โดยคนร้ายที่เป็นหญิงสาวได้ขับรถมาจากทางตลาดท่าประชุม ก่อนที่จะมาด้านในติดกับหร้านทอง จากนั้นมีหญิงสาวหุ่นดีสูงประมาณ 150-160ซม.ได้เดินลงมาจากรถฝั่งคนขับโดยไมขับเครื่อง(รู้ที่หลัง)และเดินเข้ามาในร้าน โดยทำเหมือเอามือปิดหน้าตัวเองไว้รู้ว่ามีกล้อง จากนั้นได้มาขอทำที่ดูสร้อยข้อมือ และสร้อยคำ จำนวนนองเส้นอยู่นาน ก่อนที่จะทำทีลองสร้อยและดูกระจก และหลังจากนั้นอาศัยช่วงที่ประตูร้านเปิดวิ่งหนี้พร้อมกับสร้อยคอและสร้อยข้อมือวิ่งขึ้นรถยนต์เก๋งที่จอดอยู่กน้าร้านขับหนีไปทางสัญญาณไฟจราจร โดยมีเจ้าของร้านทองสิ่งตามออกไป ซึ่งเจ้าของร้านได้คว้าเก้าอี้ที่ตั้งวางของไหว้ อยู่หน้าร้านตัไปที่กระจกด้านซ้ายจนแตกทั้งหน้าและหลัง แต่คนร้ายยังหนีไปได้ จากนั่นจึงได้แระสานเจ้าหน้าทีตำรวจสกัดจับ

 

 

 

 

จากการสอบนายภูวณัฐ เจ้าของร้านทองดังกลาาวทราบว่าช่วงนั้นเป็นช่วงเวลา ประมาณ 3 โมงเย็น ซึ่งตนได้อยู่ร้ายคนเดียว ก็มีลูกค้าเข้าออกอยู่เลื้อยๆ จากนั้นได้มีคนร้ายดังกล่าวขับรถเก๋งมาจอดหน้าร้าน และได้เดินเข้ามาขอดูสร้อยข้อมือก่อน โดยที่แรกหยิบอีกเส้น คนร้ายลองใส่แล้วบอกว่าหลวม จึงได้หยิบเส้นที่คนร้ายชิงไปให้ลองตนบอกว่าลายนี้มีเป็นเป็นเซ็ตคู่เป็นสร้อยคอ ลายกระดูกงูเหนือนกันแต่อันนี้เป็นพิเศษคือลงยา จากนั้นคนร้านขอลองทั้งคู่ ก่อนที่จะเดินไปมาหน้าประตูทำที่ว่าส่องกระก่อน ก่อนที่คนร้ายบอกว่าจะลองเข้าไปให้แฟนดู แต่ตนบอกว่าไม่ได้ ยังไมทันขาดคำคนร้ายอาศัยประตูเปิดวิ่งหนี้ออกไปขึ้นรถและขับออกไปอย่างรวดเร็ว โดยปกติแล้วทางร้านเองก็มีระบบป้องกั้นอยู่แล้ว โดยระบบประตูล็อค อัตโนมัติแต่เนื่องจากก่อนหน้านี้ประตูเกิดเสีย และวันนี้ ช่างมาซ่อม จนเสร็จ แต่ยังขาดรีโมทเท่านั้นทำให้ประตูไม่สามารถล็อคได้ คนร้ายน่าจะรู้ ก่อนหน้านี้ จึงทำเป็นเดินอยู่หน้าประตู ก่อนที่ประตูจะเปิดและได้วิ่งหนีไปดังกล่าว