"ผู้เลี้ยงปลา" เดือดร้อนหนัก ! "น้ำแควน้อย" เพิ่มสูงขึ้น - สีแดงขุ่น ปลาตายกว่า 500 ตัน
19 ต.ค. 2565, 13:54
จากกรณีเกษตรกรผู้เลี้ยงปลากระชังในแม่น้ำแควน้อย ต.เกาะสำโรง และต.ใกล้เคียง จังหวัดกาญจนบุรี ไม่ต่ำกว่า 150 ราย ซึ่งมีจำนวนกระชังกว่า 10,000 กระชัง ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก หลังจากได้รับผลกระทบจากอิทธิพลของพายุโนรู เมื่อวันที่11ตุลาคม 2565 ส่งผลให้มีฝนตกหนัก ระดับน้ำในแม่น้ำแควน้อย เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และไหลเชี่ยวอย่างมาก ทั้งมีสีแดงขุ่น จนปลาปรับตัวไม่ทัน ไม่มีอากาศหายใจ เกิดอาการน็อกและลอยตายเกลื่อนกระชัง ขาดทุนยับเยิน เบื้องต้นทำให้ผู้ที่เลี้ยงปลาในกระชังในแม่น้ำแควน้อยกว่า150ราย ต้องสูญเงินรวมกันเป็นมูลค่ากว่า 50 ล้านบาท ในการท่วมของน้ำในครั้งนี้ เกษตรกรผู้เลี้ยงปลากระชังจึงขอวอนส่วนราชการที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือและสำรวจความเสียหาย
วันนี้ 19 ต.ค. 2565 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ได้เดินทางไปพบกับ นายจตุพร ชื่นพล หรือกำนันดำ ตัวแทนเกตรกรผู้เลี้ยงปลากระชังรายใหญ่ แจ้งว่า กระชังเพาะเลี้ยงปลากระชังของเกษตรกรที่ปักหลักเลี้ยงกันบริเวณแม่น้ำแควน้อย ต.เกาะสำโรง และต.ใกล้เคียง อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ที่มีจำนวนกระชังมากกว่า 10,000 กระชัง ได้รับความเสียหายอย่างมหาศาล ซึ่งจากการประเมินเบื้องต้นปริมาณปลาที่ตายหหหหหหหของผู้เลี้ยงทุกรายรวมกัน มีมากไม่ต่ำกว่า 500 ตัน มวลน้ำที่ไหลจากอำเภอไทรโยค และลำน้ำลำภาชี จังหวัดราชบุรี ไหลมาลงแม่น้ำแควน้อย น้ำมาฉับพลัน ซึ่งมีเกษตรกรเลี้ยงปลากระชัง ก็เตรียมตัวแล้วได้พยายามแก้ไข เพื่อให้กระชังปลาพ้นจากความเสียหาย แต่ไม่ทัน น้ำมาแรงมาก แม้จะป้องกันเต็มที่แล้ว ไม่สามารถต้านทานกระแสน้ำได้ จึงทำให้เกิดปลาน๊อกน้ำตายดังกล่าว เบื้องต้นไม่ต่ำกว่า 500 ตัน ส่วนปลาตายนำไปขายให้กับโรงงานทำปลาร้า แต่ทางโรงงานปลาร้ารับซื้อไม่ไหว จึงต้องนำไปขุดฝังทั้งหมดแล้ว เพื่อป้องกันไม่ให้ลำน้ำแควน้อยเน่าเสีย แต่ละรายไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท ตันละ 7 หมื่นบาท เฉพาะรายใหญ่ๆ รายเล็กๆ อีกจำนวนมาก ต่อบ่อไม่ต่ำกว่า 1 แสนบาท ซึ่งเกิดขึ้นในรอบ 10 ปี เพิ่มมาเจอแบบนี้กับผู้เลี้ยงปลากระชัง ต้องยอมรับว่าเกิดจากธรรมชาติ แต่ก็วิงวอนให้หน่วยงานรัฐเข้ามาดูแลเรื่องนี้บ้าง บางรายถึงกับหมดตัวเลย
สำหรับ นายวรรณนัท หิรัญชุฬหะ ประมงจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า ตนก็ได้ทราบเรื่องที่เกิดขึ้นจากกำนัน และเกษตรกรผู้เลี้ยงปลากระชังแม่น้ำแควน้อย จังหวัดกาญจนบุรี ว่าเมื่อช่วงวันที่ 11 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา เกิดฝนตกหนักทำให้น้ำจากลำภาชี และน้ำที่หลากลงมาจากไทรโยค ทำให้น้ำมีปริมาณที่เยอะทำให้น้ำไหลแรง ส่งผลทำให้ปลาที่เลี้ยงไว้ในกระชังที่มีผู้เลี้ยงอยู่ 150 ราย จำนวนประชังประมาณ 10,000 กระชัง ได้รับผลกระทบให้ปลาที่เลี้ยงตายเป็นจำนวนมากทำให้เกษตรกรขาดทุนรวมกว่า 500 ตัน สำหรับการเยี่ยวยาต้องให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดประกาศให้เป็นเขตภัยพิบัติทางด้านการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ขั้นตอนต้องให้ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่จะต้องรวบรวมรายชื่อเพื่อไปแจ้งทาง อบต. และทาง อบต. ต้องแจ้งไปทางนายอำเภอ จากนั้นก็ส่งเรื่องให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อจะให้ทาง ปภ.จว.กาญจนบุรี เป็นผู้ประกาศภัยพิบัติ หลังจากขั้นตอนประกาศภัยพิบัติแล้วผู้เลี้ยงปลาในกระชังจะต้องมีภาพปลาตาย ปริมาณปลาที่ลงเลี้ยงแต่ละกระชัง การช่วยเหลือทางมงประมงจะช่วยเหลือที่ตารางเมตรละ 368 บาท จำนวนไม่เกิน 80 ตารางเมตร ภาพรวมก็คือไม่เกิน 20,000 บาท ต่อราย ส่วนขั้นตอนนี้ก็จะดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับกำนันผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ได้รับความเสียหายตามขั้นตอนต่อไป