ประวิทย์ จารุรัชกุล เปิดตัวลงสมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทยชิงเก้าอี้ ส.ส.ศรีสะเกษ
12 ก.ย. 2565, 09:52
เมื่อวันที่ 12 ก.ย. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดศรีสมบูรณ์รัตนาราม บ้านหนองแคน ต.สำโรง อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ ซึ่งมีการจัดงานพิธีแสดงมุทิตาสักการะวันอายุวัฒนะมงคล 49 ปี พระครูวินัยธรศักดิ์มนตรี ปภัสโร หรือพระอาจารย์โชติ เจ้าอาวาสวัดศรีสมบูรณ์รัตนาราม นายประวิทย์ จารุรัชกุล นายก อบต.สำโรง ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย ได้เดินทางไปเป็นประธานในพิธีแสดงมุทิตาสักการะพระอาจารย์โชติ โดยนายประวิทย์ ได้ถวายจตุปัจจัยแด่พระอาจารย์โชติ และร่วมกับพี่น้องประชาชนประกอบพิธีทางศาสนาเพื่อความเป็นสิริมงคล โดยได้รับความเมตตาจาก พระครูจารุวรรณโสภณ รองเจ้าคณะอำเภออุทุมพรพิสัย เจ้าอาวาสวัดเกษมสุข เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ซึ่งปรากฏว่า ในการจัดงานครั้งนี้ มีประชาชนชาว ต.สำโรง อ.อุทุมพรพิสัย และอำเภอใกล้เคียงซึ่งเป็นศิษย์ของพระอาจารย์โชติพากันมาร่วมพิธีจำนวนมาก
นายประวิทย์ จารุรัชกุล นายก อบต.สำโรง ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การที่ตนได้ตัดสินใจเตรียมที่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ศรีสะเกษ ของพรรคเพื่อไทยนั้น เนื่องจากว่า เป็นอีกส่วนหนึ่งของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ที่ต้องการให้ตนเข้ามาเป็นตัวแทนในนามพรรคเพื่อไทย ซึ่งพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคที่มีนโยบายหลักในการที่มีนโยบายที่สามารถจับต้องได้พรรคเดียวในประเทศไทยที่พี่น้องประชาชนโดยเฉพาะพี่น้องในเขตพื้นที่ภาคอีสานสัมผัสได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพืชผลทางการเกษตรโดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการประกันราคาข้าว ซึ่งจากการที่ตนได้ลงไปพบปะกับพี่น้องประชาชนในเขตพื้นที่เลือกตั้งในทุกอำเภอทุกหมู่บ้าน ปรากฏว่าได้รับการตอบรับจากพี่น้องประชาชนเป็นอย่างดียิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาของพี่น้องประชาชนที่ได้สะท้อนออกมาให้ตนได้รับทราบ ซึ่งตนจะได้นำเอาปัญหาทุกอย่างเสนอไปให้ทางพรรคเพื่อไทยได้รับทราบ เพื่อจะได้หาแนวทางในการแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน ตนขอฝากถึงพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดศรีสะเกษว่า ตอนนี้พี่น้องประชาชนชาวศรีสะเกษคงทราบแล้วว่า พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคเดียวที่พี่น้องประชาชนโดยเฉพาะภาคอีสานเราสามารถจับต้องได้ ไม่ว่าจะเป็นนโยบายต่างๆที่ได้จัดทำขึ้นมาในสมัยไทยรักไทย มาถึงพลังประชาชนและมาที่พรรคเพื่อไทยในวันนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ประชาชนชาวศรีสะเกษ ชาวอีสานเราและชาวไทยทั่วประเทศมีความต้องการให้พรรคเพื่อไทยเข้ามาบริหารประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้าทุกด้านมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมต่อไป