เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



บกปภ.ช.ระดมกำลังยกระดับจัดการสาธารณภัย บูรณาการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ย้ำรัฐบาลไม่ทอดทิ้งประชาชน


23 ก.ย. 2562, 16:01



บกปภ.ช.ระดมกำลังยกระดับจัดการสาธารณภัย บูรณาการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ย้ำรัฐบาลไม่ทอดทิ้งประชาชน




กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (บกปภ.ช.) ยกระดับการจัดการสาธารณภัย น้อมนำพระราชกระแสรับสั่งของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ยึดถือเป็นแนวทางการปฏิบัติในการบูรณาการแก้ไขปัญหาอุทกภัยและช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พร้อมตั้งกองบัญชาการฯ ส่วนหน้า ณ ศูนย์ ปภ.เขต 13 อุบลราชธานี ประสานเชื่อมโยงการอำนวยการ สั่งการ ระหว่างส่วนกลางและระดับพื้นที่ ภายใต้ พ.ร.บ.ปภ. 50 กฏหมายและแผนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การจัดการสาธารณภัยและการช่วยเหลือประชาชนในมิติต่างๆ เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ย้ำรัฐบาลไม่ทอดทิ้งประชาชน พร้อมดูแลและช่วยเหลืออย่างดีที่สุด

วันนี้ ( 23 ก.ย.62 ) ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ประธานการประชุมกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (บกปภ.ช.) เปิดเผยว่า สถานการณ์อุทกภัยในช่วงที่ผ่านมา ได้ส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ 32 จังหวัด มีผู้เสียชีวิต 35 ราย พื้นที่การเกษตร สิ่งสาธารณูปโภค และเส้นทางคมนาคมได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ซึ่งรัฐบาลได้บูรณาการแก้ไขปัญหา และช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยได้น้อมนำพระราชกระแสรับสั่งของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ยึดถือเป็นแนวทางการปฏิบัติในการ แก้ไขปัญหาอุทกภัย โดยติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง การคิดปรับแนวทางแผนเผชิญเหตุทั้งในภาพรวม และเฉพาะเหตุที่อาจจะเกิดขึ้น และสำรวจ รวบรวมความเสียหาย ประมาณการค่าใช้จ่าย ต่อยอด เตรียมการสิ่งใหม่ ๆ และสิ่งที่ยังไม่ได้ทำ เพื่อลดผลกระทบและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน อย่างเต็มความสามารถ 



ทั้งนี้ สถานการณ์ในภาพรวมหลายพื้นที่เริ่มคลี่คลายแล้ว แต่ยังคงมีสถานการณ์ใน 4 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทั้งอุบลราชธานี ยโสธร ร้อยเอ็ด และศรีสะเกษ ซึ่งนายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ได้กำชับทุกหน่วยงานให้ความสำคัญกับการดำเนินการ ตามพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ.2550 กฎหมาย และแผนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การบริหารจัดการสาธารณภัยและการให้ช่วยเหลือ ประชาชนในมิติต่างๆ เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และประชาชนได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด

พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากข้อมูลแนวโน้มสถานการณ์ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านการบริหารจัดการน้ำ รวมถึงข้อมูลในเชิงพื้นที่พบว่าสถานการณ์อุทกภัยใน 4 จังหวัดภาคตะวันออก เฉียงเหนือยังคงมีความรุนแรงและส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง จึงยกระดับการจัดการสาธารณภัยเป็นการจัดการ สาธารณภัยขนาดใหญ่ (ระดับ 3) ในพื้นที่ 4 จังหวัดดังกล่าว ซึ่งเป็นไปตามแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ.2558 โดยจะเชื่อมโยงการทำงานใน 3 ส่วน ทั้งส่วนกลาง ส่วนหน้า และการบัญชาการในพื้นที่ ซึ่งมีการบูรณาการการปฏิบัติจากทุกหน่วยงาน พร้อมกำหนดแนวทางการดำเนินงาน แบ่งมอบภารกิจและพื้นที่รับผิดชอบตามแผนเผชิญเหตุ ทั้งนี้ ได้จัดตั้งกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (ส่วนหน้า) ณ ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 13 อุบลราชธานี ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการประสานและเชื่อมโยงการทำงานในระดับพื้นที่ 

