงชีวิต

ทั้งนี้ ร่างพ.ร.ฎ.ฯ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ลดอัตราภาษีรถประจำปีสำหรับรถยนต์รับจ้าง รถยนต์รับจ้างสามล้อและรถจักรยานยนต์สาธารณะ ที่ครบกำหนดเสียภาษีรถประจำปีระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 65 ถึง 30 กันยายน 66 ลงร้อยละ 90 ของอัตราภาษีประจำปีท้ายพ.ร.บ. รถยนต์พ.ศ. 22 ดังนี้



รถยนต์รับจ้าง (รถแท็กซี่) มีน้ำหนักรถ 1,300 กก. เสียภาษี 68.50 บาทจากเดิม 685 บาท น้ำหนักรถ 2,000 กก. เสียภาษี 106 บาทจากเดิม 1,060 บาท

รถยนต์รับจ้างสามล้อ น้ำหนัก 500 กก. เสียภาษี 18.50 บาท จากเดิม 185 บาท

รถจักรยานยนต์สาธารณะ (อัตราภาษีจะคิดต่อคัน) เสียภาษี 10 บาท จากเดิม 100 บาท

ซึ่งมาตรการลดอัตราภาษี ในครั้งนี้ ทำให้รัฐสูญเสียรายได้ประมาณ 70,257,501.07 บาท หรือคิดเป็นร้อยละ 0.197 ของภาษีของรถทุกประเภททั้งหมดที่จัดเก็บ จึงส่งผลกระทบต่อรายได้ของ กทม. และ อปท. เพียงเล็กน้อยแต่สามารถช่วยบรรเทาความเดือดร้อนและภาระค่าใช้จ่ายของผู้ประกอบอาชีพขับรถสาธารณะได้อีกมาตรการหนึ่ง

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมารัฐบาลได้ดำเนินการเยียวยาโครงการช่วยเหลือกลุ่มอาชีพ รถแท็กซี่ และรถยนต์สาธารณะที่มีอายุเกิน 65 ปี ที่อยู่ในกลุ่มแรงงานนอกระบบและไม่เป็นผู้ประกันตน ตาม ม.33 ม. 39 และม. 40 ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 29 จังหวัด ไปแล้ว รวม 16,694 คน (แท็กซี่ จำนวน 12,918 คนและวินมอเตอร์ไซค์ จำนวน 3,776 คน) โดยสนับสนุนเงินช่วยเหลือค่าของชีพคนละ 5000 บาท/เดือน รวม 16,694 คน ภายใต้กรอบวงเงิน 166.94 ล้านบาท แล้ว







Recommend News





MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.