ไทยพบ "ผู้ติดเชื้อโควิด-19" โอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.2.75 แล้ว 9 คน ต้องจับตาความรุนแรง
15 ก.ย. 2565, 09:29
นายแพทย์ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ แถลงผลการเฝ้าระวังสายพันธุ์โควิด-19 ในไทย โดยการถอดรหัสพันธุกรรมตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นมา จำนวน 803 คนพบว่าสายพันธุ์หลักในบ้านเราตอนนี้ เป็น BA.5 สัดส่วน 85 เปอร์เซ็นต์ รองลงมาเป็น BA.4 สัดส่วน 13 เปอร์เซ็นต์ และ BA.2.75 สัดส่วน 1 เปอร์เซ็นต์ นั่นหมายความว่า ในไทยพบผู้ติดเชื้อกลายพันธุ์ BA.2.75 แล้ว 9 คน
ในจำนวนนี้เป็นเชื้อกลายพันธุ์ BA.2.75 จำนวน 6 คน และเป็นเชื้อกลายพันธุ์ย่อย BA.2.75.1, BA.2.75.2 และ BA.2.75.3 อย่างละ 1 คน กระจายอยู่ที่จังหวัดแพร่ กรุงเทพฯ ตรัง สงขลา และทั้งหมดหายป่วยออกจากโรงพยาบาลแล้ว พร้อมย้ำ ว่าไม่ใช่สายพันธุ์ใหม่ แต่เป็นการกลายพันธุ์จาก BA.2.75 ซึ่งยังต้องจับตาเรื่องความรุนแรง หรือการแพร่ระบาดง่ายขึ้นหรือไม่ เพราะบางสายพันธุ์ที่เคยคิดว่าจะสร้างปัญหา ก็กลับหายไป ไม่ได้แพร่ระบาดต่อ จึงขอให้ประชาชนอย่าวิตกกังวล
ขณะที่ ศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ ระดมผู้เชี่ยวชาญ นวัตกรรมการแพทย์ และสุขภาพจากทั่วโลก มาแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ผลักดันงานวิจัยจากห้องแลปสู่การใช้งานจริง เตรียมพร้อมรับมือโรคอุบัติใหม่ในอนาคต หลังเกิดสถานการณ์โควิด-19
งานนี้ได้เปิดตัวห้องปฏิบัติการเฉพาะทางด้านการวิเคราะห์และทดสอบคุณสมบัติของยาชีววัตถุและวัคซีนมาตรฐานสากลแห่งแรกของไทย และอาเซียน ช่วยให้นักวิจัยไทย วิจัยยาและวัคซีนได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องส่งตรวจวิเคราะห์ไกลถึงต่างประเทศ ซึ่งราคาจะสูงว่าบ้านเราถึง 2 เท่า และใช้เวลานาน โดยหากเกิดโรคอุบัติใหม่ แลปนี้จะช่วยวิเคราะห์ได้ทันที ว่าวัคซีน หรือยาที่คิดค้นขึ้นมานั้น สามารถใช้ได้ทันทีหรือไม่ หรือต้องใช้ปริมาณเท่าไหร่ ซึ่งคนไทยจะได้ใช้ยาและวัคซีนที่มีคุณภาพ และราคาถูก
ทั้งนี้ โอมิครอน สายพันธุ์ย่อยใหม่ BA.2.75.2 นี้ เป็นการกลายพันธุ์ในเจเนอเรชันที่ 3 ของโอมิครอน เนื่องจากกำลังแพร่ระบาด พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในอินเดีย และคาดว่าสายพันธุ์ย่อยนี้กำลังขึ้นมาแทนที่ BA.4 และ BA.5 โดยผู้เชี่ยวชาญกำลังติดตามว่า BA.2.75.2 จะทำให้เกิดอาการป่วยรุนแรงขึ้น หรือน้อยลงกว่าเดิม
ศูนย์จีโนม อินซาคอก INSACOG ของอินเดีย ได้ออกคำเตือนว่า ขณะนี้ เชื้อโควิดสายพันธุ์ย่อย BA.2.75.2 ซึ่งเป็นเชื้อโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย ที่มีความโดดเด่นที่สุดในขณะนี้ที่อินเดีย กำลังเกิดการกลายพันธุ์เพิ่มเติม และอาจกลายเป็นเชื้อโควิดที่แพร่ติดเชื้อได้เร็วกว่าเดิม และสามารถหลบหลีกภูมิคุ้มกันในร่างกายของมนุษย์ได้ดีขึ้นกว่าเดิม ขณะนี้ พบผู้ติดเชื้อโอมิครอนสายพันธุ์ย่อยน้องใหม่ BA.2.75.2 แล้วอย่างน้อย 8 ประเทศ ทั้งอินเดีย ชิลี อังกฤษ สิงคโปร์ สเปน เยอรมนี และไทย
ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า โอมิครอนสายพันธุ์ย่อยใหม่ BA.2.75.2 กำลังพยายามให้ตัวเองอยู่รอดท่ามกลางโอมิครอนสายพันธุ์อื่นๆ ด้วยการเกิดการกลายพันธุ์มากขึ้น โดยขณะนี้จากการสุ่มเก็บตัวอย่างพบว่า มีผู้ติดเชื้อโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.2.75.2 ในรัฐมหาราษฎระ จากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่แล้วกว่า 90%