เมื่อเวลา15.00น.วันที่27ต.ค.2565 จากเหตุการณ์ที่มีกลุ่มผู้เสียหายกว่า 30 ราย ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการนำรถยนต์เข้าซ่อมที่อู่ซ่อมรถยนต์ชื่อดังใน จังหวัดชลบุรี  และได้รวมตัวร้องฝ่ายปกครอง สำนักงานยุติธรรมจังหวัดชลบุรี เพื่อยื่นหนังสือร้องเรียนเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจที่ไม่ซื่อตรงของเจ้าของอู่รถยนต์ในพื้นที่ หลังส่งรถเข้าซ่อมนานหลายเดือนแต่ไม่ได้รับการซ่อมแซม ซ้ำอะไหล่รถยนต์ยังสูญหายเกือบหมด ขณะที่รถถูกดองนานจนเกิดความเสียหาย โดยที่อู่ซ่อมรถยนต์ซึ่งตั้งอยู่ใน ตำบลหนองข้างคอก อำเภอเมืองชลบุรี ที่มีลักษณะคล้ายโกดัง

แต่ทางนายวิวัฒน์ อายุ 37 ปี เจ้าของอู่ ไม่มีการเคลียร์ค่าเสียหายกับผู้เสียหาย จนเจ้าของรถต้องเดินทางเข้ามาแจ้งความกับทางพนักงานสอบสวน สภ.เมืองชลบุรี จนต้องมีการขออนุมัติหมายศาลออกหมายจับ แต่เนื่องจากรถทั้งหมดอยู่ในอู่ซ่อม ศาลจังหวัดชลบุรี จึงได้อนุมัติหมายจับเป็นคดียักยอกทรัพย์ จึงได้นำกำลังเข้าไปจับกลุ่มที่คอนโดแห่งหนึ่งในเขตอำเภอเมืองชลบุรี นำไปแถลงข่าวที่ ห้องสืบสวนสอบสวน สภ.เมืองชลบุรี

ด้าน ทางนายวิวัฒน์ เจ้าของอู่ ที่ยังให้การปฏิเสธ พร้อมเปิดว่า ได้รับทำสีและทำช่วงหน้ารถ ที่เปิดมากว่า 3 ปี ไม่เคยมีปัญหา กลับมามีแค่คนกลุ่มเดียวเท่านั้น การทำสี ก็ต้องมีการถอดอะไหล่ทุกชิ้น แต่ไม่เคยมีการนำอะไหล่ของลูกค้าไปขาย ไม่เคยมีการโกงของลูกค้า ซึ่งทุกวันนี้อู่ก็ยังคงเปิดปกติ ไม่ได้หนีไปไหน ตามที่ถูกเจ้าทุกข์กล่าวหา ซึ่งก็ยอมรับว่ามีปัญหาเรื่องเงิน เพราะการซ่อมอู่ทุกอู่ต้องมีการสำรองเงินไปก่อน

ขณะที่ทาง พ.ต.อ.นิทัศน์ แหวนประดับ ผู้กำกับการ สภ.เมืองชลบุรี เผยว่า จากที่มีผู้เสียหายเป็นจำนวนมากเดินทางมาแจ้งความ ก็ได้มีการรวบเอกสารหลักฐาน ออกหมายจับ ซึ่งทางศาลาเห็นว่าเป็นการซ่อมรถ จึงได้ออกหมายจับผู้ต้องหากระทำความผิดฐาน ยักยอก หลังจากนั้น จึงได้ไปจับตัวมาดำเนินคดี ส่วนทางผู้ต้องหาจะปฎิเสธ เป็นสิทธิของผู้ต้องหา โดยเบื้องต้น ได้มีการคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากมีมูลค่าความเสียหายทางทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก ส่วนจะไปประกันตัวในชั้นศาล ขึ้นอยู่กับศาลเป็นผู้พิจารณา