กทม.ขอหน่วยงานยืดหยุ่นเวลาทำงาน-WFH หนีน้ำท่วม 5-7 ต.ค.
5 ต.ค. 2565, 18:40
วันนี้ ( 5 ต.ค.65 ) ผศ.ดร.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นายเจษฎา จันทรประภา รองผู้อำนวยการสำนักระบายน้ำ และนายเอกวรัญญู อัมระปาล ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และโฆษกของกรุงเทพมหานคร แถลงสถานการณ์น้ำ และการเตรียมความพร้อมรับมือน้ำในพื้นที่ รวมถึงกรณีการ Work From Home ในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า กรุงเทพมหานครไม่สามารถร้องขอให้ใคร Work From Home ได้ เพียงแต่ขอความร่วมมือให้ยืดหยุ่นให้พนักงานกลับเร็วหากสามารถทำได้ เพราะสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สนทช.) เตือนว่า น้ำเหนือจะลงมาตั้งแต่วันนี้ และสูงขึ้นในวันที่ 7-8 ต.ค. 65 คาดว่าวันนี้ฝนจะตกในภาคกลางและกรุงเทพมหานคร นอกจากนี้ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้สั่งให้รายงานภาพจากกล้อง CCTV เกี่ยวกับสถานการณ์น้ำทั้งก่อนและหลังฝนตก พร้อมให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนสภาพอากาศให้ประชาชนรับทราบในเวลา 05.00 น. และ 15.00 น. เป็นต้นไป ส่วนช่วงเวลาไหนมีฝนตกหนักก็จะมีการแจ้งเตือนถี่ขึ้น
ด้านรองผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ รายงานสถานการณ์น้ำว่า การระบายน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา อยู่ในอัตรา 2,697 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่วนสถานีบางไทร น้ำไหลผ่าน 3,100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยกรมชลประทานจะเริ่มผลักดันน้ำไปทิศตะวันตกมากขึ้น ส่วนสถานการณ์น้ำใน 4 เขื่อนหลักยังรับได้ แต่น้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ อยู่ที่ 106% เกินความจุแล้ว ซึ่งจะต้องระบายน้ำผ่านกรุงเทพมหานคร ขณะที่น้ำทะเลหนุนสูงสุดในวันนี้ เวลา 18.03 น. ระดับฐานน้ำ +1.10 เมตร โดยเดือนนี้น้ำทะเลจะหนุนสูงสุดในวันที่ 8 ต.ค.65 ฐานน้ำ +2.20 ถึง 2.30 เมตร
สำหรับปริมาณฝนสะสมตลอดปี 2565 อยู่ที่ 1,979 มิลลิเมตร ส่วนปริมาณฝนสะสมในเดือนกันยายน อยู่ที่ 801 มิลลิเมตร ปริมาณในสะสมในเดือนตุลาคม อยู่ที่ 60 มิลลิเมตร โดยกรุงเทพมหานครเตรียมแผนรับมือน้ำเหนือและน้ำฝนไว้แล้ว จัดกระสอบทรายอุดจุดฟันหลอ 76 จุด อาทิ ท่าเรือเทเวศร์ ถนนทรงวาด ท่าราชวรดิฐ เพิ่มประสิทธิภาพ ทำแผนบังคับน้ำปรับทางน้ำไหลที่คลองบางซื่อ คลองชวดใหญ่ตัดคลองลาดพร้าว ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ และบังคับน้ำปรับทิศทางน้ำไหลบริเวณคลองบางเขนตัดคลองเปรมประชากร ติดตั้งเครื่องสูบน้ำไฮดรอลิกที่สถานีสูบน้ำพระโขนง เพิ่ม 5 เครื่อง พร้อมประสานงานกับกรมชลประทานต่อเนื่อง
ทั้งนี้เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาที่เกิดฝนตกหนัก เนื่องมาจากมีแนวร่องอยู่กลางกรุงเทพมหานคร จึงทำให้ฝนตกหนักถึง 100 มิลลิเมตร แต่วันนี้พยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยาปรากฏว่าแนวร่องนั้นหายไป เนื่องจากลมหนาวพัดลงมา หากให้คาดการณ์ฝนตกวันนี้น่าจะเป็นพื้นที่กรุงเทพฯ บริเวณด้านใต้ ได้แก่ เขตบางนา บางขุนเทียน ลาดกระบัง และประเวศ ซึ่งอาจมีฝนตกหนักเกิน 100 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง หรืออาจเกิดฝนตกทั่วกรุงเทพฯ ก็ได้ จึงต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง
รองผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ กล่าวด้วยว่า ส่วนกรณีที่เคยเกิดเหตุน้ำล้นเกินกระสอบทรายในพื้นที่กรุงเทพฯ เมื่อปีที่ผ่าน สำนักการระบายน้ำ ได้นำมาเป็นประสบการณ์ มีการเสริมกระสอบทรายให้หนาและแข็งแรงขึ้น ส่วนการเสริมกระสอบทรายตามแนวแม่น้ำเจ้าพระยาจากจุดรอยต่อจังหวัดนนทบุรีจนถึงรอยต่อจังหวัดสมุทรปราการ เสริมขึ้นไปสูงสุดจากเดิม +2.60 ม.รทก. ตลอดความยาว 3 กิโลเมตร ทั้งนี้กรุงเทพมหานครได้จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังในจุดวางกระสอบทรายตามริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่อาจจะมีการรั่วซึม หากน้ำทะเลหนุนสูงในบางช่วง โดยมีสถานีสูบน้ำ และเครื่องสูบน้ำตลอดแนว ส่วนกรณีที่มีการคาดการณ์ว่าน้ำเหนือจะอยู่ในอัตรา 3,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีนั้น คงไม่น่าจะเป็นไปได้ เนื่องจากกรมชลประทานจะเป็นผู้บริหารจัดการน้ำ เบี่ยงน้ำไปทางซ้ายทางขวา แต่อย่างไรกรุงเทพมหานครได้เตรียมความพร้อมรับมืออย่างต่อเนื่องและได้เตรียมกระสอบทราย 2 ล้านใบ สำหรับอุดแนวฟันหลอรวมถึงกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินด้วย ซึ่งมีเพียงพอและพร้อมใช้งาน