"รัฐบาล" เดินหน้าแก้ปัญหาเด็กขาดสารอาหารในจังหวัดชายแดนใต้ ลดปัญหาความเหลื่อมล้ำในระยะยาว
3 ก.ย. 2565, 11:05
วันที่ 3 ก.ย. 65 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกรรมการผู้แทนพิเศษของรัฐบาล เปิดเผยว่า ได้ลงพื้นที่กับพลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านพิเทน ตำบลพิเทน อำเภอทุ่งยางแดง จังหวัดปัตตานี เพื่อพบปะและเยี่ยมเยียนแพทย์ พยาบาล และประชาชน รวมถึงติดตามการดำเนินงานแก้ปัญหาสุขภาวะและโภชนาการต่ำในเด็กเล็ก ซึ่งเป็นปัญหาที่พบมากและรุนแรงกว่าในจังหวัดอื่นมาก มีสาเหตุจากครอบครัวมีรายได้น้อย มีลูกหลายคน ผู้ปกครองไม่มีเวลาดูแล โดยจะส่งผลต่อการเจริญเติบโตของร่างกายและพัฒนาการทางสมอง ดังนั้น รัฐบาลจึงให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหานี้อย่างมาก ถือเป็นกระดุมเม็ดแรกที่ต้องได้รับการแก้ไข เพื่อลดปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม
ที่ผ่านมา รัฐบาลได้เดินหน้าแก้ปัญหาการขาดสารอาหารในเด็กเล็กมาอย่างต่อเนื่อง และในช่วง 2 ปี ที่ผ่านมา ทางศอ.บต.ได้มีการปรับแผนการดำเนินงาน และบูรณาการกับหลายหน่วยงานมากขึ้น ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อช่วยเหลือเด็กเล็ก 2 กลุ่ม ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งมีทั้งหมดกว่า 46,819 คน ได้แก่กลุ่มเด็กแรกเกิด - อายุก่อนครบ 2 ปี โดยจัดเงินช่วยเหลือค่าเลี้ยงดูรายเดือน คนละ 400 บาท และกลุ่มเด็กอายุครบ 2 ปี - ก่อนครบ 6 ปี โดยจัดเงินช่วยเหลือค่าอาหาร รายเดือน คนละ 300 บาท รวมวงเงินประมาณ 497 ล้านบาท
ทั้งนี้ ระยะต่อไป ทางศอ.บต. จะปรับแผนการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยจะเป็นการเน้นการให้การสนับสนุนด้านโภชนาการ ให้หน่วยงานระดับชุมชนใกล้ชิดเด็กเล็กมากที่สุด และจะดูแลเรื่องการจัดหาวิตามินรวม MTV (Multivitamin) การจัดสรรเครื่องมืออุปกรณ์ในการติดตามพัฒนาการของเด็กตามเกณฑ์วัดผลด้านโภชนาการ ตลอดจนสนับสนุนการพัฒนาบุคลากรในการปฏิบัติงานในชุมชน/หมู่บ้าน และจะส่งเสริมทักษะการใช้ภาษาไทยควบคู่ไปด้วย เพื่อให้เด็กเล็กสามารถเข้าถึงและใช้ภาษาไทยในการสื่อสาร ตลอดจนสามารถพัฒนาตนเองได้อย่างเหมาะสม และในวันที่ 7 - 8 กันยายน 2565 จะมีการประชุมหาแนวทางการขับเคลื่อนและเพื่อพิจารณาโครงการตามงบประมาณ 500 ล้านบาทต่อไป
นางสาวรัชดา กล่าวด้วยว่า นอกจากการจัดสรรงบประมาณเพื่อดูแลเรื่องอาหารแก่เด็กเล็กแล้ว รัฐบาลยังขับเคลื่อนการแก้ปัญหาสุขภาวะเด็กเล็กทั้งระบบ ให้ความสำคัญกับการป้องกัน เน้นการให้ความรู้เรื่องการวางแผนครอบครัวและการดูแลครรภ์ และการดูแลแม่ขณะตั้งครรภ์ ต่อด้วยการสร้างงานสร้างอาชีพให้กับครอบครัวต่อไป ขณะเดียวกัน รัฐบาลได้เดินหน้าเรื่องการแก้ปัญหาความยากจน ส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก โดยเฉพาะกลุ่มสตรี เพราะเมื่อครอบครัวมีรายได้ที่มั่นคง ลูกๆก็จะได้กินอิ่มด้วย และต้องเป็นอิ่มที่มีสารอาหารครบถ้วน