"กัน จอมพลัง" นำเหยื่อสาวธุรการทหารที่ถูก สิบเอกหื่น บุกปล้ำจะข่มขืน พบตำรวจ
14 ก.ย. 2565, 22:58
วันนี้ 14 ก.ย.65 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ “ กัน จอมพลัง ” พร้อม น.ส.ออย (นามสมมติ) ผู้เสียหายจากการถูกทหารยศสิบเอกทำการคุกคามทางเพศ เพื่อติดตามความคืบหน้าในการสอบสวนดำเนินคดี โดยเข้าพบ พ.ต.อ.เตชินท์ บรรจง ผกก.สภ.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี และ พ.ต.ท. วิทวัช น้อยพานิช รอง ผกก. (สอบสวน) สภ.ลาดหญ้าร่วมให้ข้อมูลที่หัองประชุม ศปก.สภ.ลาดหญ้า
โดย พ.ต.อ.เตชินท์ บรรจง ผกก.สภ.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า จากการสอบสวนและสืบสวนเบื้องต้นทราบ พฤติการณ์ของคดีนี้เกิดเหตุเมื่อวันที่ 24 ส.ค. 2565 เวลาประมาณ 09.00 น. ขณะที่ น.ส.ออยผู้เสียหายพักอาศัยอยู่ที่บ้านพักข้าราชการทหาร ได้มี ส.อ.กิตติศักดิ์ ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานได้บุกรุกเข้ามาภายในบ้านพักของน.ส.ออย แล้วล็อคประตูบ้าน ต่อมา ส.อ.กิตติศักดิ์ได้สอบถาม น.ส.ออย ว่าแฟนอยู่หรือไม่ เมื่อรู้ว่าแฟนของน.ส.ออย ไม่อยู่ที่บ้านพักอาศัย ส.อ.กิตติศักดิ์ฯ ได้เข้าไปลวนลามน.ส.ออยโดยการกอดจากบริเวณด้านหลังพร้อมทั้งพูดกับ น.ส.ออย ในทำนองขอมีเพศสัมพันธ์ด้วย ซึ่งในขณะเวลาดังกล่าว น.ส.ออย ไม่ยินยอม จึงได้บอกกับผู้ก่อเหตุว่าจะนำเรื่องดังกล่าวไปบอกแฟนของผู้ก่อเหตุ และนำโทรศัพท์มือถือมาบันทึกภาพและคลิปวีดิโอเอาไว้ส.อ.กิตติศักดิ์ๆ เห็นดังนั้นจึงได้ใช้มือปัดโทรศัพท์มือถือของอ้อหล่นลงกับพื้นได้รับความเสียหาย
จากนั้นได้ลวนลามและพยายามข่มขืน น.ส.ออย ด้วยวิธีการกัดหัวนมของ น.ส.ออย จากบริเวณด้านนอกเสื้อ ถอดกางเกงออก เอามือล้วงเข้าไปในกางเกงในของอ้อแล้วเอานิ้วสอดใส่เข้าไปในอวัยวะเพศ และได้นำองคชาติมาจ่อที่บริเวณอวัยวะของ น.ส.ออย แต่ไม่สามารถกระทำไปได้สำเร็จโดยตลอด เนื่องจาก น.ส.ออย ได้ออกอุบายให้ ส.อ.กิตติศักดิ์ฯ หยุดการกระทำ และอยู่ระหว่างมีประจำเดือนเพศหญิง หลังเกิดเหตุส.อ.กิตติศักดิ์ๆ ได้หลบหนีไปจากบริเวณที่เกิดเหตุ
ต่อมา น.ส.ออย จึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์ต่อ ร.ต.อ.ธีรยุทธ อังวะ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.ลาดหญ้า เพื่อให้ดำเนินคดีกับส.อ.กิตติศักดิ์ฯ ตามกฎหมายต่อไปจนกว่าคดีจะถึงที่สุด
จากการสอบปากคำ น.ส.ออย ผู้เสียหายแล้ว ทำให้ทราบตัวผู้ถูกกล่าวหาอยู่ในระหว่างการส่งเอกสารไปยังหน่วยงานต้นสังกัดเพื่อตรวจสอบสถานะบุคคล เมื่อได้รับการยืนยันจากต้นสังกัด ทางพนักงานสอบสวนก็จะเรียกผู้ถูกกล่าวหามารับทราบข้อกล่าวหา ซึ่งในเบื้องต้นพบว่าผู้ถูกกล่าวหาน่าจะมีความผิด 4 ฐานความผิด คือ 1.พยายามข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ ( ป.อาญา มาตรา 276 ประกอบกับ มาตรา 80 ) 2.กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปี โดยใช้กำลังประทุษร้าย และได้กระทำโดยใช้วัตถุอื่นหรืออวัยวะอื่น ซึ่งมิใช่อวัยวะเพศล่วงล้ำอวัยวะเพศของบุคคลนั้น ( ป.อาญา มาตรา 278 วรรคแรก และวรรคสอง ) 3.เข้าไปในเคหสถานของผู้อื่นโดยไม่มีเหตุอันสมควร ( ป.อาญา มาตรา 364 และ 4.ทำให้เสียทรัพย์ ( ป.อาญา มาตรา 358 )
