คืบหน้า "นร.สูบกัญชา" นายอำเภอสั่งล่าพ่อค้ากัญชา เร่งแก้ไขปัญหาเยียวยาจิตใจเด็ก
28 ก.ย. 2565, 18:01
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากกรณีที่มีการเผยแพร่คลิปทางสื่อโซเชียลว่าเด็กนักเรียนของโรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอไพรบึงจำนวน 5 คน รวมกลุ่มกันสูบกัญชาทำให้มีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางว่าเหมาะสมหรือไม่อย่างไรล่าสุดตำรวจ สภ.ไพรบึงได้เข้ามาตรวจสอบเรื่องนี้และได้มอบเรื่องนี้ให้กับทางโรงเรียนดำเนินการตามระเบียบของทางโรงเรียนต่อไปตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 28 กันยายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมโรงเรียนวัดไพรบึงวิทยา ต.ไพรบึง อ.ไพรบึง จ.ศรีสะเกษ นายบุญญาฤทธิ์ เยี่ยมยอด นายอำเภอไพรบึง ได้เดินทางมาตรวจสอบติดตามเรื่องนี้ โดยได้เชิญทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ทั้งสาธารณสุขอำเภอไพรบึง โรงพยาบาลไพรบึง ศูนย์การศึกษาพิเศษ อ.ไพรบึง บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.ศรีสะเกษ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.ศรีสะเกษ มาร่วมกันประชุมหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาร่วมกัน โดยได้นำตัวเด็กนักเรียนทั้ง 5 คน ซึ่งเป็นนักเรียนระดับชั้น ม.2 ของโรงเรียนแห่งนี้มาสอบถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ซึ่งนายอุรีย์ พันธ์แก่น ผอ.ร.ร.วัดไพรบึงวิทยา พร้อมด้วย คณะครูที่เกี่ยวข้องได้มาประชุมด้วย โดยได้รับความเมตตาจากพระครูวาปีคณาภิรักษ์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะ อ.ไพรบึง และเป็นผู้รับใบอนุญาตจัดตั้งโรงเรียนวัดไพรบึงวิทยา มาร่วมประชุมด้วย ซึ่งได้มีการพูดคุยกันถึงแนวทางต่าง ๆ ในการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ ซึ่งนายอำเภอได้สอบถามเด็กนักเรียนว่า เรื่องนี้มีความเป็นมาอย่างไร จากนั้น ได้ร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องแจ้งให้เด็กนักเรียนทั้ง 5 คน ได้รับทราบว่า กัญชามีคุณและโทษอย่างไรบ้าง ซึ่งเด็กทั้ง 5 คน ได้ให้คำมั่นสัญญากับนายอำเภอไพรบึงและผู้ใหญ่ทุกคนที่นั่งอยู่ในห้องประชุมว่า จะไม่ยุ่งเกี่ยวข้องกับกัญชาและยาเสพติดต่าง ๆ อีกต่อไป
นายบุญญาฤทธิ์ ยอดเยี่ยม นายอำเภอไพรบึง กล่าวว่าหลังจากที่เป็นข่าวออกไป ตนพร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องก็ได้มานั่งพูดคุยกันโดยตั้งโต๊ะประชุมกันที่โรงเรียนวัดไพรบึงวิทยา เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นกับลูกหลานของเราก็ไม่เป็นไร เพราะว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเด็ก ก็อาจจะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ อาจจะอยากรู้อยากลองตามความคิดของเด็ก แต่ว่าเมื่อเด็กมานั่งตรงนี้แล้ว ก็ได้ชี้ให้เด็กได้รู้ว่าสิ่งไหนถูกต้อง หรือไม่ถูกต้อง ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือจากเด็กเป็นอย่างดี และเด็กได้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดต่าง ๆ ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้น เราจะร่วมกันแก้ไขปัญหาให้ดีที่สุด โดยที่จะไม่โทษใครแล้วเราจะร่วมกันเดินหน้าแก้ไขปัญหาให้ดีที่สุดต่อไป ซึ่งทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องทั้ง พมจ.