ปภ. เร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม 15 จังหวัด และน้ำล้นตลิ่ง 6 จังหวัด
7 ต.ค. 2565, 12:46
วันที่ 7 ต.ค. 65 เวลา 10.30 น. ปภ.รายงานจากอิทธิพลร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมภาคเหนือด้านตะวันตก ขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ประกอบกับผลกระทบจากพายุโนรู ทำให้เกิดน้ำท่วมและน้ำป่าไหลหลาก รวม 33 จังหวัด รวม 167 อำเภอ 702 ตำบล 4,069 หมู่บ้าน ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์15 จังหวัด ได้แก่ เพชรบูรณ์ พิจิตร นครสวรรค์ นครสวรรค์ นครนายก ศรีสะเกษ อุบลราชธานี ขอนแก่น เลย ชัยภูมิ มหาสารคาม นครราชสีมา บุรีรัมย์ ลพบุรี ปราจีนบุรี รวม 102 อำเภอ 545 ตำบล 3,638 หมู่บ้าน ขณะที่สถานการณ์น้ำล้นตลิ่งมีพื้นที่ได้รับผลกระทบใน 6 จังหวัด ได้แก่ ตาก พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง ปทุมธานี สิงห์บุรี ชัยนาท รวม 24 อำเภอ 175 ตำบล 893 หมู่บ้าน โดย ปภ. ได้ประสานทุกจังหวัดเร่งสำรวจความเสียหายและให้ช่วยเหลือประชาชน
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานอิทธิพลร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมภาคเหนือด้านตะวันตก ขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย อีกทั้งผลกระทบจากสถานการณ์พายุโนรู ทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากและลมแรงในหลายพื้นที่ ส่งผลให้เกิดสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยในช่วงวันที่ 28 ก.ย. – 7 ต.ค. 65เกิดสถานการณ์ภัยในพื้นที่ 33 จังหวัด ได้แก่ แม่ฮ่องสอน พะเยา เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง สุโขทัย เพชรบูรณ์ ตาก พิจิตร อุตรดิตถ์ น่าน แพร่ นครสวรรค์ อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ ยโสธร อุบลราชธานี ขอนแก่น นครราชสีมา บุรีรัมย์ เลย ชัยภูมิ มหาสารคาม มุกดาหาร ลพบุรี นครนายก นครปฐม กาญจนบุรี สระบุรี สระแก้ว ปราจีนบุรี พังงา และตรัง รวม 167 อำเภอ 702 ตำบล 4,069 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 86,437 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 4 ราย (ศรีสะเกษ 3 ราย เพชรบูรณ์ 1 ราย) ผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย (ศรีสะเกษ)
ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ 15 จังหวัด ได้แก่ เพชรบูรณ์ พิจิตร นครสวรรค์ นครสวรรค์ นครนายก ศรีสะเกษ อุบลราชธานี ขอนแก่น เลย ชัยภูมิ มหาสารคาม นครราชสีมา บุรีรัมย์ ลพบุรี ปราจีนบุรี รวม 102 อำเภอ 545 ตำบล 3,638 หมู่บ้าน ดังนี้
1.เพชรบูรณ์ น้ำท่วมในพื้นที่ 10 อำเภอ ได้แก่ อำเภอวิเชียรบุรี อำเภอบึงสามพัน อำเภอหนองไผ่ อำเภอหล่มสัก อำเภอศรีเทพอำเภอเมืองเพชรบูรณ์ อำเภอหล่มเก่า อำเภอชนแดน อำเภอวังโป่ง และอำเภอน้ำหนาว รวม 89 ตำบล 696 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 2,0647 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 1 ราย ระดับน้ำทรงตัว
2.พิจิตร น้ำท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอสามง่าม อำเภอวชิรบารมี อำเภอทับคล้อ อำเภอบึงนาราง และอำเภอบางมูลนาก รวม 20 ตำบล 87 หมู่บ้าน ระดับน้ำลดลง
3.นครสวรรค์ น้ำท่วมในพื้นที่ 13 อำเภอ ได้แก่ อำเภอหนองบัว อำเภอพยุหะคีรี อำเภอท่าตะโก อำเภอไพศาลี อำเภอโกรกพระ อำเภอเมืองนครสวรรค์ อำเภอตาคลี อำเภอลาดยาว อำเภอชุมแสง อำเภอบรรพตพิสัย อำเภอตากฟ้า อำเภอแม่เปิน และอำเภอแม่วงก์ รวม 56 ตำบล 407 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 13,764 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว
4.ศรีสะเกษ น้ำท่วมในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองศรีสะเกษ อำเภอห้วยทับทัน อำเภอยางชุมน้อย อำเภอวังหิน อำเภอภูสิงห์ อำเภอน้ำเกลี้ยง และอำเภออุทุมพรพิสัย รวม 16 ตำบล 46 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,301 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 3 ราย ผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย และอพยพประชาชน 528 ครัวเรือน 2,152 คน ไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว 23 จุด ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
