ปภ.แจ้งเตือน! "11 จังหวัด - กทม." เฝ้าระวังระดับแม่น้ำป่าสักและแม่น้ำเจ้าพระยาสูงขึ้น ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 65 เป็นต้นไป
1 ต.ค. 2565, 16:21
วันนี้ (1 ต.ค. 65) เวลา 12.00 น. กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แจ้ง 11 จังหวัด ได้แก่ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี ลพบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี และสมุทรปราการ รวมถึงกรุงเทพมหานคร เฝ้าระวังสถานการณ์ระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักและแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นจากการระบายน้ำผ่านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 เป็นต้นไป พร้อมแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ โดยเฉพาะประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ริมน้ำนอกแนวคันกั้นน้ำและแนวเขื่อนชั่วคราวในบริเวณที่ไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร และพื้นที่จุดเสี่ยงที่เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำ เตรียมพร้อมรับมือระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์ เพื่อเตรียมความพร้อมปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง
กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทยได้รับการประสานจากกรมชลประทานและกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ แจ้งว่า เนื่องจากอิทธิพลของพายุโซนร้อน “โนรู” ทำให้มีฝนตกหนักบริเวณภาคเหนือ และภาคกลาง ส่งผลให้มีน้ำท่าหลากลงสู่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาและลุ่มน้ำป่าสักปริมาณมากขึ้น คาดการณ์ว่าจะมีปริมาณน้ำไหลผ่านบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ (C.2) อยู่ในเกณฑ์ 2,600 – 2,700ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และไหลมารวมกับแม่น้ำสะแกกรังและลำน้ำสาขาไหลเข้าเขื่อนเจ้าพระยา ทำให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มขึ้นอยู่ในอัตรา 2,600 – 2,700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ในช่วงวันที่ 1 - 7 ตุลาคม 2565 ประกอบกับคาดการณ์ว่าจะมีปริมาณน้ำไหลลงเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ในช่วงวันที่ 1 - 6 ตุลาคม 2565 ประมาณ 800 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งจะทำให้ปริมาณน้ำในเขื่อนมีแนวโน้มเกินความจุที่ระดับเก็บกักสูงสุด จึงจำเป็นต้องทยอยปรับเพิ่มการระบายน้ำแบบขั้นบันได และจะควบคุมปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนพระรามหก ในอัตราไม่เกิน 800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จึงขอให้เฝ้าระวังผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่เสี่ยง ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 เป็นต้นไป
กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จึงได้แจ้ง 11 จังหวัด ได้แก่ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี ลพบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี และสมุทรปราการ รวมถึงกรุงเทพมหานคร จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสถานการณ์ระดับน้ำในแม่น้ำป่าสัก และแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นจากการปรับเพิ่มการระบายน้ำ โดยเฉพาะประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ริมน้ำนอกแนวคันกั้นน้ำและแนวเขื่อนชั่วคราวในบริเวณที่ไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร และพื้นที่จุดเสี่ยงที่เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำตามริมแม่น้ำติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด รวมถึงแจ้งเตือนผู้ประกอบกิจการในแม่น้ำ อาทิ งานก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง แพร้านอาหาร ท่าเทียบเรือโดยสารสาธารณะ ตลอดจนแจ้งจังหวัดประสานท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบแนวคันกั้นน้ำ จัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ เครื่องจักรกลด้านสาธารณภัย และเจ้าหน้าที่ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ เพื่อเตรียมความพร้อมปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง
ท้ายนี้ ประชาชนในพื้นเสี่ยงภัยขอให้ติดตามข้อมูลปริมาณน้ำอย่างใกล้ชิด และเตรียมความพร้อมรับมือผลกระทบจากสถานการณ์น้ำ โดยสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยที่แอปพลิเคชัน “THAI DISASTER ALERT” และหากได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM รวมถึงสายด่วนนิรภัย1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป