ผู้ว่าฯกาญจนบุรี ประกอบพิธีวางพวงมาลา เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตรัชกาลที่9
14 ต.ค. 2565, 05:22
วันนี้ 13 ตุลาคม 2565 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่ศาลา 60 พรรษามหาราช อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ร้อยโท ทศพล ไชยโกมินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เป็นประธานในพิธีวางพวงมาลาเนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พร้อมด้วย รศ.ดร.พญ.เรวิกา ไชยโกมินทร์ ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดกาญจนบุรี นายกองเอก พงศธร ศิริสาคร นายชำนาญ ชื่นตา นายรณภพ เวียงสิมมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ สมาชิกสมาคมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดกาญจนบุรี และประชาชนชาวจังหวัดกาญจนบุรี เข้าร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก
จังหวัดกาญจนบุรีประกอบพิธีวางพวงมาลาเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โดยผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรีได้วางพวงมาลา เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พร้อมด้วย ส่วนราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ องค์กรเอกชน และภาคประชาชน จากนั้นประธานในพิธีได้กล่าวรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณและร่วมกันยืนสงบนิ่งน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นเวลา 89 วินาที ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงมีต่อปวงชนชาวไทยอย่างหาที่สุดมิได้
พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เป็นพระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ 9 แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ นับจากพระองค์เสด็จขึ้นครองราชสมบัติเป็นพระมหากษัตริย์ เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2489 เป็นต้นมา พระองค์ได้ทรงประกอบพระราชกรณียกิจในด้านต่าง ๆ อันเป็นประโยชน์แก่ชาวไทยตลอด 70 ปี ทั้งทรงจัดตั้งโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริน้อยใหญ่ ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ประเทศชาติ โดยโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่สำคัญที่สุดจนทำให้พระองค์ทรงเป็นที่สรรเสริญในประเทศไทย คือ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงซึ่งพระองค์ได้ปฏิบัติพระองค์เองเป็นแบบอย่าง โปรดให้มีการปลูกข้าว การเลี้ยงโคนม การเพาะพันธุ์ปลานิลขึ้นในสวนจิตรลดา ทรงเป็นแบบอย่างที่ดีในด้านการประหยัด ตัวอย่างเช่น ทรงใช้ดินสอเดือนละ 1 แท่ง หรือการใช้ยาสีพระทนต์จดหมดหลอด นอกจากนั้นยังไม่ทรงโปรดสวมเครื่องประดับใด ๆ เลย ยกเว้นแต่นาฬิกาข้อมือ และพระองค์ยังเสด็จเยี่ยมราษฎรในถิ่นทุรกันดารทั่วประเทศ ได้ทรงทราบถึงปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนส่วนใหญ่ ทรงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาเหล่านั้นให้บรรเทาลงหรือ หมดสิ้นไป เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีและทัดเทียมกันของประชาชนทั้งชาติ ปวงชนชาวไทยต่างน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ทรงมีต่อปวงชนชาวไทยอย่างหาที่สุดมิได้
พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงมีพระอาการประชวร ได้ทรุดหนักลงตามลำดับ จนเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2559 เสด็จสวรรคตด้วยพระอาการสงบ ณ โรงพยาบาลศิริราช เวลา 15 นาฬิกา 52 นาที ของวันพฤหัสบดีที่ 13 ตุลาคม พุทธศักราช 2559 สิริพระชนมพรรษาปีที่ 89 ทรงครองราชสมบัติได้ 70 ปี 4 เดือน 4 วัน ประชาชนทั่วประเทศต่างโศกเศร้าเสียใจและอาลัยต่อในหลวงรัชกาลที่ 9 ผู้ทรงเป็นที่รักยิ่ง ถือเป็นความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของปวงชนชาวไทยทั้งประเทศ