ศูนย์การศึกษาพิเศษ สาธารณสุข อ.ไพรบึง รพ.ไพรบึง และตำรวจ สภ.ไพรบึง ก็จะได้ดำเนินการในส่วนหน้าที่รับผิดชอบที่เกี่ยวข้อง ส่วนตนนั้นก็จะได้ประสานงานทุกส่วนราชการ เพื่อจะได้ติดตามแนวทางการแก้ไขปัญหาที่ได้มีการวางแนวทางกันเอาไว้แล้ว โดยจะบูรณาการร่วมกันทุกภาคส่วนตามที่ได้ประชุมกันเอาไว้ในวันนี้ ส่วนพ่อค้าที่ขายกัญชาให้กับเด็กนักเรียนนั้น ตนได้ประสานงานกับ ผกก.สภ.ไพรบึง เพื่อให้ติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป ตนขอฝากถึงผู้ปกครองนักเรียนและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องว่า ขอให้ตักเตือนนักเรียน บุตรหลานของตนเองเกี่ยวกับเรื่องกัญชาว่าหากจะใช้กัญชาอะไร ก็ควรที่จะปรึกษากับผู้หลักผู้ใหญ่ หรือผู้รู้เสียก่อนว่า กัญชามีคุณหรือโทษอย่างไร เพราะตอนนี้เรายังไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เราใช้ไปนี้ถูกต้องหรือไม่อย่างไร โดยหากว่าหากใช้กัญชาตามแนวทางของการแพทย์แล้วอันนั้นไม่เป็นไร แต่ว่าบางทีสื่อที่ออกไปหลาย ๆ สื่อทางโซเชียลที่ออกมา อาจจะทำให้เข้าใจผิดไปบ้างในบางประเด็น ทำให้นำเอากัญชามาใช้ในทางที่ผิดไม่เหมาะสมและเป็นอันตรายต่อสุขภาพของตนเอง ซึ่งเรื่องนี้ตนจะได้ประชาสัมพันธ์ให้หัวหน้าสวนราชการของ อ.ไพรบึงได้รับทราบ รวมทั้งกำนันผู้ใหญ่บ้าน เพื่อให้รู้ถึงคุณและโทษของกัญชาและจะต้องใช้ให้ถูกต้องตามหลักทางการแพทย์
นายอุรีย์ พันธ์แก่น ผอ.ร.ร.วัดไพรบึงวิทยา กล่าวว่า ตามที่ทางท่านนายอำเภอได้เชิญหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องมานั่งพูดคุยกันในวันนี้ ก็เพื่อที่จะหาทางแก้ปัญหาร่วมกัน สิ่งที่เราเน้นย้ำก็คือการที่จะต้องดูแลเอาใจใส่เด็กให้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ส่วนในการดำเนินการของโรงเรียนนั้นก็จะมีการว่ากล่าวตักเตือนเด็ก เนื่องจากว่าเด็กคนที่เป็นผู้นำเอากัญชามาให้เพื่อนสูบนั้นเป็นเด็กพิเศษ เนื่องจากการรับรู้ของเด็กคนนี้ค่อนข้างช้า ซึ่งทางศูนย์การศึกษาพิเศษก็จะได้เข้ามาช่วยดูแลในเรื่องนี้ ส่วนเด็กนักเรียนคนอื่นนั้น ทางนักจิตวิทยารวมทั้งส่วนราชการที่เกี่ยวข้องทั้ง พมจ.ศก.และบ้านพักเด็กและครอบครัว จ.ศรีสะเกษ ก็จะได้เข้ามาให้การช่วยเหลือดูแลทั้งนี้เนื่องจากว่าขณะนี้เด็กทุกคนยังหวาดผวาเกี่ยวกับเรื่องเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ต้องเยียวยาจิตใจของเด็กทั้งหมด ซึ่งตนและคณะครูทุกคนก็จะได้เข้าไปช่วยดูแลเด็กทั้ง 5 คน อย่างใกล้ชิด เพื่อให้ความอบอุ่นกับเด็กเพื่อจะได้เติบโตเป็นพลเมืองดีของประเทศชาติสืบต่อไป