เมื่อเวลา 09.00 น. ที่หน้าสถานีตำรวจภูธรเมืองเพชรบุรี พล.ต.ต.อภิชิต เทียนเพิ่มพูน รอง ผบช.ภ.7 นายณัฐวุฒิ เพ็ชรพรหมศร รองผู้ราชการจังหวัดเพชรบุรี, พล.ต.ต.เทียนชัย คามะปะโส ผบก.ภ.จวเพชรบุรี, พ.ต.อ.สมเดช ฐิตวัฒนะกุล รอง บังคับการตำรวจภูธร จ.เพชรบุรี พ.ต.อ.บัญญัติ เพียรสวัสดิ์ รองบังคับการตำรวจภูธร จ.เพชรบุรี ,พ.ต.อ.ธานินทร์ ฉัตรเจริญพร ผกก.สภ.เมืองเพชรเพชรบุรี ,พันเอก ประยุกต์ อุ่นอบ รอง ผอ.กอ.รมน.จังหวัดเพชรบุรี ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมคดียาไอซ์จำนวน 467 กก.มูลค่ากว่า 1,500 ล้านบาท โดยการจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อช่วงเวลาประมาณ 20.30 น.ของวันที่ 20 กันยายน 2562 ซึ่งมีฝนตกหนักทำให้ถนนลื่นและมีอุบัติเหตุรถบรรทุกสิบล้อ ยี่ห้อ Hino สีขาว หมายเลขทะเบียน 72-3186 นครปฐม เกิดเสียหลักพุ่งชนตอหม้อคอสะพานยกระดับทางเข้าตัวเมืองเพชร ถนนเพชรเกษมขาล่องใต้ กม.ที่157-400 หมู่2 ต.ไร่ส้ม อ.เมือง จ.เพชรบุรี

ในที่เกิดเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 2 ราย คือนายวิลฎาณ แลหะ อายุ 18 ปี เป็น คนขับ และนายอดินันท์ แลหะ อายุ 45 ปีเป็นน้าชาย ทั้งสองอยู่บ้านเลขที่ 241 ถ.จารุเสถียร ต.ปะลุรู อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส โดยหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานขอรถน้ำจาก อบต.ไร่ส้มให้มาฉีดล้างทำความสะอาดถนน และขอให้รถยกมายกรถออกจากที่เกิดเหตุเนื่องจากจุดเกิดเหตุเป็นทางโค้งอยู่ช่องเลนกลาง ซึ่งมีรถติดจำนวนมาก โดยในขณะที่เจ้าหน้าที่ดำเนินการฉีดล้างเพื่อทำความสะอาดได้พบห่อชาหล่นกระจายอยู่บริเวณริมถนน จำนวน 28 ถุง โดยมีถุงที่ฉีดขาดมีวัตถุสีขาวคล้ายกับเกลืออยู่ในห่อชาสีทอง จึงให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ

โดยการนำชุดตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดมาตรวจสอบปรากฏว่าวัตถุสีขาวที่พบอยู่ในห่อชาเป็นยาไอซ์ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจสอบบริเวณท้ายรถมีถุงปุ๋ยสีฟ้า และถุงปุ๋ยสีขาวที่ภายในบรรจุอาหารสัตว์ตกกระจายเกลื่อนและอยู่บนรถ 10 ล้ออีกเต็มคัน จึงได้ตรวจสอบพบว่าถุงปุ๋ยสีฟ้าภายในบรรจุยาไอซ์เต็มกระสอบปุ๋ย โดยซุกซ่อนปะปนมากับถุงปุ๋ยอาหารสัตว์ รวมนับได้ทั้งหมด 15 กระสอบ แต่ละกระสอบบรรจุยาไอซ์จำนวน 30 ถุง ถุงละ 1 กิโลกรัม รวมกับยาไอซ์ที่พบกระจัดกระจายเกลื่อนพื้นอีก รวมน้ำหนักยาไอซ์ที่พบทั้งหมด 467 กก.ที่ รวมมูลค่ายาไอซ์ที่พบในครั้งนี้เกือบ 1500,000,000 บาท

หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.อภิชิต เทียนเพิ่มพูน รอง ผบช.ภ.7 เปิดเผยว่า สำหรับยาไอซ์ในช่วงราคาขึ้นสูงกิโลกรัมละ 3 ล้านบาท โดยยาไอซ์ล๊อตนี้มี 467 กิโลกรัม ก็รวมมูลค่าเกือบ 1500 ล้านบาท แต่หากเล็ดลอดออกไปต่างประเทศได้ก็จะมีมูลค่าอาจจะหลายพันล้านบาท สำหรับผู้ต้องหาจากการตรวจสอบพบว่ารถที่ใช้ขนยาไอซ์ผู้บาดเจ็ยทั้งสองเป็นเจ้าของรถเองโดยซื้อเป็นเงินสด

ซึ่งตรงนี้ก็ต้องตรวจสอบว่าเอาเงินสดจากตรงไหนมาซื้อรถบรรทุกสิบล้อ โดยตอนนี้อาการสาหัสซึ่งอยู่ในการดูแลของแพทย์และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งคาดว่ารายนี้น่าจะเป็นรายใหญ่และจากการตรวจสอบประวัติแล้วเคยมีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด อีกทั้งภาชนะในที่บรรจุหีบห่อที่พบครั้งนี้น่าจะเป็นแบบใหม่เพราะเพิ่งเคยเห็น โดยไอซ์ที่พบไม่ได้บรรจุในประเทศไทย ซึ่งมาจากต่างประเทศโดยการลักลอบเข้ามาโดยต้องทำการตรวจสอบเส้นทางที่มาที่ไปอย่างละเอียดอีกครั้งหลังจากผู้ต้องหาสามารถให้การได้