กรณีที่ น้องเอ นามสมมุติ เด็กหญิง อายุ 13 ปี นักเรียนชั้น ม.1 โรงเรียนบวรธรรมประยุตวิทยา โรงเรียนการกุศลของวัดในพระพุทธศาสนา สังกัดวัดพรหมสุรินทร์ อ.เมือง จ.สุรินทร์ ถูกครูพิเศษซึ่งเป็นพระสงฆ์ สอนภาษาอังกฤษของโรงเรียน ลงโทษเฆี่ยนด้วยการใช้ไม้พลองลูกเสือตีที่ก้นอย่ารุนแรง พร้อมกับเพื่อนรวม 6 คน แม้บางคนจะมีอาการปวดท้องน้อยจากประจำเดือน แต่ก็ไม่เว้นถูกเฆี่ยนที่ก้นจนไม้พลองหักคามือ เหตุทำการบ้านส่งไม่ทันเวลา ตามที่สื่อมวลชนได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันนี้ (31 ส.ค.65) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปสอบถามถึงความคืบหน้ากับนายพิเชษฐ์ สร้อยเสนา อายุ 34 ปี พ่อของน้องเอ นามสมมุติ กล่าวว่า เมื่อวานนี้ทางโรงเรียนได้เรียกพระอาจารย์ ต้นเหตุ ไปประชุมหารือ พร้อมกับผู้ปกครองนักเรียน สรุปว่างทาง ผอ.โรงเรียนและพระอาจารย์ ได้ขอบิณฑบาต และได้ขอโทษผู้ปกครองและนักเรียน ซึ่งทางผู้ปกครองก็ไม่ได้เอาความ ให้อภัยกับสิ่งที่เกิดขึ้นถือว่าให้โอกาสสักครั้ง ซึ่งทางโรงเรียนได้เตือนกับพระอาจารย์ไปว่า อย่าให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีกครั้ง ถ้าเกิดขึ้นอีกทางโรงเรียนก็จะดำเนินการขั้นเด็ดขาดตามกระบวนการต่อไป
ขณะที่เด็กนักเรียนหญิงเยาวชน 2 คน ที่ถูกตี กล่าวว่า ถูกตีที่ก้นอย่างแรง พร้อมกัน 6 คน ในจำนวนนี้มีผู้ชาย 1 คน เนื่องจากทำการบ้านไม่เสร็จ เพราะว่าครูสั่งการบ้านตอนท้ายคาบด้วย ก็เลยทำไม่ทัน เพราะต้องมีคนอื่นเข้ามาต่อคิวอีก ตนไม่ทราบว่าทางโรงเรียนได้เรียกผู้ปกครองไปพบนั้นพูดคุยหารืออะไรกันบ้าง
ทั้งนี้ เมื่อวานนี้ (30 ส.ค.65) นางอรุณศรี พันธุ์ศักดานนท์ เลขาศูนย์เสมารักษ์ สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดสุรินทร์ ได้เรียกผู้ปกครองและเด็กทั้ง 6 คนมาสอบถามข้อเท็จจริง พร้อมกับพระสงฆ์ซึ่งเป็นครูสอนพิเศษภาษาอังกฤษ เข้ามาทำความเข้าใจกัน และห้ามครูคนดังกล่าว กระทำการรุนแรงแบบนี้อีก หากมีเหตุการณ์ในลักษณะนี้เกิดขึ้นอีกครั้งจะดำเนินการขั้นเด็ดขาดตามกระบวนการต่อไป