เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



คืบหน้า ! "นายทุน" โหดทวงหนี้หลานสาวไม่ได้มาบังคับให้ถอดสร้อยคอทองคำ - บังคับให้เซ็นใบรับสารภาพหนี้แทน แถมจะยึดวัวในคอก


30 ส.ค. 2565, 22:11



คืบหน้า ! "นายทุน" โหดทวงหนี้หลานสาวไม่ได้มาบังคับให้ถอดสร้อยคอทองคำ - บังคับให้เซ็นใบรับสารภาพหนี้แทน แถมจะยึดวัวในคอก




จากกรณีผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสุรินทร์ ได้รับการร้องทุกข์จากคุณยายสุบิน บุตรงาม อายุ 65 ปี ว่า เมื่อเวลาประมาณ14.30 น.ว่า ได้มีนายทุนเงินกู้จำนวน 3 คนมีผู้หญิง 2 คนและผู้ชายจำนวน 1 คน ตัวผู้ชายอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาหาพร้อมกับแจ้งบอกว่าหลานสาวชื่อนางสาวอภิญญา แสงแก้วเขียว อายุ 28 ปี ซึ่งไปทำงานรับจ้างอยู่ที่ จ.กระบี่ ได้ไปกู้เงินกับนายทุนคนหนึ่งมีบ้านอยู่ที่อำเภอสำโรงทาบ จ.สุรินทร์ โดยนายทุนเงินกู้คนดังกล่าวได้มาทวงหนี้โดยครั้งแรกคุณยายไม่มีเงินให้ โดยนายทุนคนดังกล่าวบังคับให้ถอดสร้อยคอทองคำหนักจำนวน 1 บาทไป ในราคา30,000บาท และถัดมาอีก2- 3วัน นายทุนคนเดิม ก็กลับมาทวงอีกซึ่งตนเองไม่รู้จะทำอย่างไรนายทุนคนดังกล่าวบังคับให้ถอดเลสข้อมือไปอีกจำนวน 1 เส้นไป จนหมดพร้อมกับให้ยายเซ็นต์หนังสือยินยอมสารภาพหนี้ซึ่งตนเองไม่รู้จะทำอย่างไรสามีก็เพิ่งเสียไปได้ประมาณ 3 เดือนกว่า หลานสาวที่ไปทำงานอยู่ที่ จ.กระบี่ ก็ไม่ทราบว่าไปสร้างหนี้อะไรไว้กับนายทุนคนดังกล่าว

ยายสุบินยังเล่าต่อว่า ล่าสุดเมื่อวันที่28ส.ค.เวลาประมาณ14.30น.นายทุนคนดังกล่าวกลับมาทวงหนี้กับตนเองตนไม่รู้จะทำอย่างไรโดยนายทุนคนดังกล่าวได้มาข่มขู่ต่างๆนานานพร้อมกับให้ตนเซ็นต์หนังสือรับสารภาพหนี้โดยการให้นำวัวในคอกและรถยนต์ของหลานที่จอดอยู่ ในบริเวณบ้าน เพื่อที่จะนำออกไป ซึ่งตนเองไม่ยอมจนกระทั่งมีนายเพลิน วังสันต์ซึ่งเป็น อบต.ภายในหมู่บ้านมาพบเข้า จึงได้สอบถามไปว่าเงินที่หลานยืมพวกคุณไปก็ส่วนของหลาน ยายแกไปเกี่ยวอะไรด้วยประกอบกับพวกคุณที่พากันบุกรุกเข้ามาแบบนี้ถือว่าผิดกฏหมายนะครับอะไรก็ไม่มีมาแสดงแล้วพากันบังคับให้ยายถอดสร้อยถอดแหวนไปหมดผมก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าพวกคุณมาทำอะไร เรื่องนี้พวกคุณทำไม่ถูกต้องและหลานสาวที่กู้เงินไปก็ไม่ได้เกี่ยวกับยายและยายจะไปรู้เรื่องอะไรพวกคุณมาทำแบบนี้พวกคุณมีหลักฐานอะไรเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ก็มีนี่พวกคุณเอาเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไหนมาข่มขู่ยาย

ทางด้านลูกสาวของคุณยายสุบิน บอกว่าหลังจากที่พ่อตนเองเสียชีวิตไป ตนเองก็มาอยู่บ้านกับแม่ ไม่ให้แม่เหงา ส่วนลูกสาวของตนที่ไปรับจ้างทำงานอยู่ที่ จ.กระบี่ นั้นตนเองได้สอบถามไปแล้วว่าเงินที่ยืมไปก็ส่งดอกให้เป็นประจำทุกสิ้นเดือนและมาเจอสภาพเศรษฐกิจแบบนี้และไวรัสโควิด ลูกสาวตนเองไม่มีงานทำจึงหาเงินส่งดอกไม่ทันจนกระทั่งมีเจ้าหนี้มาทวงถามที่บ้านและข่มขู่แม่ของตนเองโดยก่อนหน้านี้ก็ได้สร้อยคอทองคำไป และเลสข้อมือ ของแม่ไป แล้วและยังมาบังคับให้แม่เซ็นต์รับสารภาพหนี้เพื่อที่จะนำวัวในคอกไปและรถที่จอดไว้ก็เป็นชื่อของตนเองที่ไปชื้อออกมา ยังมาบังคับที่จะยึดสิ่งของไปจนหมดตนเองก็เลยไม่มีที่พึ่งและเกรงว่าจะเกิดอันตราย จึงได้เดินทางมาแจ้งความเอาไว้เป็นหลักฐานที่สภ.หนองจอก ต.คาละแมะ อ.ศีขรภูมิและให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุดเพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแม่ของตนเองไม่ทราบเลยว่าลูกสาวของตนเองไปเป็นหนี้อะไรเท่าไหร่ซึ่งตนเองไม่เข้าใจทำไมต้องมาข่มขู่แม่ของตนเองด้วยและแม่ ไปเกี่ยวข้องกับเจ้าหนี้ ได้อย่างไร ลูกสาวนางสุบินกล่าว

ขณะที่ คุณยายสุบิน ยังบอกอีกว่าวัวตัวดังกล่าวตนเองได้ถูกหวย 3 ตัวโต๊ดเต็ง30X30ได้เงินมาจำนวนสองหมื่นบาทและนำเงินดังกล่าวไปซื้อวัวไว้ให้หลานไว้เลี้ยงและเพื่อเป็นทุนการศึกษาของหลานแต่นายทุนนจะมายึดไป ตนเองจึงไม่ยอมและพร้อมที่จะสู้ให้ถึงที่สุด ถ้านายทุนมานำวัวออกจากคอกไปตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดวันนี้ (30 ส.ค.65) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยัง สภ.บ้านหนองจอก ต.คาละแมะ อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีดังกล่าว โดย พ.ต.อ.เสฎฐกรณ์ สมัยจารุวัฒน์ สารวัตรใหญ่.สภ.บ้านหนองจอก กล่าวถึงความคืบหน้าของคดีสั้นๆว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างทำการสอบปากคำ คุณยายผู้เสียหาย เมื่อปรากฏข้อเท็จจริงแล้วก็จะออกหมายเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องมาดำเนินการตามกฏหมายต่อไป ทั้งนี้ หลังจากที่ได้รับทราบข่าวตนเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจได้จัดประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจและสั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนลงพื้นที่และได้เข้าไปตรวจสอบกับเรื่องที่เกิดขึ้นพร้อมกับสอบถามผู้ร้องทุกข์หาหลักฐาน พยานของผู้เสียหายซึ่งในขณะนี้พอทราบแล้วว่าเป็นใครและจะออกหมายเรียกกับผู้ที่ถูกกล่าวหามาสอบสวนถ้าหากว่ามีความผิดดั่งที่ผู้ร้องก็จะต้องตั้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีให้ถึงที่สุด



ด้าน นางบุญชิต วังสรร อายุ 46 ปี ลูกสาวขอคุณยายสุบิน บุตรงาม ผู้เสียหาย และเป็นแม่ของนางสาวอภิญญา แสงแก้วเขียว ผู้ที่ไปกู้ยืมเงินจากนายทุนเงินกู้ดังกล่าว กล่าวว่า เห็นลูกสาวบอกว่า เจ้าหนี้จะปล่อยให้กฏหมายจัดการ ดำเนินคดีกับตนเองตามกฎหมาย เรื่องที่เขาอัดคลิปเสียงตนว่าตนเองจะไม่ยอมใช้หนี้เขา จะจัดการตนเองกับพี่ชาย เห็นเขาลงเฟส ว่ามีแต่พวกขี้โกง ซึ่งเราไม่เคยโกงใคร ลูกสาวไม่ได้โกง เขาก็จะหาชดใช้หนี้อยู่แล้ว และยังบอกอีกว่าเรื่องเล็กอย่าทำให้เป็นรื่องใหญ่ เขาเช่าบ้านอยู่ที่ อ.สำโรงทาบ แต่บ้านเกิดจริงไม่รู้อยู่ที่ไหน ส่วนคนที่มาด้วยที่อ้างตัวว่าเป็นตำรวจนั้น ตนก็ไม่ทราบว่าเป็นตำรวจอยู่ที่ไหน จริงหรือไม่ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับลูกสาวตนเองมันไม่เกี่ยวกับยายซึ่งเป็นแม่ของตนเองแกไม่รู้เรื่องอะไรในระหว่างที่พูดคุยนั้นทางนายทุนก็อัดคลิปเอาไว้ลงเฟสประจานต่างๆ นาๆ พร้อมกับจะขู่ฟ้องตนเองกับแม่บอกว่าเรื่องแค่นี้จิ๊บๆตั้งทนายเอาไว้แล้วเตรียมตัวขึ้นศาลได้เลยซึ่งตนเองก็ไม่ทราบจุดประสงค์ของนายทุนคนดังกล่าว ต้องการอะไร


นางบุญชิต ยังบอกอีกว่าจริงๆแล้วลูกสาวของตนเองนั้นเคยคบค้าสมาคมกันมานานแล้วกับนายทุนคนดังกล่าวตั้งแต่ปี2562และเงินทองก็หยิบยืมกันมาตลอดและระยะหลังลูกสาวไปกู้เงินมาจากนายทุนคนดังกล่าวจำนวน 80,000 บาท โดยส่งเป็นรายวันวันละ1,300 ต่อวัน และพอขาดส่ง 2 วันทำให้นายทุนไม่พอใจจึงได้พาเพื่อนและผู้ชายที่อ้างว่าเป็นตำรวจมาด้วยและข่มขู่ต่างๆนาๆจนกระทั่งขอเพิ่มจากวันละ1, 300 บาทเป็น 1,500 บาทพอไม่ส่งนายทุนคนดังกล่าวก็มาหาแม่ของตนเองและเป็นคุณยายของลูกสาวโดยบังคับให้เซ็นต์ใบสารภาพหนี้พร้อมกับจะยึดรถของตนเองภายในบ้านและวัวในคอกของคุณยายเอาไปซึ่งตนเองเห็นว่ามันไม่ถูกต้องเลยร้องกับสื่อเพื่อขอความเป็นธรรมและให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการให้ถึงที่สุด






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.