"พ่อแม่" สุดทน! แจ้งจับ "ลูกชาย" คลั่งยาบ้าตีพ่อหลานไหล่หลุด
14 ก.ย. 2565, 05:10
เมื่อวันที่ 13 ก.ย. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางอุดม จรรยากรณ์ อายุ 54 ปี พร้อมด้วย นายศักดา ธรรมวัติ อายุ 28 ปี นางสมพร รักษา อายุ 50 ปี แม่ของนายศักดา ได้เข้าร้องทุกข์กับผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษว่า ขณะนี้ครอบครัวของพวกตนกำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากว่า นายวรวุฒิ จรรยากรณ์ อายุ 34 ปี ซึ่งเป็นลูกชายคนที่ 2 ของนางอุดม ได้ติดยาบ้าและยาไอซ์อย่างหนัก และได้มีอาการประสาทหลอน ไล่ตีทำร้ายพ่อของตนเองคือ นายสมควร จรรยากรณ์ อายุ 65 ปี โดยนายวรวุฒิใช้มือบีบคอนายสมควร ซึ่งเป็นพ่อของตนเอง และใช้นิ้วจิกเข้าไปในเบ้าตา เพื่อที่จะหวังทำร้ายพ่อของตนเอง แต่ว่านายสมควรได้สะบัดดิ้นหลุดและวิ่งหนีเข้าไปหลบในบ้าน ซึ่งเป็นสวนทุเรียนชื่อสวนทุเรียนตาโต้ง ทำให้นายสมควรและนางอุดม รวมทั้งลูกชายคนเล็กไม่สามารถที่จะอาศัยอยู่ในสวนทุเรียนได้ จึงได้พากันหนีเข้ามาอยู่ในหมู่บ้านโนน ปล่อยให้นายวรวุฒิอยู่ภายในบ้านที่สวนทุเรียน แต่ว่านายวรวุฒิก็ยังมาอาละวาดไล่ทำร้ายพ่อและญาติพี่น้องเป็นประจำเมื่อมีอาการคลั่งยาบ้า โดยล่าสุดที่นายวรวุฒิทำร้ายพ่อของตนเองเมื่อเกิดอาการคลั่งยาบ้าและหลอน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 16 ก.ค.65 เวลาประมาณ 19.00 น.
นางอุดม จรรยากรณ์ อายุ 54 ปี แม่ของนายวรวุฒิ ลูกชายทาสยาบ้า กล่าวว่า นายวรวุฒิเมื่อต้องการเสพยาบ้าจะเข้ามาขอเงินจากตนครั้งละ 100 – 200 บาท แต่เมื่อตนบอกว่าไม่มีเงิน นายวรวุฒิจะไปเอามีดมาถือเอาไว้และบังคับให้ตนเอาเงินในกระเป๋ามาให้ทั้งหมด ตนมีเงินอยู่เพียง 300 บาท เอาไว้ซื้อกับข้าวกินในครอบครัว ก็ต้องถูกนายวรวุฒิ ลูกชายของตนบังคับเอาเงินไป หากไม่ยอมให้ก็กลัวว่าจะโดนนายวรวุฒิทำร้ายร่างกาย อาจถึงแก่เสียชีวิตได้ เนื่องจากว่านายวรวุฒิ เมื่อต้องการเสพยาและมีอาการหลอนยาบ้า เกรงว่าจะมีคนมาฆ่า ก็มักจะทำร้ายร่างกายนายสมควรพ่อของตนเองมาแล้วหลายสิบครั้ง ตนเคยไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ขุนหาญนับครั้งไม่ถ้วน ตำรวจก็ไม่รับแจ้งความ บอกว่าเป็นเรื่องภายในครอบครัว และทำเพียงลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเท่านั้น ทั้งที่นายวรวุฒิทำร้ายร่างกายพ่อของตนเอง แต่ตำรวจไม่ได้ใช้กฎหมายเอาผิดที่นายวรวุฒิทำร้ายนายสมควร ซึ่งเป็นบุพการีของตนเองและมีความผิดเกี่ยวกับการเสพยาเสพติด ตนขอวิงวอนให้ตำรวจ สภ.ขุนหาญ ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเข้มงวดกับนายวรวุฒิ แม้ว่าจะเป็นลูกชายของตนก็ตาม เพราะว่าขณะนี้พวกตนไม่สามารถอยู่ที่บ้านที่เป็นสวนทุเรียนได้อีกต่อไปแล้ว เกรงว่านายวรวุฒิจะตามมาฆ่า เมื่อมีอาการคลั่งยาบ้า ซึ่งเคยเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้งกับครอบครัวของตน โดยขณะเกิดเหตุทุกครั้ง ลูกชายคนเล็กของตน อายุ 10 ปี จะเห็นเหตุการณ์ที่พี่ชายทำร้ายร่างกายพ่อของตนเองมาโดยตลอด
