เจ้าหนี้ร่ำไห้เกาะรั้วทวงเงิน 1.8 ล้าน ถึงหน้าบ้านลูกหนี้
21 ต.ค. 2565, 12:40

วันนี้ (20 ต.ค.650 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณี น.ส.บุษบา (สงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี ชาวจ.อุดรธานี ร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดอุดรธานี และสื่อมวลชน ว่าถูกคนสนิทยืมเงินไปกว่า 1,800,000 บาท ตอนแรกๆ เสนอดอกเบี้ยและคืนให้ทั้งต้นทั้งดอก นานๆไป ยอดยืมเยอะขึ้นเรื่อยสุดท้ายหายไม่ยอมจ่ายหนี้ ติดตามทวงถามแต่อ้างให้ไปเอากับบุคคลที่ 3 ทุกข์และทรมานใจอย่างมากเงินเป็นล้าน มิหนำซ้ำสามีก็จะขอเลิกหากตามเงินจำนวนนี้ไม่ได้ ตามที่ได้เสนอข่าวไปนั้น
ล่าสุดวันนี้ น.ส.บุษบา ได้ขอความช่วยเหลือจากนายนายภานุมาศ จิตรวศินกุล หรือ เฮียเปี๊ยก เจ้าของเพจ “เฮียเปี๊ยกช่วยด้วย” เพื่อเป็นคนกลางช่วยเจรจาไกล่เกลี่ยติดตามยอดหนี้ดังกล่าว โดยเดินทางไปหาลูกหนี้ที่หมู่บ้านจัดสรรหรูแห่งหนึ่ง ในเขตชานเมืองอุดรธานี เมื่อไปถึงเจ้าหนี้ได้เรียกลูกหนี้อยู่หน้าบ้านและขอร้องให้ใช้เงินที่ยืมไป และขอให้ออกมาพูดคุยกันเพื่อหาข้อสรุป แต่ลูกหนี้ก็ไม่ยอมออกมาพูดคุยทั้งที่มีคนอยู่ภายในบ้าน
น.ส.บุษบาฯ ยืนร้องไห้ร้องเรียกลูกหนี้พร้อมเกาะรั่วบ้านอยู่นานกว่าครึ่งชั่วโมง พูดตัดพ้อและระบายความในใจต่างๆนานาอ้อนวอนให้ลูกหนี้นำเงินที่ยืมไปมาคืน โดยความบางตอนระบุว่า พ่อตนก็ป่วยติดเตียงต้องการเงินรักษาพ่อ ต้องการเงินมาทำมาหากินบอกจะใช้คืนอีกไม่นานก็ไม่คืน ไหนบอกจะไม่ทำให้เดือดร้อน ทำไมมาทำแบบนี้ เวลาไปยืมเงินทั้งร้องไห้จะก้มกราบ แต่นี่ขอไม่คืนตังค์
ในเวลาต่อมาสามีของลูกหนี้ได้ขับรถยนต์มาที่บ้าน เมื่อมาถึงได้รีบลงรถวิ่งหน้าตื่นเข้าไปอุ้มลูกซึ่งอยู่ในบ้าน ยกมือไหว้บอกเจ้าหนี้ว่าที่บ้านนี้ภรรยาตนไม่อยู่ มีแต่ลูกที่อยู่บ้านลูกร้องไห้เพราะมีคนมาร้องหน้าบ้าน และเชิญให้เจ้าหนี้เข้ามาตรวจสอบว่าในบ้านมีภรรยาอยู่หรือไม่ แต่เจ้าหนี้ก็ไม่ได้เข้าไป และให้เบอร์โทรศัพท์ไว้กับนายภานุมาศฯ เพื่อจะนัดเจรจากันอีกครั้งหนึ่ง ขณะเดียวกันฝ่ายลูกหนี้เดือดกลับ ทักไลน์หาเจ้าหนี้บอกเดี๋ยวเจอกูอีชูชก ไปเจอกันที่ศาล
นายภานุมาศ เจ้าของเพจ “เฮียเปี้ยกช่วยด้วย” เปิดเผยว่า กรณีนี้เราพาเจ้าหนี้มาท่วงเงินตามสิทธิ ตอนนี้เราได้เบอร์โทรศัพท์ของสามีลูกนี้แล้ว จากนี้จะมาการนัดเจรจาไกล่เกลี่ยเพื่อหาข้อยุติ แต่หากไกล่เกลี่ยนแล้วไม่ลงตัวคงต้องใช้สิทธิทางศาลต่อไป ล่าสุดผู้สื่อข่าวโทรศัพท์สอบถามกับสามีขอลูกหนี้ ได้รับคำตอบว่าหลังจากมีการมาทวงหนี้หน้าบ้านเราได้ส่งให้ทนายความแจ้งความไว้เป็นหลักฐานในการที่จะฟ้องร้องต่อศาล เรื่องนี้ทั้งสองฝ่ายต่างคนต่างรู้ดีว่าว่าเป็นอย่างไร ใครเป็นคนเอาเงินไปใครเป็นคนจ่ายดอกให้เจ้าหนี้ การที่เขามาทำแบบนี้คิดว่าเขาจะดิสเครดิตภรรยาผมแน่นอน ขอฝากผ่านสื่อมวลชนว่าเรื่องนี้ขอให้อยู่ในกระบวนการของชั้นศาลต่อไป