สำหรับพื้นที่ 28 จังหวัดที่สถานการณ์อุทกภัยคลี่คลายแล้ว บกปภ.ช.ได้ประสานให้จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจข้อมูลความเสียหายให้ถูกต้องและครบถ้วนทุกด้าน และจัดประชุมคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติระดับอำเภอ (ก.ช.ภ.อ.) และคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติระดับจังหวัด (ก.ช.ภ.จ) เพื่อให้ความช่วยเหลือ ในด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะที่อยู่อาศัย ระบบสาธารณูปโภค โครงสร้างพื้นฐาน พื้นการเกษตร สถานบริการของรัฐ และสถานที่ที่เป็นศูนย์รวมจิตใจ ซึ่งได้เน้นย้ำให้วางแนวทางการฟื้นฟูและช่วยเหลือประชาชน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อน และให้ประชาชนได้รับการช่วยเหลือครอบคลุม ทุกด้านในทุกพื้นที่ ทั้งนี้ ขอยืนยันว่ารัฐบาลจะไม่ทอดทิ้งประชาชน โดยพร้อมดูแลประชาชนอย่างเต็มกำลัง ในรูปแบบการบูรณาการหน่วยงานทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยทหาร ฝ่ายพลเรือน และภาคประชาสังคม มุ่งบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประสบภัยให้ได้มากที่สุด

ด้านนายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรองผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ กล่าวว่า บกปภ.ช.ได้ประสานจังหวัดใช้กลไกของกระทรวงมหาดไทยภายใต้กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (ส่วนหน้า) ในการประสานปฏิบัติการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งมอบหมายให้นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษมรองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้กำกับควบคุมพื้นที่ (Area Command) และมีผู้ตรวจราชการกระทรวง รวมถึงส่วนราชการต่างๆ ในการบูรณาการการช่วยเหลือประชาชน สำหรับพื้นที่ที่สถานการณ์คลี่คลายแล้ว ให้เร่งสำรวจความเสียหาย โดยระบุพื้นที่เป้าหมายให้ชัดเจน พร้อมยึดการปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง มุ่งเน้นการ ดูแลด้านชีวิตความเป็นอยู่และด้านที่อยู่อาศัยเป็นหลัก เพื่อให้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุดและดำเนินชีวิตได้ตามปกติโดยเร็ว

ขณะนายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ในฐานะผู้อำนวยการกลาง กล่าวว่า กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (บกปภ.ช.) จะเป็นหน่วยงานอำนวยการ สั่งการ เชื่อมโยงการปฏิบัติร่วมกับกองบัญชาการฯ ส่วนหน้า โดยมีการจัดตั้ง ส่วนสนับสนุนการปฏิบัติงานในภาวะฉุกเฉิน (สปฉ.) ด้านต่างๆ เพื่อบูรณการการจัดการในภาวะฉุกเฉินให้มีเอกภาพ รวมถึงเสริมประสิทธิภาพ การแก้ไขปัญหาและช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยให้ตรงจุด มีความคล่องตัว และทั่วถึง อย่างไรก็ตาม ระยะนี้ยังอยู่ในห้วงฤดูฝน หลายพื้นที่มีแนวโน้มเกิดฝนตกชุก ประกอบกับปริมาณฝนสะสมในช่วงที่ผ่านมา อาจส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่มในพื้นที่เสี่ยงภัย บกปภ.ช. ได้ประสานจังหวัดดำเนินการตามแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารภัย ทั้งการเฝ้าระวังและแจ้งเตือนภัย การป้องกันและลดผลกระทบในพื้นที่เสี่ยงภัย การสร้างการรับรู้ของประชาชน และการปฏิบัติตามแผนเผชิญเหตุ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์อุทกภัยล่วงหน้า







Recommend News





MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.