รวบตัว ! "ช่างซ่อมรถ" ตระเวนขี่รถพ่วงข้าง สวมเสื้อตำรวจขายยาบ้า พร้อมของกลางกว่า 600 เม็ด
24 ต.ค. 2565, 11:47
ที่ห้องสืบสวน กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม พ.ต.อ.นุติ ศักดิ์สุภาพ ผู้กำกับการสืบสวน กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ พ.ต.ต.สามารถ จับเทียน สว.กก.สืบสวน ภ.จว.มหาสารคาม พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สืบสวน ภ.จว.มหาสารคาม ร่วมทำการจับกุมตัว นายรังสรรค์ สุจันทร์ อายุ 39 ปี ราษฏรอำเภอละหานทราย จ.บุรีรัมย์ พร้อมด้วยของกลางยาบ้า 680 เม็ด รถจักรยายนต์พ่วงข้าง 1 คัน
พ.ต.อ.นุติ ศักดิ์สุภาพ ผู้กำกับการสืบสวน กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า ในการจับกุมผู้ต้องหารายนี้ เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายลับว่าเกือบทุกวัน นายรังสรรค์ หรือ สัน จะขับขี่รถถจักรยายนต์พ่วงข้างเข้ามาจำหน่ายยาบ้าในซอยมนตรีบำรุง ในช่วงเวลาประมาณ 19.00-21.00 น. จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่นำกำลังไปดักซุ่ม ต่อมาผู้ต้องหาได้ขับขี่รถจักรยายนต์เข้ามา น่าเชื่อได้ว่าจะมาจำหน่ายยาบ้าเหมือนเช่นเคย เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวขอตรวจค้น พบว่า ผู้ต้องหากำยาบ้าอยู่ในเมื่อข้างซ้ายจำนวน 3 ถุง มียาบ้ารวม 550 เม็ด โดยยอมรับว่ายาบ้าทั้งหมดเป็นของตน ก่อนจะนำตัวมาสอบสวบต่อที่ห้องสืบสวน ภ.จว.มหาสารคาม
จากนั้นได้ขยายผลเพิ่มเติมทราบว่า ผู้ต้องหายังคงซุกซ่อนไว้อีกจำนวนหนึ่ง อยู่ที่บ้านพักในพื้นที่ตำบลเขวา อ.เมือง จึงได้นำเจ้าหน้าที่ไปตรวจยึด พบยาบ้าอีกจำนวน 130 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ที่ตู้เบรกเกอร์บริเวณชั้น 2 ของตัวบ้าน จึงได้ตรวจยึดไว้ รวมของกลางยาบ้าทั้งหมดที่สามารถตรวจยึดได้รวม 680 เม็ด
โดยผู้ต้องหาบอกว่าเพิ่งออกจากเรือนจำจังหวัดบุรีรัมย์มาได้ปีกว่า ๆ ในข้อหายาเสพติด พอออกมาก็มาเป็นช่างซ่อมรถจักรยายนต์ในหมู่บ้าน เงินไม่พอใช้ จึงได้หวนกลับมาค้ายาเช่นเดิม โดยไปรับยามาจากจังหวัดกาฬสินธุ์ รอบล่าสุด 800 เม็ด ราคารวม 11,200 บาท ตกเม็ดละ 14 บาท โดยจะนำมาจำหน่ายเป็นถุง ถุงละ 200 เม็ด ในราคา 4,200-4,500 บาท ตกเม็ดละ 21-22.50 บาทเท่านั้น ขณะเข้าจับกุมผู้ต้องหาใส่เสื้อที่สกรีนตราโล่ห์ของตำรวจ ด้านหลังสกรีนคำว่า POLICE สอบถามผู้ต้องหาแจ้งว่า ได้ไปซื้อมาจากตลาดนัด ไม่เกี่ยวข้องการเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่อย่างใด
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหา มีไว้ครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป