ความคืบหน้ากรณี น้องโชค นักเรียนชั้น ม.3 เสียชีวิตปริศนาภายในห้องเรียนคอมพิวเตอร์ ซึ่งทางเพื่อนและคุณครูได้เผยว่า แป้นพิมพ์คีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์ของโรงเรียนระเบิดใส่น้องโชค จนถึงแก่ชีวิต ก่อนที่เพื่อนนักเรียนได้สารภาพว่ามีเพื่อนนำปืนปากกาไปในห้องเรียน หลังจากนั้นได้ทำปืนลั่นเข้าตาด้านซ้าย 

ล่าสุด นายนิธิพัฒน์ ประวีณวงศ์วุฒิ ผู้อำนวยการ ฝ่ายการตลาด บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์จำกัด เปิดเผยถึงกรณีนี้ว่า เครื่องรุ่นนี้เป็นเครื่อง ออลอินวัน ถูกออกแบบให้ตัวคียบอร์ดแยกออกมาจกตัวพีซี และมอนิเตอร์ เป็นคีย์บอร์ด ที่เสียบสายยูเอสบีที่ตัวเครื่อง เพื่อให้คีย์บอร์ดมีไฟเลี้ยง โดยใช้ไฟเพียง 5 วัตต์ 

 

ซึ่งในทางทฤษฎีแล้วเรียกว่า ไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่จะทำให้ระเบิดจนถึงขั้นมีผู้เสียชีวิต และที่ผ่านมายังไม่มีเคสไหนในโลกที่เกิดแบบนี้ขึ้น ซึ่งในทางเทคนิคโอกาสเกิดขึ้นได้อยากมากจริงๆ ทางเอเซอร์กำลังตอนสอบเรื่องนี้อยู่ โดยส่งทางทีมเทคนิคไปอยู่ที่ ร.ร.แล้ว

สำหรับเครื่องรุ่นนี้ ขายอยู่ในทั่วโลก และทำตลาดในไทยมานานแล้ว และก่อนที่จะนำออกมาวางจำหน่ายได้ต้องผ่านการตรวจสอบทุกมาตราฐานตามที่กฎหมายประเทศไทยกำหนด และด้วยเป็นเครื่องที่ขายเข้าสถานศึกษาด้วย ก็ยิ่งต้องมีการตรวจสอบสเปกและคุณภาพตามที่กำหนดด้วย และยังได้รับการทดสอบในห้องแล็บ มีการเปิดเครื่องทิ้งไว้นานเป็นสัปดาห์ สาเหตุจากการใช้งานเครื่องหนัก ก็ไม่น่าเป็นไปได้เช่นกัน

ทั้งนี้ หากผลการพิสูจน์หลักฐานต่างๆ ของเจ้าหน้าที่ตำรวจออกมาพบว่าสาเหตุการระเบิดเกิดจากคีย์บอร์ดแล้ว แน่นอนว่า ทางเอเซอร์ ต้องมีการเข้าไปรับผิดชอบ เยียวยาวอย่างแน่นอน ไม่ปล่อยให้แบรนด์เสียชื่อเสียงอย่างแน่นอน