“สืบเนื่องจากผู้กระทำผิดเป็นทหาร หลังจากนั้น ก็จะทำการสอบปากคำผู้ต้องหาตามกระบวนการสอบสวนต่อไป โดยจะเร่งรัดดำเนินการสืบสวนสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานนำส่งฟ้องต่ออัยการศาลทหารเพื่อพิจารณาสั่งฟ้องต่อศาลทหารต่อไป” พ.ต.อ.บรรจงกล่าวท้ายสุด
หลังจากนั้น นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ “ กัน จอมพลัง ” พร้อม น.ส.ออย ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน โดย น.ส.ออย บอกว่าคลิปเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่บ้านพักของตัวเองในค่ายทหารช่วงเช้าวันที่ 24 สิงหาคมที่ผ่านมา ตัวเองกำลังเปลี่ยนชุดเพื่อออกไปราชการกับหัวหน้า
น.ส.ออยกล่าวต่อ ว่า ตนผู้ถูกกระทำได้เข้าไปแจ้งรองผู้บัญชาการว่าเกิดเหตุอะไรขึ้น รองผู้บังคับบัญชาแจ้งว่าจะให้ผู้กระทำผิดมาขอขมา ระยะเวลาผ่านไป 5 วันยังไม่มีความคืบหน้า ทางสามีเลยพาตนมาลงบันทึกประจำวันในวันที่ 29 สิงหาคม 2565 ทางร้อยเวรแนะนำให้กลับไปคุยกับผู้บังคับบัญชาก่อนถ้าหากไม่ได้รับความเป็นธรรมให้กลับมาแจ้งความใหม่
หลังจากนั้น ตนกลับไปพบผู้บังคับบัญชาพร้อมบันทึกประจำวัน ผู้บังคับบัญชาบอกว่าภายในวันนี้จะให้ผู้กระทำผิดมาเยียวยาค่าเสียหายและมาขอขมาลาโทษ แต่ทางครอบครัวของตนไม่ยอมเพราะเหยื่อถูกเพิกเฉย ผ่านไป 7 วันเรื่องไม่คืบหน้า ตนจึงขึ้นไปหาผู้บัญชาการอีกครั้ง มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวน แต่ไม่ได้สอบสวนเรื่องตนถูกละเมิด เป็นตั้งคณะกรรมการสอบสวนกรณีรูปหลุดของผู้กระทำความผิดขึ้นบนโลกออนไลน์ ทำให้ตนถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวน ตนจึงกลัวไม่ได้รับความเป็นธรรมจึงขอความช่วยเหลือจากสื่อ
ตนกังวลเรื่องที่ทางผู้ก่อเหตุเป็นข้าราชดารทหารด้วย เพราะตั้งแต่เกิดเรื่องเค้าไม่เคยมาทำงานเลยมาแค่ตอนสอบ เรื่องที่สอบก็คือเป็นภาพหลุดไปที่เขาก็ทำอนาจารคนอื่นแล้วกลัวว่ามันจะเสียหายต่อหน่วยที่เขาทำไปกลายเป็นเรื่องที่หนูโดนกระทำการพยายามข่มขืนกลายเป็นเบี่ยงประเด็นไม่เรียกสอบในวันนั้นแล้วหนูถามหาว่าเมื่อไหร่จะสอบเรื่องของหนู ถัดไปอีกวันถึงสอบทั้งๆที่เรื่องหนูเป็นเรื่องเร่งด่วนที่หนูอ่ะขอความเป็นธรรมขอความปลอดภัยกับตัวหนู
น.ส.ออย เผยต่อว่า ทางผู้ก่อเหตุ มีพฤติกรรมแบบนี้กับผู้หญิงหลายคนในหน่วยแล้ว 2-3 คน ผู้ก่อเหตุชอบมีอะไรกับคนอื่นแล้วเอาคลิปมาประจาน เอามาอวดอ้างที่ทำงาน ว่าได้แล้วคนนี้ได้แล้ว แอบถ่ายคลิปน้องคนนี้ ด้วยความที่ผู้ก่อเหตุเป็นลูกเจ้าของโรงสี ทุกคนคิดว่าเขามีเงิน ทุกคนจะแบให้เขา แต่ทางผู้เสียหายมีครอบครัวแล้ว ไม่สามารถแบให้เขาได้ ทางผู้เสียหายจึงเรียกร้องสิทธิเสรีภาพ จะมาข่มเหง เพราะเป็นเด็กนาย เป็นเจ้าของโรงสี เพราะแบบนี้ ทางผู้เสียหายจึงต้องสู้
