วันที่ 5 กันยายน 65 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐประจำปี พ.ศ.2565 ซึ่งได้เปิดให้บริการประชาชนได้ลงทะเบียนเป็นวันแรก ที่บริเวณหน้าธนาคาร ธกส.ทั้ง 11 สาขาของจังหวัดประจวบฯ โดยเฉพาะที่บริเวณธนาคาร ธกส. สาขาปราณบุรี และสาขาหัวหินเฉลิมพระเกียรติ ทางธนาคารได้จัดบุคลากรเจ้าหน้าที่ของธนาคารพร้อมลูกจ้างโครงการมาอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่ทยอยเดินทางกันมาลงทะเบียน โดยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้สูงอายุซึ่งมีบุตรหลานพามารับเอกสารการลงทะเบียน และคัดกรองตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ที่ทางธนาคารได้จัดเตรียมไว้ โดยมีการตั้งเต็นท์จัดสถานที่ภายนอกอาคาร ซึ่งมีอากาศถ่ายเทสะดวก และจัดเก้าอี้สำหรับนั่งแยกเว้นระยะห่าง เพื่อรองรับประชาชนที่ทยอยมาลงทะเบียนวันละประมาณ 300 ราย โดยจะมีการเปิดรับลงทะเบียนเป็นเวลา 45 วันตั้งแต่วันที่ 5 กันยายน - 19 ตุลาคม พ.ศ.2565 หลังจากนั้นจะมีการจัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตามหมู่บ้านชุมชนต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง ที่ไม่สามารถเดินทางมาลงทะเบียนได้ด้วยตนเอง โดยมีนายสามารถ เอี่ยมวงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ธ.ก.ส.จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วย นายภัตติ ชุนทรภัทรโภคิน ผู้จัดการ ธ.ก.ส.สาขาปราณบุรี นายวาสิต วัฒนาโภคยกิจ ผู้จัดการ ธ.ก.ส.สาขาเฉลิมพระเกียรติ(หัวหิน) นำบุคคลากรเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกให้คำแนะนำปรึกษากับ ประชาชนที่มารอลงทะเบียน ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น.สำหรับในส่วนของธนาคารออมสินและธนาคารกรุงไทยได้เปิดจุดบริการให้กับประชาชน ณ หน่วยที่ตั้งโดยมีที่ว่าการอำเภอปราณบุรีร่วมเปิดจุดให้บริการกับประชาชนอีก 1 แห่ง นอกจากนี้ทางด้านนายอำเภอปราณบุรียังได้จัดงานเจ้าหน้าที่ร่วมกับธนาคารออมสินลงพื้นที่ให้บริการกับประชาชนตามหมู่บ้านต่างๆเพื่ออำนวยความสะดวกอีกทางหนึ่งด้วย ซึ่งปัญหาและอุปสรรคส่วนใหญ่ในวันนี้ ชาวบ้านยังขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับรายละเอียดของโครงการ ซึ่งแบ่งประเภทการลงทะเบียนแบบข้อมูลคนโสด และลงทะเบียนข้อมูลแบบครอบครัว บางรายที่ลงทะเบียนไม่สำเร็จเนื่องจากเอกสารไม่ครบ จึงต้องรับเอกสารของทางธนาคารกลับไปกรอกที่บ้าน และนำมายื่นใหม่ในวันถัดไป

 

 

 

ด้านนายสามารถ เอี่ยมวงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ธ.ก.ส.จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า วันนี้เป็นการเปิดรับลงทะเบียนวันแรกทางธนาคาร ธ.ก.ส.ได้จัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกให้กับประชาชนนอกอาคารสถานที่ เพื่อลดความเสี่ยงป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 โดยมีการตรวจคัดกรอง และการจัดเก้าอี้เว้นระยะห่าง และมีเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำปรึกษา โดยวันนี้ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มผู้สูงอายุซึ่งมีบุตรหลานพามาลงทะเบียน ซึ่งการลงทะเบียนจะใช้บัตรประชาชนตัวจริงและสำเนาบัตรประชาชน และพร้อมเซ็นต์กำกับเป็นลายลักษณ์อักษร โดยจะมีการลงทะเบียนเป็นครอบครัวตามฐานข้อมูล และคนโสด ซึ่งคนโสดที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไปสามารถลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ของโครงการเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐได้เลยซึ่งจะไม่ยุ่งยาก แต่ถ้าเป็นคนที่จดทะเบียนสมรสและมีครอบครัวจะเกิดความยุ่งยากในการกรอกข้อมูลผ่านเว็บไซต์ แนะนำให้มาลงทะเบียน ณ จุดให้บริการของธนาคารต่างๆจะสะดวกกว่า ซึ่งโครงการนี้สามารถลงทะเบียนได้ทุกคน กลุ่มผู้สูงอายุที่เกิน 60 ปีขึ้นไปและมีเงินผู้สูงอายุเป็นรายเดือนอยู่แล้วก็สามารถมาลงทะเบียนได้ กลุ่มเจ้าหน้าที่ อสม.กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ก็สามารถมาลงได้เช่นกัน เนื่องจากเกณฑ์การตรวจสอบรายได้ต่อครอบครัวไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี จึงอยากให้ประชาชนทุกคนรีบมาลงทะเบียนอย่าปล่อยให้ล่าช้าเนิ่นนาน หรือใกล้จะหมดโครงการ เนื่องจากจะแก้ไขและเตรียมเอกสารไม่ทัน ซึ่งอาจจะทำให้พลาดโครงการดังกล่าวได้