ปภ. ประสานพื้นที่เร่งระบายน้ำและช่วยเหลือผู้สบภัยน้ำท่วม ในพื้นที่ 20 จังหวัด
27 ก.ย. 2565, 10:35
วันที่ 27 ก.ย. 65 เวลา 09.45 น. ปภ.รายงานยังคงมีสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งในพื้นที่ 20 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน สุโขทัย ตาก เพชรบูรณ์ กำแพงเพชร พิษณุโลก เลย ขอนแก่น ชัยภูมิ ศรีสะเกษ หนองบัวลำภู นครราชสีมา ระยอง ปราจีนบุรี อุบลราชธานี พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง และปทุมธานี รวม 78 อำเภอ 254 ตำบล 1,024 หมู่บ้าน ซึ่งปภ.ได้ร่วมกับจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งระบายน้ำและให้การช่วยเหลือประชาชนแล้ว
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานผลกระทบจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมากกับมีลมกระโชกแรงบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ส่งผลให้ในช่วงวันที่ 22 – 26 ก.ย. 65 เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 20 จังหวัด ได้แก่ (เชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน สุโขทัย ตาก เพชรบูรณ์ กำแพงเพชร พิษณุโลกเลย ขอนแก่น ชัยภูมิ อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ นครราชสีมา มุกดาหาร ยโสธร หนองบัวลำภู ระยอง ปราจีนบุรี สมุทรปราการ รวม 69 อำเภอ 139 ตำบล 356 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 2,839ครัวเรือน ไม่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ 16 จังหวัด รวม 60 อำเภอ 120 ตำบล 325 หมู่บ้าน ดังนี้
1. เชียงใหม่ น้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 10 อำเภอ ได้แก่ อำเภอจอมทอง อำเภอดอยเต่า อำเภอฮอด อำเภอสะเมิง อำเภออมก๋อย อำเภอดอยหล่อ อำเภอแม่ริม อำเภอเมืองเชียงใหม่ อำเภอสันทราย และอำเภอหางดง รวม 14 ตำบล 17 หมู่บ้าน ระดับน้ำลดลง
2. ลำปาง น้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเถิน อำเภอแจ้ห่ม อำเภอวังเหนือ อำเภอเมืองปาน อำเภอเกาะคา อำเภองาว และอำเภอแม่พริก รวม 11 ตำบล 26 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 51 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
3. ลำพูน น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองลำพูน อำเภอป่าซาง อำเภอลี้ อำเภอบ้านธิ อำเภอทุ่งหัวช้าง และอำเภอบ้านโฮ๋ง รวม 9 ตำบล 13 หมู่บ้าน ระดับน้ำลดลง
4. สุโขทัย น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอศรีสัชนาลัย และอำเภอศรีสำโรง รวม 7 ตำบล 12 หมู่บ้าน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
5. ตาก น้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบ้านตาก อำเภอเมืองตาก อำเภอแม่สอด และอำเภอแม่ระมาด รวม 6 ตำบล 17 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 118 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
6. เพชรบูรณ์ น้ำท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอหล่มเก่า อำเภอหล่มสัก อำเภอวิเชียรบุรี อำเภอบึงสามพัน และอำเภอศรีเทพ รวม 7 ตำบล 13 หมูบ้าน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
7. กำแพงเพชร น้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอพรานกระต่าย อำเภอโกสัมพีนคร อำเภอเมืองกำแพงเพชร อำเภอขาณุวรลักษบุรี รวม 5 ตำบล 10 หมู่บ้าน ระดับน้ำลดลง
8. พิษณุโลก น้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอวังทอง อำเภอนครไทย รวม 9 ตำบล 10 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 7 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
9. เลย น้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอวังสะพุง อำเภอด่านซ้าย และอำเภอภูกระดึง รวม 15 ตำบล 119 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,392 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
10. ขอนแก่น น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอเมืองขอนแก่น รวม 5 ตำบล 5 หมู่บ้าน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
11. ชัยภูมิ เกิดฝนตกหนักน้ำท่วมขังในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองชัยภูมิ อำเภอคอนสวรรค์ และอำเภอเทพสถิต รวม 5 ตำบล 13 หมู่บ้าน ระดับน้ำทรงตัว
12. ศรีสะเกษ น้ำท่วมในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองศรีสะเกษ อำเภอห้วยทับทัน อำเภอยางชุมน้อย อำเภอวังหิน อำเภอภูสิงห์ อำเภอน้ำเกลี้ยง และอำเภออุทุมพรพิสัย รวม 16 ตำบล 46 หมู่บ้าน อพยพประชาชน 176 ครัวเรือน 1,101 คน ไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว 9 จุด ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
13. หนองบังลำภู น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอศรีบุญเรือง รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 23 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
14. นครราชสีมา น้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอพิมาย และอำเภอเมืองนครราชสีมา รวม 5 อำเภอ 6 ตำบล ประชาชนได้รับผลกระทบ 20 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
15. ระยอง น้ำท่วมขังผิวจราจรในพื้นที่อำเภอเมืองระยอง รวม 3 ตำบล 3 หมู่บ้าน ระดับน้ำลดลง
16. ปราจีนบุรี น้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอกบินทร์บุรี อำเภอเมืองปราจีนบุรี รวม 2 ตำบล 2 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 39 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
สำหรับสถานการณ์น้ำล้นตลิ่ง ผลกระทบจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก และปริมาณน้ำในแม่น้ำสายหลัก ลำน้ำสาขามีปริมาณมาก ระหว่างวันที่ 13 ส.ค. 65 - 26 ก.ย. 65 ส่งผลให้น้ำล้นตลิ่งในพื้นที่ 9 จังหวัด ได้แก่ ตาก ขอนแก่น มหาสารคาม อุบลราชธานี บุรีรัมย์ พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี และปทุมธานี ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ 5 จังหวัด ตาก อุบลราชธานี พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง และปทุมธานี รวม 18 อำเภอ 134 ตำบล 699 หมู่บ้าน ไม่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ดังนี้
- ตาก น้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอสามเงา และอำเภอบ้านตาก รวม 4 ตำบล 28 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 342 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
- อุบลราชธานี น้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองอุบลราชธานี อำเภอวารินชำราบ อำเภอสว่างวีระวงศ์ อำเภอพิบูลมังสาหาร รวม 10 ตำบล 42 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,026 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
- พระนครศรีอยุธยา น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาล้นตลิ่งเข้าท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเสนา อำเภอผักไห่ อำเภอบางบาล อำเภอบางไทร อำเภอบางปะอิน และอำเภอพระนครศรีอยุธยา รวม 88 ตำบล 535 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 24,937ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว
- อ่างทอง น้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอวิเศษชัยชาญ อำเภอป่าโมก อำเภอไชโย และอำเภอเมืองอ่างทอง รวม 11 ตำบล 36 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 803 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
- ปทุมธานี เกิดน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองปทุมธานี และอำเภอสามโคก รวม 21 ตำบล 64 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 4,926 ครัวเรือน ปัจจุบันระดับน้ำลดลง
สำหรับการให้ความช่วยเหลือ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดที่ประสบภัย ได้ประสานจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่และให้การดูแลช่วยเหลือผู้ประสบภัย อย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่เข้าสำรวจประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ต่อไป ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับ แจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ประชาชนยังสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัย ได้ที่แอปพลิเคชัน “THAI DISASTER ALERT”