"ชัชชาติ" ขอบคุณกองทัพส่งกำลังพลร่วมทำเขื่อนกระสอบทรายป้องกันน้ำท่วมริมเจ้าพระยา
29 ส.ค. 2565, 16:03
วันนี้ ( 29 ส.ค.65 ) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ตรวจการเตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำล้นตลิ่งริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยให้กำลังใจเจ้าหน้าที่จากสำนักการระบายน้ำ กทม. และขอบคุณทหารที่สนับสนุนกำลังพลช่วยในการวางแนวกระสอบทรายเพื่อป้องกันน้ำท่วมบริเวณที่ไม่มีเขื่อนกั้นน้ำถาวร (จุดฟันหลอ) ณ กรมอู่ทหารเรือ เขตบางกอกน้อย
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า การทำแนวเขื่อนกั้นน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยการบรรจุกระสอบทรายและวางเรียง เป็นความร่วมมือระหว่างกองทัพไทยกับกรุงเทพมหานคร ตามที่พลเอกประวิตร วงสุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้ให้ความช่วยเหลือมา ตอนนี้จุดที่สำคัญ 2 จุด คือ การเรียงกระสอบทรายบริเวณอู่ทหารเรือธนบุรี ระยะทางประมาณ 100 เมตร ซึ่งเป็นจุดที่ฟันหลอ เนื่องจากเป็นจุดที่ต้องนำเรือเข้าออก หากน้ำไหลเข้าจากจุดตรงนี้ได้ก็จะเข้าไปกระทบชุมชนด้านในหลายชุมชน วันนี้มีกำลังพลจากเจ้าหน้าที่ทหารเรือ 50 นาย มาร่วมกับเจ้าหน้าที่กทม. 50 นาย บรรจุกระสอบทราย 8,000-10,000 ใบ และวางเรียงเพื่อทำแนวเขื่อนกั้นน้ำที่ความสูง + 2.80 ม.รทก. จะแล้วเสร็จในบ่ายนี้ อีกจุดที่บริเวณถนนเจริญกรุง เป็นอีกจุดรูรั่ว มี 2 จุดคือใต้สะพานตากสิน และบริเวณสะพานปลา มีกำลังเจ้าหน้าที่ทหารบกอีก 50 นาย ไปช่วยบรรจุกระสอบทรายให้พร้อมในการจัดเรียง
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวเพิ่มเติมว่า กทม.กับกองทัพก็ได้มีการประสานงานกันมาตลอด ตั้งแต่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้ให้นโยบายมาเมื่อเดือนที่แล้ว และติดตามมาตลอด ได้มีความร่วมมือกันในการขุดลอกคลองต่างๆ อนาคตคงมีความร่วมมือกันมากขึ้น เพื่อความมั่นใจและความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน ทหารเองก็มีกำลังและองค์ความรู้ กรมอุทกศาสตร์ที่ดูน้ำขึ้นน้ำลง รวมถึงเครื่องมือ เช่นเครื่องผลักดันน้ำ แต่ต้องดูทั้งประเทศ ก็อาจมีบางส่วนที่จะขอมาช่วยเรื่องผลักดันน้ำในพื้นที่ กทม.ได้ ทหารเรือเองก็ช่วยดูแลชุมนุมในบริเวณอย่างใกล้ชิดทั้งการเตือนและเข้าไปดูแลปัญหาต่างๆ
ทั้งนี้ ความคืบหน้าการป้องกันแนวฟันหลอริมเจ้าพระยาในพื้นที่กรุงเทพฯ รวม 76 จุด ได้เรียงกระสอบทราบตลอดแนวแล้ว 97% เหลือ 3% ในการเสริมแนวเขื่อนให้สูงขึ้น สำหรับสถานการณ์น้ำปัจจุบัน นำ้เหนือที่ไหลผ่านกรุงเทพมหานคร อยู่ประมาณ 1,400 ลบ.ม./วินาที ระดับน้ำเฝ้าระวังที่ปากคลองตลาด วานนี้อยู่ที่ 1.86 เมตร ยังอยู่ในระดับที่เขื่อนควบคุมได้ โดยในปีนี้ระดับน้ำที่ปากคลองตลาดจะอยู่ที่ 2.08 เมตร ซึ่งขณะนี้ยังไม่เกิน ยังไม่ถึงจุดวิกฤต ปัญหาคือน้ำที่รั่วจากจุดรอยต่อที่เป็นตะเข็บหรือจุดอ่อนที่รั่วผ่านช่องระบายน้ำอื่นขึ้นมา ก็พยายามดูแลภาพรวม ต้องติดตามสถานการณ์โลก เรื่องน้ำก็น่ากลัว ภาวะโลกร้อนที่ทำให้เกิดฝนที่ไม่คาดคิดในหลายพื้นที่ เราก็พยายามเตรียมรับมือไว้ ทั้งการทำเขื่อนและการระบายน้ำ คงต้องช่วยกัน
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวด้วยว่า พื้นที่ฝั่งธนบุรีไม่น่าเป็นห่วง ได้มีการขุดลอกคลองไว้ค่อนข้างดี มีแค่คลองทวีวัฒนาที่มีจุดคอขวด ด้านฝั่งตะวันออกที่กังวลคือปริมาณน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ซึ่งจะมีผลกับคลองประเวศบุรีรมย์ และคลองแสนแสบ อาจต้องขอเรือผลักดันน้ำจากกองทัพไปช่วยด้วย โดยทางสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติรายงาน ในช่วง 4-5 วันนี้ฝนจะเบาลง จะเร่งระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ขออย่าตะหนกกังวลมาก ฝนจะเว้นช่วงไปจนถึงวันที่ 3 กันยายน จึงต้องเร่งระบายน้ำออกเพื่อระบายน้ำจากพื้นที่ตอนบน เป็นการทำงานกันอย่างบูรณาการไร้รอยต่อทุกหน่วยงาน กทม.เป็นหนึ่งในฟันเฟืองที่ช่วยกันแก้ปัญหา “หลักการคือเราดูแลชุมชนใกล้เคียง หน่วยไหนใกล้ก็ดูแลชุมชนด้วย สุดท้ายก็จะเห็นภาพต่อรวมกันทั้งกรุงเทพฯได้ ต้องขอบคุณกองทัพและทุกหน่วยที่ร่วมมือกัน เชื่อว่าการร่วมมือกันจะทำให้ประชาชนมั่นใจและอุ่นใจมากขึ้น ที่ทุกคนร่วมมือกันโดยเอาพี่น้องประชาชนเป็นที่ตั้ง” ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าว
สำหรับการตรวจในวันนี้มี นายวิษณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พลเรือโทปกครอง มนธาตุผลิน เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารเรือ พลตรีญาณะโชติ ผลฉาย ผู้อำนวยการสำนักงานกิจการพลเรือน สำนักนโยบายและแผนกลาโหม และนายชยันต์ เมืองสง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารสำนักการระบายน้ำ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมคณะ