เวลา 00.30 น. วันที่ 30 สิงหาคม 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางเสาธง สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีเหตุระเบิด มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย ภายในโรงงานบรรจก๊าซหุงต้มแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ 11 ตำบลบางเสาธง อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลใกล้เคียง รถดับเพลิง อบต.บางเสาธง และใกล้เคียงกว่า 10 คัน เดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ในที่เกิดเหตุบริหน้าโรงงานพบผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 5 ราย นั่งและนอนอยู่กับพื้น มีแผลถูกไฟคอกทั้งตัว อาการสาหัส เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพและมูลนิธิ ให้การช่วยเหลือและรีบนำส่งโรงพยาบาล ภายในโรงงานพบเพลิงกำลังโหมลุกหลายจุด โดยเฉพาะถังก๊าซขนาดใหญ่ภายในโรงงาน เจ้าหน้าที่ต้องวางแผนการปฏิบัติอย่างรัดกุมและปลอดภัยก่อนจะเข้าเคลียร์เพลิงทีละจุดเพื่อควบคุมสถานการณ์ไม่ให้บานปลายมากไปกว่านี้ ท่ามกลางกลิ่นก๊าซแอลพิจีที่ยังคงฟุ้งกระจายทั่วบริเวณ โดยเจ้าหน้าที่สั่งอพยพและปิดกั้นพื้นที่โดยเด็ดขาดเพื่อเคลียร์ที่เกิดเหตุ ใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมสถานการณ์และปิดวาล์วถังก๊าซทุกจุดได้สำเร็จ  โดยในที่เกิดเหตุนอกจากจะมีถังขนาดใหญ่ยังพบว่ามีถังก๊าซหุงต้มในครัวเรือนอีกเป็นร้อยใบ

จากการสอบถามคนงานบางส่วนระบุว่า ก่อนเกิดเหตุไม่มีพนักงานทำงาน โดยโรงงานบรรจุก๊าซแห่งนี้มีพนักงานทั้งคนไทยและต่างชาติรวมประมาณ 30 คน และพากันเข้านอนแล้ว ขณะกำลังนอนพักผ่อนกันอยู่ ก็ได้ยินเสียงระเบิดไม่ทราบจุดที่แน่ชัดภายในโรงงาน ทำให้แสงเพลิงและแรงอัดกระจายทั่วพื้นที่จนไปถูกเพื่อนคนงานหลายคนที่กำลังพักอยู่ในห้องพักคนงานภายในบริษัทจนต้องพากันวิ่งหนีตายฝ่าวงล้อมของแสงเพลิงออกมา

นายราเชน กลิ่นโสภณ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัย อบต.บางเสาธง ให้ข้อมูลพร้อมกับนักดับเพลิงท่านอื่นว่า หลังจากที่เคลียร์พื้นที่เรียบร้อย ทีมดับเพลิงได้เดินสำรวจที่เกิดเหตุเพื่อความมั่นใจจนไปพบรอยรั่วที่ท่อส่งก๊าซระหว่างถังก๊าซจากรถขนส่งมายังถังก๊าซกักเก็บของโรงงาน  ซึ่งท่อดังกล่าวเป็นลักษณะคล้ายท่อยางที่ไว้ใช้ถ่ายก๊าซจากถังไปอีกถัง จากรอยรั่วดังกล่าวจึงคาดการณ์ว่าน่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการรั่วไหลไปตามพื้นจนเต็มพื้นที่ จนกระทั่งก๊าซที่รั่วไหลดังกล่าวไปเจอประกายไฟจึงทำให้เกิดการระเบิดอย่างรุนแรง