แจ้งจับ ครูชายลวงนร.หญิงม.1 วางยาขืนใจ - ครอบครัวแจ้งความแล้ว แต่ไร้ความคืบหน้า
24 ต.ค. 2565, 17:18
หลังจากโลกโซเชียลแชร์ข้อความในทำนองว่า มีนักเรียนหญิงชั้น ม.1 อายุ 13 ปี ซึ่งเป็นนักกีฬาชมรมวิ่งของโรงเรียนแห่งหนึ่งในตัว อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ถูกครูชายสอนวิชาสุขศึกษา เรียกไปหาที่ห้องพักเพื่อให้นวด ก่อนหลอกให้ดื่มน้ำผสมอะไรบางอย่างจนสลบ พอตื่นขึ้นมาไม่ได้ใส่เสื้อผ้า และเจ็บที่อวัยวะเพศ คาดว่าจะถูกข่มขืน ซึ่งหลังเกิดเหตุผู้ปกครองพาไปแจ้งความที่ สภ.กุฉินารายรณ์ แต่คดีไม่คืบหน้า ซึ่งผู้โพสต์ยังระบุอีกว่า เด็กที่ถูกครูข่มขืน พยายามฆ่าตัวตาย อีกทั้งยังระบุด้วยว่า ไม่ได้มีคนเดียวที่โดนแบบนี้ แต่ยอมความเพราะครูคนนี้เส้นใหญ่
ล่าสุด (24 ต.ค.65) เดลินิวส์ รายงานว่า ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่พบกับญาติของเด็กผู้เสียหาย เบื้องต้นแม่กับเด็กหญิง ยังไม่พร้อมที่จะเล่ารายละเอียด เนื่องจากเสียใจ และเครียดหนักกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นายเอ (นามสมมติ) ตาของเด็กหญิง ได้เล่าว่า หลานสาวเพิ่งเรียนต่อชั้น ม.1 ปกติหลานจะอยู่หอพัก เพราะเป็นนักกีฬาวิ่ง เข้าชมรมกีฬาของโรงเรียน จึงจำเป็นต้องนอนพักหอ เพราะตอนเย็นต้องซ้อมกีฬา และไม่อยากเดินทางไกล ทราบทีหลังว่า หอพักดังกล่าวห่างจากโรงเรียนประมาณ 2 กิโลเมตร และเป็นของครูชายที่สอนสุขศึกษาในโรงเรียน และยังเป็นครูที่ดูแลชมรมวิ่งด้วย เหตุเกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นวันที่ 17 ต.ค. เพื่อนหลานได้เอาโทรศัพท์หลานมาโทรมาบอกที่บ้านว่า หลานถูกครูผู้ชายที่สอนวิชาสุขศึกษา และดูแลหอพัก ข่มขืน ให้มารับที่บ้านเพื่อน
ระหว่างนั้นตนกับแม่เด็ก ได้พยายามคุยสอบถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่ไม่สามารถคุยได้ เพราะหลานร้องไห้ตลอด ไม่ยอมเล่าให้ฟัง ก่อนจะเล่าว่า ถูกครูคนดังกล่าวได้เรียกให้ไปหาบอกว่าไปนวดให้หน่อย และน้องก็ไปนวดที่หอนอน แล้วสักพักครูได้เอาน้ำอะไรบางอย่างให้น้องดื่ม คาดว่าน่าจะเป็นยาสลบ หรือยานอนหลับ แล้วน้องก็หลับไปพอตื่นมาอีกครั้งน้องไม่มีเสื้อผ้าติดตัว และเจ็บตรงอวัยวะเพศ
ต่อมาทางด้านแม่เด็กได้พาหลานไปตรวจร่างกายที่รพ. วันที่ 18 ต.ค. ผลออกมาว่าอวัยวะเพศและปากมดลูกมีร่องรอยฉีกขาด พร้อมให้ไปแจ้งความดำเนินคดี หลังจากได้ยินอย่างนั้น ทางแม่และญาติก็ได้ไปดำเนินการแจ้งความที่ สภ.กุฉินารายณ์ และต้องการให้ดำเนินคดีถึงที่สุด จนถึงปัจจุบันคดีก็ยังไม่คืบหน้าอะไรเลย ท่ามกลางกระแสว่าครูคนนี้เส้นใหญ่ ซึ่งหลังเกิดเหตุครูชายคนดังกล่าว พร้อมด้วยผู้อำนวยการโรงเรียนได้พยายามมาพูดคุยไกล่เกลี่ย แต่ทางแม่และญาติไม่พร้อมที่จะคุย และอยากเอาเรื่องให้ถึงที่สุด