โดย พ.ต.อ.บวร ไชยคำ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองพะเยา ระบุว่า จากกรณีดังกล่าวเมื่อวันที่ 6 กันยายนที่ผ่านมา ทางเจ้าที่ตำรวจได้รับรายงานว่ามีเหตุหญิงสาวไม่ทราบชื่อ เสียชีวิตและมีศพลอยน้ำบริเวณกลางสระน้ำ ในพื้นที่หมู่ที่ 13 ตำบลบ้านต๊ำ และมีสายชาร์ทแบตเตอรี่โทรศัพท์รัดคอ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดการณ์ว่าเป็นเหตุฆาตกรรม เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ประชาสัมพันธ์ไปตามพื้นที่ต่างๆในเรื่องของการแจ้งเหตุคนหาย และพบว่าหญิงสาวคนดังกล่าวคือนางนุชรี อายุ 29 ปี ซึ่งเป็นชาวบ้านในพื้นที่ อำเภอจุน จังหวัดพะเยา ที่เดินทางมาพบแพทย์ที่โรงพยาบาลพะเยา เมื่อวันที่ 29 สิงหาคมที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้มีการติดตามภาพจากกล้องวงจรปิด พบว่านางนุชรี ผู้เสียชีวิตดังกล่าวได้เดินทางไปกับนายพิทักษ์ด้วยรถยนต์โตโยต้าสปอตไลต์เด้อร์ สีบอนด์เงิน และเจ้าหน้าที่ก็ได้มีการเช็คสัญญาณโทรศัพท์ของนางนุชรี พบว่ามีพิกัดอยู่ที่บ้านของนายพิทักษ์ จึงได้ทำการเข้าตรวจสอบและเก็บพยานหลักฐานแต่นายพิทักษ์ก็ให้การปฏิเสธ จนเมื่อเวลาประมาณ 18:00 น. ลูกชายอายุประมาณ 12 ขวบเดินทางกลับบ้าน ทางเจ้าที่ตำรวจจึงได้มีการสอบสวนซึ่ งลูกชายของนายพิทักษ์ ระบุว่า พ่อได้นำหญิงสาว มาที่บ้าน จากนั้นในช่วงดึกก็มี เสียงทะเลาะวิวาทกัน และเวลาประมาณ 4 ทุ่มพ่อก็ขับรถซาเล้งโดยนำหญิงสาวดังกล่าวออกไปด้วย และขากลับพ่อก็กลับมาลำพังคนเดียว เจ้าที่ตำรวจจึงได้ทำการเค้นหาความจริง และผู้ต้องหาก็ให้การรับสารภาพว่าตนเองเป็นผู้ลงมือก่อเหตุดังกล่าวจริง ซึ่งช่วงบ่ายจะนำชี้จุดเกิดเหตุ และแจ้งข้อกล่าวหา ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา

ขณะที่นายพิทักษ์ ผู้ต้องหา ให้การว่าตนเองไม่เคยรู้จักกับนางวัชรีมาก่อน ขณะที่อยู่โรงพยาบาลนางวัชรี ได้ขอติดรถเพื่อที่จะไปลงในพื้นที่บริเวณบ้านร่องห้า แต่ตนเองได้นำนางวัชรี ไปที่บ้านและมีการร่วมหลับนอนกัน 1 ครั้ง หลังจากนั้นนางวัชรี ก็รบเร้า ที่จะกลับบ้านแต่ตนเองเห็นว่าดึกแล้วไม่อยากให้กลับโดยพรุ่งนี้จะนำไปส่ง แต่นางวัชรี ก็มีการดุด่าและแจ้งตำรวจตนเองเลยพลั้งมือทำการบีบคอจนสลบ จากนั้นก็ได้นำใส่ซาเล้งเพื่อที่จะอำพรางศพ โดยการนำไปทิ้งน้ำบริเวณดังกล่าว ซึ่งตอนนี้ตนเองไม่รู้ว่ามีบาปกรรมอะไรถึงได้ก่อเหตุในลักษณะดังกล่าว โดยตอนนี้ไม่อยากพบใครทั้งสิ้น