เมื่อเวลา18.00 น.วันที่ 11 ตุลาคม 2565 ร.ต.อ.วีระเทพ เทพจันทรดา รอง สว.สอบสวน สภ.บ้านบึง รับแจ้งจากสายตรวจตำบลหนองชาก สภ.บ้านบึง มีเหตุคนร้ายก่อเหตุถีบรถจักรยานยนต์หวังชิงทรัพย์บริเวณถนนหมู่บ้านชญารมย์ ตัดผ่านเข้าซอยทักษิณคอนกรีต หมู่ที่2 ตำบลหนองชาก อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี  ซึ่งเป็นถนนตัดผ่านกลางป่าอ้อย และเป็นที่เปลี่ยว จึงเข้าตรวจสอบ พบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นสกู๊ปปี้ไอ สีแดง ทะเบียน 2 กพ 2606 ชลบุรี ล้มตะแคงซ้ายอยู่ช่วงโค้งกลางถนน ใกล้กันพบผู้ก่อเหตุเป็นชายวัยรุ่นสวมกางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน เสื้อยืดสีเข้ม ถูกจับใส่กุญแจมือ นั่งอยู่กับพื้นหญ้าใกล้กับจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นพีซีเอ็กซ์ สีแดง ป้ายทะเบียนแดง 2-3642 สภ.บ้านบึง ผู้ก่อเหตุคือนายอัมรินทร์ อินคำ อายุ 19 ปี ที่อ้างว่า ตนเองขี่รถจักรยานยนต์ มาหาเพื่อน ระหว่างทางได้แวะเข้าไปหาหน่อไม้ โดยได้จอดรถ ไว้ข้างถนน แต่ระหว่างที่กำลังมุดหาหน่อไม้มีงูเลื้อยออกมา ด้วยความตกใจจึงรีบวิ่งออกจากป่าจนกระทั่งมาชนกับรถของคู่กรณี และพยายามจะเข้าไปขอโทษ และขอเบอร์โทรของผู้เสียหาย จนมีคนขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมาเห็นแล้วเข้าใจผิด คิดว่าตนกำลังจะข่มขืน

ด้านนายคมสันต์ ยิ่งเชิดงาม อายุ 29 ปี พลเมืองดี เล่าว่า ตนเองขี่รถจักรยานยนต์มาจากหมู่บ้านชญารมย์  โดยเห็นรถ ของผู้เสียหายขับขี่อยู่ด้านหน้าห่างประมาณ 30 เมตร ระหว่างที่ขี่อยู่นั้นผู้เสียหายมาถึงทางโค้งก่อนตนเอง พอตนเองผ่านโค้งเห็นคนร้ายวิ่งกระโดดถีบรถ จักรยานยนต์ของผู้เสียหายจนล้มลงที่พื้น และขึ้นนั่งคร่อมจับแขนของผู้เสียหายเอาไว้โดยเตรียมจะขืนใจ ตนเองขี่รถมาทันจึงถามว่าทำอะไร คนร้ายหน้าซีดตกใจด้วยความกลัว จึงวิ่งหลบเข้าไปในป่า

ส่วนทางด้านนายเมธี วิเศษชาติ อายุ 30 ปี ที่ขี่รถจักรยานยนต์มาถึงที่เกิดเหตุอีกคน เผยว่า เมื่อตนเห็นจึงจอดรถแล้วก็รีบลงมาช่วยผู้เสียหาย และพากันตามหาตัวคนก่อเหตุ เนื่องจากทิ้งรถจักรยานยนต์ป้ายแดงเอาไว้ คิดว่าคนร้ายต้องออกจากป่ามาเอารถอย่างแน่นอน ไม่นานคนร้ายก็ออกมาจริงๆ ตนเองจึงช่วยกันจับตัวไว้และแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาที่เกิดเหตุ ระหว่างนั้นคนก่อเหตุก่อพยายามต่อรองว่าจะแสดงความรับผิดชอบ ชดใช้ค่าเสียหายแลกกับการปล่อยตัว พร้อมกับบอกว่าเคยมีประวัติถูกจับมา

ด้านนางสาวศุทธดา สุขคง อายุ 24 ปี (เบลอหน้าด้วยนะครับ) ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ตนเองออกจากบ้านพักขี่รถจักรยานยนต์มาตามทางเพื่อไปทำงาน โดยใช้เส้นทางดังกล่าว ซึ่งเป็นทางลัดที่ใช้อยู่ทุกวัน ขี่รถมาถึงทางโค้งอยู่ๆคนร้ายก็วิ่งออกมาจากป่าข้างทาง และใช้เท้าถีบรถของตนเองจนล้ม จากนั้นคนร้ายได้เข้ามาคร่อมร่างของตน พยายามไม่ให้ตนเองดิ้นขัดขืน จึงร้องบอกว่าตั้งท้องอยู่ และคนร้ายจึงผงะ พร้อมกับพูดว่า อ้าวท้องเหรอ จึงปล่อยมือ พอดีมีพลเมืองดีขี่รถ มาเห็นเหตุการณ์ จึงเข้าช่วยเหลือ ส่วนตนเองพึ่งจะไปตรวจครรภ์มาไม่นานอายุครรภ์ประมาณ 5 สับปดาห์ โชคดีที่คนร้ายถีบเข้าที่รถ ถ้าถีบเข้าที่ท้องลูกในท้องคงจะเป็นอันตรายแน่

ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตรวจสอบเคยถูกดำเนินคดีอนาจารหญิงสาวแรงงานต่างด้าว พึ่งจะพ้นโทษมาไม่นาน ครั้งนี้มาก่อเหตุในลักษณะนี้อีก จึงถูกตั้งข้อหา กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุเกินกว่า 15 ปี โดยใช้กำลังประทุษร้ายและทำร้ายร่างกายผู้อื่น ส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป