ผู้สื่อข่าว ประจำจังหวัดสุรินทร์ รายงานความความคืบหน้าในกรณีที่ที่นายเอกราชสกุลเจริญกิจธารา อายุ 33 ปีบ้านเลขที่82/1เทศบาลตำบลระแงงอ.ศีขรภุมิจ.สุรินทร์ ขับรถโตโยต้า หมายเลขทะเบียนกต1752สุรินทร์และนางสาววันทนีย์ สกุลเจริญกิจธารา อายุ 30 ปีพร้อมกับ ด.ช.วิชญ์ อายุ4ขวบและดญ.กัญญาวี อายุ 3 ขวบที่ติดไปกับพ่อแม่ จนกระทั่งมีเหตุรถพลิกคว่ำบริเวณทางหลวงสาย 226ถนนสายห้วยทับทับ-จ.ศรีสะเกษได้รับความเสียหายไปทั้งคันส่วนผู้ที่ติดไปภายในรถความปลอดภัยโดยได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2565 เวลา20.30น.ที่ผ่านมานั้น ขอร้องความเป็นธรรมกับสื่อมวลชน ในพื้นที่อ.ศีขรภูมิ ว่า ได้ขับรถยนต์ ไปสั่งชื้อผลไม้ ที่ อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ ช่วงเดินทางกลับบ้านที่ อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ ได้ขับรถหักหลบหลุมบนถนนทางหลวงสาย 226 ช่วงห้วยทับทัน-ศรีสะเกษซึ่งกำลังก่อสร้างขยายช่องจราจรระยะที่กำลังก่อสร้างแบบกระชั้นชิดเพราะไม่มีป้ายใดๆบอกแจ้งเตือนและถนนมืดมิดทำให้รถพลิกคว่ำตกลงข้างทางเสียหายไปทั้งคันและครอบครัวทั้ง 4 คนได้รับบาดเจ็บและยังไม่มีหน่วยงานใดๆออกมารับผิดชอบตามที่ได้นำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้แล้วนั้น

วันนี้ 24 ส.ค.65 เวลา 14.17 น.ร.ต.อ.อภิวัฒน์เกษร รองสว.(สอบสวน) แจ้งว่าตาม ปจว.ข้อ1 ลงวันที่ 3 สิงหาคม 2565เวลา ประมาณ20.54น.กรณีนายเอกราช สกุลเจริญกิจธารา ได้ขับรถยนต์เก๋งทะเบียน กต1750 สุรินทร์เกิดอุบติเหตุพลิกคว่ำตกข้างทางถนนทำให้รถได้รับความเสียหายและมีผู้ได้รับบาดเจ็บเหตุเกิดที่ถนนทางหลวงหมายเลข 226 บริเวณก่อนถึงโรงเรียนบ้านสร้างเรือ ต.ห้วยทับทัน อ.ห้วยทับทัน จ.ศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2565 เวลาประมาณ 20.54 น.นั้น

จาการสอบสวนได้ข้อเท็จจริงว่าก่อนเกิดเหตุในคดีนี้ถนนทางหลวงดังกล่าวอยู่ในระหว่างการก่อสร้างขยายผิวจราจรซึ่งมีบริษัทส.เขมราฐฯเป็นผู้รับเหมาดำเนินการก่อสร้างถนนดังกล่าวขณะเกิดเหตุถนนบางช่วงมีการเปิดให้ใช้การจราจรและและเบี่ยงใช้เส้นทางสลับกันใช้ช่องทางเป็นระยะ

ระหว่างนั้นเองนายเอกราชฯได้ขับรถยนต์เก๋งคันเกิดเหตุไปตามถนนดังกล่าวจากด้านจังหวัดศรีสะเกษมุ่งหน้าจังหวัดสุรินทร์รถสามารถวิ่งได้ 2 ช่องจราจร แต่ยังไม่มีการแบ่งเส้นถนนก่อนขับมาถึงที่เกิดเหตุนายเอกราชฯได้ขับรถยนต์คันเกิดเหตุอยู่ในช่องจราจรที่ 2 นับจากซ้ายมือเมื่อขับมาถึงบริเวณก่อนถึงโรงเรียนบ้านสร้างเรือ ที่เกิดเหตุช่องจราจรที่ 2 สิ้นสุดการลาดยางมะตอยทางข้างหน้าถูกขูดผิวจราจรออกช่องการจราจรที่2จึงมีระดับต่ำกว่าช่องจราจรที่1และผิวจราจรขรุขระไม่พร้อมเปิดใช้การจราจรบริษัทฯมีหน้าที่ต้องป้องกันอุบัติเหตุของผู้ใช้ทางสัญจรถนนบริเวณดังกล่าวโดยทำป้ายเตือนผู้ใช้ทางสัญจรทราบว่าทางข้างสิ้นสุดการจราจรแต่บริษัทฯกลับงดเว้นการกระทำดังกล่าวจึงเป็นผลโดยตรงให้นายเอกราชฯขับรถยนต์คันดังกล่าวเสียหลักตกข้างถนนได้รับความเสียหายจึงเห็นว่าอุบัติเหตุดังกล่าวเกิดจากความประมาทของบริษัทส.เขมราฐ