ทางผู้ก่อเหตุบุกเข้ามาแล้วขอเอาอวัยวะเพศเข้าไปในอวัยวะเพศของผู้เสียหาย แต่วันนั้นเป็นเวลาที่ผู้เสียหายมีประจำเดือน ทางผู้ก่อเหตุจึงทำไม่สำเร็จ ทางผู้ก่อเหตุจึงบอกว่าผู้เสียหายสมยอมและอยากได้เขา แต่ทางผู้เสียหายบอกว่าตนมีครอบครัวของตนแล้ว ในวันเกิดเหตุสามีของผู้เสียหายไม่อยู่บ้านเพราะออกไปส่งลูก ทางผู้เสียหายได้พูดกับทางผู้ก่อเหตุว่าพี่ต้องไปราชการต่อ ปล่อยพี่เถอะ แต่ด้วยความที่ตัวเองเป็นผู้หญิงสู้แรงผู้ชายไม่ไหว จึงบอกกับทางผู้ก่อเหตุไปว่าพี่เป็นเมนส์ ปล่อยพี่ไป แต่ทางผู้ก่อเหตุบอกว่าไม่ได้หรอก ถ้าวันนี้ผมไม่ได้พี่พี่ต้องแฉผม ทางผู้เสียหายได้บอกว่าทางผู้ก่อเหตุเตรียมจะแบล็คเมลตน เพราะผู้ก่อเหตุชอบมีอะไรกับคนอื่นแล้วมาประจานมาโชว์ว่าตนเก็บแต้มว่าคนในหน่วยคนนี้ ได้แล้ว แต่ตนไม่คิดว่าทางผู้ก่อเหตุจะมาทำแบบนี้กับตน ซึ่งทำงานแผนกเดียวกัน แต่ไม่เจอกันมาเป็นปีแล้ว และไม่เคยมีการนัดแนะ ในการเจอกันเกิดขึ้น
“หลังเกิดเหตุ ตนเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.ลาดหญ้า แต่กลัวว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะเหตุการณ์เกิดขึ้นในรั้วทหาร , เคยมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงแต่เรื่องก็เงียบไป จึงกังวลว่าผู้ก่อเหตุจะได้รับการช่วยเหลือ , ตัวเองเคยถึงขั้นจะฆ่าตัวตาย แต่พอสามีและครอบครัวทราบเรื่อง ก็ให้กำลังใจ และกัน จอมพลัง เพื่อขอความช่วยเหลือ” น.ส.ออย เหยื่อ สิบเอกหื่นเผยท้ายสุด
ส่วน นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ “ กัน จอมพลัง พูดต่อท้ายว่า สิางที่เกิดขึ้นท่านห่วงเรื่องชื่อเสียง จึงอยากบอกประชาชนเรื่องที่เกิดขึ้น มีผู้กระทำอยู่ในหน่วยงาน ให้น้องอย่าพูดเดี๋ยวมันเสียชื่อเสียง เรื่องเงียบแบบนี้ กับเรื่องนี้มีนออกหน้าสื่อแล้ว มีคนดูแบบนี้อันไหนมันเสียชื่อเสียงมากกว่ากัน มากกว่าการที่ท่านรับฟังแล้วไปไปลงโทษอย่างเข้มแข็ง รุนแรง ตรงไปครงไปตรงมา แบบไหนมันดีกว่ากัน เห็นมั้ยวันนี้อันไหนมันเสียชื่อเสียงกว่ากัน
ท่านควรจะปกป้องคนที่ควรปกป้อง ไม่ใช่ไปปกป้องคนที่กระทำความผิด สิ่งที่น้องน้อยเนื้อต่ำใจคือน้องเป็นผู้ถูกกระทำจึงได้ไปร้องทุกข์แต่น้องกลายเป็นผู้ถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนก่อน แบบนี้ผมขอถามว่าใครจะกล้าพูดครับ ผมเป็นผู้ถูกกระทำอยู่ในค่ายทหารผมไปร้อง ผมกลับถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนก่อนทั้งๆ ที่เราเป็นผู้เสียหาย แบบนี้ใครจะไปกล้าพูดล่ะครับ มันเกิดอะไรขึ้นครับ ผมมาเคสนี้เพราะน้องบอกน้องสู้ ผมก็จะสู้จนสุดทางเหมือนกันครับผมขอยืนยันตรงนี้ว่าจะไม่มีผู้มีอิทธิพลคนไหน มารังแกน้องได้นะครับ ผมช่วยเต็มที่ผมก็ไม่ใช่คนยิ่งใหญ่อะไรแต่ผมจะช่วยน้องให้สุดกำลังที่ผมจะทำได้