นายศักดา ธรรมวัติ อายุ 28 ปี ซึ่งเป็นหลานชายของนางอุดม และนายสมควร กล่าวว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 22.00 น.ของวันที่ 12 ก.ย.65 ขณะที่ตนจะมาช่วยลุงและป้าทำสวนทุเรียนในตอนเช้า ได้มาพักที่สวนทุเรียน ขณะที่ตนออกมายืนสูบบุหรี่บริเวณหน้าบ้านในสวนทุเรียน ตนเห็นนายวรวุฒิเดินถือจอบเข้ามาด้านหน้า ตนจึงได้ชำเลืองดู และปรากฏว่าเมื่อนายวรวุฒิเดินมาถึงด้านหลัง นายวรวุฒิได้ใช้จอบตีเข้ามาที่บริเวณศีรษะของตน แต่ตนระวังตัวอยู่แล้ว จึงได้เบี่ยงตัวหลบ แต่ปรากฏว่าสันจอบได้ตีถูกบริเวณไหล่ข้างซ้ายของตนอย่างจัง เสียงดังสนั่น จนทำให้ไหล่ซ้ายของตนหลุด ตนจึงได้ใช้มือขวาข้างเดียวกอดรัดกับนายวรวุฒิ ซึ่งนายสมควรกับนางอุดมได้ยินเสียงการต่อสู้กัน จึงได้เข้ามาช่วยกันจับตัวนายวรวุฒิ แล้วใช้เชือกฟางมัดแขนมัดขานายวรวุฒิเอาไว้ จากนั้นได้โทรศัพท์แจ้งตำรวจ สภ.ขุนหาญ ให้มาจับกุมตัวนายวรวุฒิไป ตนได้ไปพบแพทย์ที่ รพ.ขุนหาญ เพื่อให้แพทย์ทำการรักษาพยาบาลโดยด่วน และเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ (13 ก.ย.65) ตนได้ไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.ขุนหาญ เพื่อขอให้ดำเนินคดีกับนายวรวุฒิตามกฎหมายจนถึงที่สุด
นางสมพร รักษา อายุ 50 ปี แม่ของนายศักดาที่โดนตีจนไหล่หลุด กล่าวว่า นายวรวุฒิซึ่งเป็นหลานชายของตน เสพยาบ้าอย่างหนักเคยโดนถูกส่งตัวไปรักษาพยาบาลที่ รพ.พระศรีมหาโพธิ์ จ.อุบลราชธานี หลายครั้งแล้ว รักษาตัวประมาณ 1 เดือน ก็กลับออกมาอยู่บ้าน แล้วก็ยังเสพยาบ้ายาไอซ์อีก และก่อเหตุทำร้ายร่างกายพ่อ ญาติพี่น้องและชาวบ้านหลายคน แต่ว่าเมื่อไปแจ้งความ ตำรวจก็ทำได้เพียงลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน โดยอ้างว่าเป็นเรื่องภายในครอบครัว ไม่ต้องการดำเนินคดีกับนายวรวุฒิ ตนจึงอยากฝากถึงผู้มีอำนาจ ควรจะมีการแก้ไขกฎหมายกรณีที่มีคนเสพยาบ้า ยาไอซ์ และยาเสพติดต่างๆ เมื่อก่อเหตุทำร้ายร่างกายพ่อแม่ ญาติพี่น้องและประชาชนทั่วไป ควรที่จะให้มีการดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด ไม่ควรกำหนดไว้ว่าผู้เสพยาบ้าคือผู้ป่วย นำเอาไปรักษา แล้วก็กลับออกมาก่อเหตุทำร้ายคนอื่น ควรที่จะมีการใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด เพื่อให้เกิดความสงบสุขในครอบครัวและในชุมชน ตนขอฝากถึงผู้มีอำนาจทุกท่านด้วย ขอให้มีการแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับเรื่องนี้โดยด่วนที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ขณะนี้ รพ.ขุนหาญ ได้นำตัวนายวรวุฒิ จรรยากรณ์ ส่งไปที่ รพ.พระศรีมหาโพธิ์ จ.อุบลราชธานี เพื่อให้แพทย์ทำการรักษาพยาบาล โดยมี นายสมควรขับรถส่วนตัวติดตามไปสังเกตอาการด้วย โดยเมื่อไปถึง รพ.พระศรีมหาโพธิ์ แพทย์ได้นำตัวเข้าไปทำการตรวจรักษาพยาบาลทันที เนื่องจากว่า มีอาการประสาทหลอนอย่างหนัก