เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



ปภ.เร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ 9 จังหวัด พร้อมสำรวจความเสียหาย


24 ก.ย. 2565, 11:07



ปภ.เร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ 9 จังหวัด พร้อมสำรวจความเสียหาย




วันที่ 24 ก.ย. 65 เวลา 10.00 น. ปภ.รายงานผลกระทบจากฝนตกหนักในช่วงที่ผ่านมาทำให้ยังมีพื้นที่น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง รวม 9 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ นครราชสีมา ตาก อุบลราชธานี บุรีรัมย์ พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี ปทุมธานี ภาพรวมสถานการณ์ระดับน้ำลดลง แต่พื้นที่ภาคกลางบางจุดมีระดับน้ำเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ปภ. ได้ประสานจังหวัดดูแลผู้ประสบภัย และระดมกำลังเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขัง

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานผลกระทบจากฝนตกหนักถึงหนักมากกับมีลมกระโชกแรงบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตก ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ โดยช่วงวันที่ 22 - 24 ก.ย. 65 มีสถานการณ์ในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ กําแพงเพชร อํานาจเจริญ นครราชสีมา รวม 7 อำเภอ  7 ตำบล 17 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 14 ครัวเรือน ไม่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์  2 จังหวัด ได้แก่  เชียงใหม่ และนครราชสีมา รวม 5 อำเภอ 5 ตำบล 8 หมู่บ้าน แยกเป็น



- เชียงใหม่ เกิดฝนตกหนักทําให้ลําน้ำแม่เหียะ และลําน้ำคันคลอง ล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ต.แม่เหียะ อ.เมืองฯ อ.แม่ริม อ.สันทราย อ.หางดง ทําให้เกิดน้ำท่วมขัง บริเวณหน้าเทศบาลตําบลสุเทพ หน้าท่าอากาศยานเชียงใหม่ ความเสียหายอยู่ระหว่างสํารวจ ปัจจุบันระดับน้ำลดลง
- นครราชสีมา วานนี้ (23 ก.ย.65) เวลา 11.00 น. เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ ต.ประทาย อ.ประทาย ทำให้น้ำท่วมขังบริเวณถนนเทศบาล 9 และท่วมขังในวัดกระโดน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 14 ครัวเรือน ปัจจุบันระดับน้ำลดลง

ขณะที่ช่วงระหว่างวันที่ 13 ส.ค. 65 - 24 ก.ย. 65 ได้เกิดน้ำล้นตลิ่งในพื้นที่ 9 จังหวัด ได้แก่ ตาก ขอนแก่น มหาสารคาม อุบลราชธานี บุรีรัมย์ พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี ปทุมธานี  ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ 7 จังหวัด ได้แก่ ตาก อุบลราชธานี บุรีรัมย์ พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี ปทุมธานี รวม 19 อำเภอ 134 ตำบล 704 หมู่บ้าน ไม่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ประชาชนได้รับผลกระทบ 32,055 ครัวเรือน ดังนี้

- ตาก เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอสามเงา และอำเภอบ้านตาก รวม 4 ตำบล 28 หมู่บ้าน  ประชาชนได้รับผลกระทบ 696 ครัวเรือน ปัจจุบันระดับน้ำลดลง
- อุบลราชธานี น้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองอุบลราชธานี อำเภอวารินชำราบ รวม 6 ตำบล 30 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 542 ครัวเรือน ปัจจุบันระดับน้ำเพิ่มขึ้น
- บุรีรัมย์ น้ำล้นตลิ่งในพื้นที่ตำบลนิคม อำเภอสตึก รวม 5 หมู่บ้าน ปัจจุบันระดับน้ำทรงตัว
- พระนครศรีอยุธยา น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาล้นตลิ่งเข้าท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเสนา อำเภอผักไห่ อำเภอบางบาล อำเภอบางไทร อำเภอบางปะอิน และอำเภอพระนครศรีอยุธยา รวม 88 ตำบล 535 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 24,937ครัวเรือน ปัจจุบันระดับน้ำเพิ่มขึ้น
- อ่างทอง น้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอวิเศษชัยชาญ อำเภอป่าโมก อำเภอไชโย และอำเภอเมืองอ่างทอง รวม 11 ตำบล 36 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 784 ครัวเรือน ปัจจุบันระดับน้ำเพิ่มขึ้น 
- สิงห์บุรี เกิดน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภออินทร์บุรี และอำเภอเมืองสิงห์บุรี รวม 3 ตำบล  6 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 170 ครัวเรือน ปัจจุบันระดับน้ำทรงตัว
- ปทุมธานี เกิดน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองปทุมธานี และอำเภอสามโคก รวม 21 ตำบล 64 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 4,926 ครัวเรือน ปัจจุบันระดับน้ำลดลง


สำหรับการให้ความช่วยเหลือ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดที่ประสบภัยได้ประสานจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่และให้การดูแลช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่เข้าสำรวจประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ต่อไป

ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับ แจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ประชาชนยังสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยได้ที่แอปพลิเคชัน “THAI DISASTER ALERT”






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.