5.อุบลราชธานี น้ำท่วมในพื้นที่ 9 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองอุบลราชธานี อำเภอวารินชำราบ อำเภอสว่างวีระวงศ์ อำเภอเดชอุดม อำเภอดอนมดแดง อำเภอสำโรง อำเภอพิบูลมังสาหาร อำเภอเขื่องใน และอำเภอตระการพืชผล รวม 28 ตำบล 135 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 5,373 ครัวเรือน อพยพประชาชน 135 ชุมชน ไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว 90 จุด ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
6.ขอนแก่น น้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองขอนแก่น อำเภอชนบท อำเภอน้ำพอง และอำเภอโคกโพธิ์ชัย รวม 11 ตำบล 46 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 120 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
7.ชัยภูมิ น้ำท่วมในพื้นที่ 16 อำเภอ ได้แก่ อำเภอคอนสวรรค์ อำเภอบ้านเขว้า อำเภอเกษตรสมบูรณ์ อำเภอจัตุรัส อำเภอเนินสง่า อำเภอภูเขียว อำเภอบำเหน็จณรงค์ อำเภอหนองบัวระเหว อำเภอบ้านแท่น อำเภอภักดีชุมพล อำเภอเทพสถิต อำเภอหนองบัวแดง อำเภอคอนสาร อำเภอซับใหญ่ อำเภอแก้งคร้อ และอำเภอเมืองชัยภูมิ รวม 106 ตำบล 784 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 991 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
8.นครราชสีมา น้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอลำทะเมนชัย อำเภอสูงเนิน และอำเภอชุมพวง รวม 11 ตำบล 28 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,195 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว
9.บุรีรัมย์ น้ำท่วมในพื้นที่ 11 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบ้านด่าน อำเภอพุทไธสง อำเภอสตึก อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอนางรอง อำเภอปะคำ อำเภอบ้านกรวด อำเภอกระสัง อำเภอคูเมือง อำเภอชำนิ และอำเภอลำปลายมาศ รวม 31 ตำบล 122 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 308 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว
10.เลย น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอเมืองเลย รวม 2 ตำบล 7 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 127 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว
11.มหาสารคาม น้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองมหาสารคาม อำเภอกันทรวิชัย อำเภอโกสุมพิสัย และอำเภอเชียงยืน รวม 41 ตำบล 451 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 3,045 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว
12.ลพบุรี น้ำท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองลพบุรี อำเภอชัยบาดาล อำเภอบ้านหมี่ อำเภอโคกสำโรง และอำเภอพัฒนานิคม รวม 53 หมู่บ้าน 343 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 15,567 ครัวเรือน อพยพประชาชน 497 คน ไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว 5 จุด ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
13.นครนายก น้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองนครนายก อำเภอปากพลี อำเภอบ้านนา และอำเภอองครักษ์ รวม 29 ตำบล 187 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 8,852 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
14.นครปฐม น้ำท่วมในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอนครชัยศรี อำเภอบางเลน อำเภอสามพราน อำเภอเมืองนครปฐม อำเภอกำแพงแสน อำเภอดอนตูม อำเภอพุทธมณฑล รวม 35 ตำบล 196 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 3,989 หมู่บ้าน ระดับน้ำลดลง
15.ปราจีนบุรี น้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอกบินทร์บุรี อำเภอเมืองปราจีนบุรี และอำเภอประจันตคาม รวม 17 ตำบล 103 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 4,363 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
ในขณะที่สถานการณ์น้ำล้นตลิ่งยังคงมีสถานการณ์ 6 จังหวัด ได้แก่ ตาก พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง ปทุมธานี สิงห์บุรี และชัยนาท รวม 24 อำเภอ 175 ตำบล 893 หมู่บ้าน ภาพรวมสถานการณ์มีระดับน้ำเพิ่มขึ้น
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดได้ประสานจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่และให้การดูแลช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่องและจะได้จัดเจ้าหน้าที่เข้าสำรวจประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ต่อไป
ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับ แจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ประชาชนยังสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยได้ที่แอปพลิเคชัน “THAI DISASTER ALERT”