เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



เตือนระวัง ! "จนท.รพ. สั่งซื้อบอนสีไม้ประดับยอดฮิตออนไลน์ สุดท้ายโดนเท !


20 ต.ค. 2565, 16:32



เตือนระวัง ! "จนท.รพ. สั่งซื้อบอนสีไม้ประดับยอดฮิตออนไลน์ สุดท้ายโดนเท !




วันนี้ 20 ต.ค. 2565 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่สภ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี น.ส.มิลค์ (นามสมมุติ) อายุ 24 ปี ชาว อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี เข้าพบ ร.ต.อ.หญิง ไพลิน เที่ยงลิ้ม รอง สว.(สอบสวน)สภ.ท่ามะกา เพื่อแจ้งความร้องทุกกล่าวโทษต่อ น.ส.เมธินี (ขอสงวนนามสกุล)อายุประมาณ 30 ปี เจ้าของเพจเฟซบุ๊กชื่อ “Methini”ชาว จ.บุรีรัมย์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดกาญจนบุรี ในข้อหาความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน และข้อหา พรบ.คอมพิวเตอร์ หลังจากแจ้งความแล้วเสร็จ พนักงานสอบสวนได้นำผู้เสียหายไปชี้ตัวผู้ต้องหาที่อยู่ภายในห้องควบคุมผู้ต้องหาของ สภ.ท่ามะกา

ทั้งนี้ น.ส.มิลค์ (นามสมมุติ) ผู้เสียหาย เล่าว่า ช่วงปี 2564 ที่ผ่านมาได้เกิดปรากฎการณ์ผู้คนนิยมแห่ซื้อบอนสีที่เป็นไม้ประดับยอดฮิตเอาไว้ประดับบ้าน หลังจากที่ตนได้ติดตามข่าวสารจึงเกิดความสนใจที่จะสั่งซื้อ ซึ่งส่วนตัวมีนิสัยชอบต้นไม้ อีกทั้งยังอยู่ในกลุ่มเพจซื้อขายบอนสีอยู่แล้ว ต้อมาหนูพบเพจชื่อ“Methini”ที่ประกาศขายบอนสีพอดี ซึ่งในเพจบรรยายเอาไว้ว่า ถ้าซื้อบอนสีเป็นต้น ราคาจะแพง แต่ถ้าขายเป็นชิ้นผ่าราคาจะลดลงมา และยังบอกว่าหากซื้อแบบชิ้นผ่า เจ้าของเพจจะเลี้ยงให้ด้วย ตนจึงตัดสินใจสั่งซื้อกับคนนี้ เพราะเมื่อเขาเลี้ยงจนกลายเป็นต้นแล้วเราก็จะได้นำมาเลี้ยงต่อไปเลย

ครั้งแรกที่หนูสั่งไปคือวันที่ 11 ต.ค.64 โดยเจ้าของเพจบอกว่าจะเลี้ยงให้อีกประมาณ 2-3 อาทิตย์ เพื่อให้บอลสีเป็นต้นที่แข็งแรงก่อนแล้วจะส่งมาให้ แต่พอเวลาผ่านไป 1 เดือนเต็มก็ยังไม่ได้ต้นบอลสี ดังนั้นหนูจึงทักเพจไปว่า “สวัสดีคะ”เมื่อเจ้าของเพจเห็นเราทักไป เขาจึงได้แคบภาพบอนสีส่งมาให้ดูพร้อมกับบอกว่าต้นไม้ยังไม่โต และขอเวลาเลี้ยงให้เป็นต้นอีกประมาณ 2-3 อาทิตย์ แต่หนูก็เห็นใจจึงให้เวลาตามที่เขาขอมา พอเวลาผ่านไปอีก 1 เดือนเต็มหนูก็ยังไม่ได้ต้นบอนสีตามที่เขารับปากเอาไว้ หนูจึงทักไปอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเขาก็ตอบกลับมาอีกว่า ต้นบอนสียังไม่โต ขอเวลาเลี้ยงให้โตอีกสักระยะ ซึ่งหนูก็เข้าใจว่าต้นบอนสีมันเลี้ยงให้โตยาก จึงให้เวลาเขาไป และระหว่างรอหนูก็ทยอยสั่งไปเรื่อยๆครั้งสุดท้ายสั่งไปเมื่อวันที่ 22 ก.พ.65 รวม 8 ครั้ง เมื่อทวงถามไปแต่ละครั้งเขาก็จะให้เหตุผลเดิมๆคือบอนสียังไม่โต ทำให้หนูเสียเงินที่โอนไปให้รวมกัน จำนวน 4,660 บาท

โดยช่วงที่เริ่มเอะใจก็คือช่วงที่ถามเขาว่าบ้านอยู่ที่ไหน เดียวจะเดินทางไปรับบอนสีเองเผื่อเป็นเส้นทางผ่าน เขาบอกว่าเขาอยู่จังหวัดนนทบุรี หนูจึงไปรับไม่ได้เพราะไม่ใช่ทางผ่าน แต่หนูก็ขอให้เขาส่งต้นบอนสีทั้งหมดมาให้หนูภายในเดือน เม.ย.65 ที่ผ่านมา จนกระทั่งสิ้นเดือน เม.ย.หนูก็ยังไม่ได้รับ และเขาได้ขอผัดผ่อนเวลาส่งบอนสีมาให้อยู่ตลอดเวลา จนกระทั่งวันที่ 1 พ.ค.65 หนูจึงทักไปแจ้งว่าหากไม่ได้บอนสีตามที่สั่งก็ขอให้โอนเงินมาคืน แต่เขากลับเลียบไปหนูจึงตัดสินใจเดินทางมาแจ้งความที่ สภ.ท่ามะกาในวันดังกล่าว

ซึ่งหนูต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่ามะกาเป็นอย่างมากเพราะหลังจากที่หนูแจ้งความได้ไม่นานศาลจังหวัดกาญจนบุรีก็อนุมัติหมายจับให้และในที่สุดทราบว่า เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ท่ามะกา ได้เดินทางไปจับกุมตัวผู้ต้องหารายดังกล่าวได้ถึงที่บ้านจังหวัดกาฬสินธุ์ แล้วนำตัวกลับมาดำเนินคดีที่ สภ.ท่ามะกา

ด้าน พ.ต.ท.ภูริพรรษณ์ โลหะกิจตระกูล รอง ผกก.สส.สภ.ท่ามะกา รรท.ผกก.สภ.ท่ามะกา เปิดเผยว่า ที่มาของคดีคือทางพนักงานสอบสวน สภ.ท่ามะกาได้รับแจ้งทางออนไลน์ว่า ผู้ต้องหาได้โพสต์ลงในเฟซบุ๊กว่ามีการจำหน่ายบอนสี ผู้เสียหายจึงได้สั่งซื้อ โดยห้วงระยะเวลาในการสั่งซื้อ ผู้เสียหายที่อยู่อำเภอท่ามะกาไม่ได้รับบอนสีตามที่สั่ง

ดังนั้นพนักงานสอบสวนจึงได้ประสานไปยังผู้เสียหายรวมทั้งทางผู้ต้องหาเพื่อไกล่เกลี่ยกันว่าจะมีการชดใช้กันอย่างไร ซึ่งก็ได้รับการผัดผ่อนจากผู้ต้องหามาเรื่อยๆจนถึงห้วงเวลาที่ทางพนักงานสอบสวนต้องดำเนินการทางด้านกฎหมายก็คือการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับผู้ต้องหาเนื่องจากว่าผู้ต้องหาไม่ยอมชดใช้เงินและไม่นำบอนสีที่ผู้เสียหายสั่งไปมาให้ตามเวลาที่พนักงานสอบสวนนัดไว้

ต่อมาพนักงานสอบสวนได้แจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ท่ามะกาให้ทราบว่าศาลจังหวัดกาญจนบุรีได้อนุมัติหมายจับแล้ว จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสืบทราบว่าผู้ต้องหาไปหลบอาศัยอยู่บ้านสามีที่จังหวัดกาฬสินธุ์ เมื่อทราบที่อยู่เป็นที่แน่ชัดเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ท่ามะกา จึงประสานไปยัง เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ให้ช่วยตรวจสอบ จากการตรวจสอบปรากฏว่าผู้ต้องหาอาศัยอยู่ที่บ้านสามีจริง เจ้าหน้าที่จึงร่วมกันนำหมายจับเข้าจับกุมตัว แล้วนำมาดำเนินคดีที่ สภ.ท่ามะกา ตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว

ทั้งนี้อยากจะฝากไปถึงผู้เสียหายที่ไปแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ต้องหาในหลายพื้นที่หลายจังหวัดที่ได้รับความเดือดร้อนจากการกรำทำขอผู้ต้องหาให้ทราบว่า ขณะนี้ผู้ต้องหาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวมาดำเนินคดีแล้ว หากทราบข่าวก็ขอให้เดินทางไปความดำเนินคดีได้ในท้องที่ที่ผู้เสียหายอยู่เพื่อพนักงานสอบสวนในท้องที่ จะได้ทำการอายัดตัวไปดำเนินคดีหรือแจ้งข้อหาอื่นเพิ่มเติมได้

สุดท้ายนี้ขอฝากประชาสัมพันธ์ไปถึงประชาชนว่า ปัจจุบันนี้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้พยายามประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบถึงกลวิธีการโกงของเหล่ามิจฉาชีพซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ประชาสัมพันธ์ผ่านทางโลกออนไลน์หรือสื่อเฟซบุ๊กอย่างต่อเนื่องจึงขอฝากให้สื่อมวลชนช่วยกันประชาสัมพันธ์ถึงรูปแบบการป้องกันกลโกงทางไลน์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติอีกทางหนึ่งด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกลโกงบอนสีของผู้ต้องหาคนดังกล่าว ทางเจ้าของเพจชื่อ เพจแม่จีน จี๊ดจ๊าด ในติ๊กต็อก ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวที่มีผู้เสียหายมาร้องเรียนในเพจ ว่ามีผู้เสียหายจากการโกงของผู้ต้องหาประมาณ 175 ราย ความเสียหายรวมกันประมาณ 800,000 บาท หลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ท่ามะกาจับกุมตัวผู้ต้องหาได้คาดว่าจะมีผู้เสียหายเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน ในแต่ละท้องที่ทั่วประเทศ เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ต้องหาอีกเป็นจำนวนมาก

 

 




 


คำที่เกี่ยวข้อง : #จนท. โรงพยาบาล   #บอนสี   #เพจเฟซบุ๊ก  




Recommend News

















©2018 ONBNEWS. All rights reserved.