เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



เจ้าหน้าที่ป่าไม้ สนธิกำลังตำรวจภูธรจังหวัด ร่วมกับตำรวจ สภ.ทุ่งมน ติดตามจับกุม "หนุ่มใหญ่" ลักลอบตัดไม้ในป่าสงวนแห่งชาติ


3 พ.ย. 2565, 15:16



เจ้าหน้าที่ป่าไม้ สนธิกำลังตำรวจภูธรจังหวัด ร่วมกับตำรวจ สภ.ทุ่งมน ติดตามจับกุม "หนุ่มใหญ่" ลักลอบตัดไม้ในป่าสงวนแห่งชาติ




เมื่อวานนี้ (2 พฤศจิกายน 2565) เวลาประมาณ 16.30น.ที่บริเวณป่าสงวนแห่งชาติป่ากำใสจาน ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ บ้านโชคบรันพัฒนา ต.สมุด อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ต่อเนื่อง ลานรับซื้อไม้ยูคาลิบตัสและไม้ทั่วไปบ้านสะแง ต.สวาย อ.เมือง จ.สุรินทร์ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ นำโดยนายไกรศรี มณีอ่อน เจ้าพนักงานป่าไม่อาวุโส เจ้าหน้าที่ หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ สร.2 ร.ต.อ.ปราโมทย์ เที่ยงธรรม รองสารวัตรสืบสวน กก.สืบสวน ภ.จว.สุรินทร์ ได้สนธิกำลัง เจ้าหน้าที่จาก ตำรวจกองกำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดสุรินทร์ เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรทุ่งมน อ.ปราสาท หลังจากได้รับการร้องเรียนจากฝ่ายปกครองตำบลสมุด อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ ว่ามีการลักลอบตัดไม้รังในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่ากำใสจาน ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ บ้านโชคบรันพัฒนา ต.สมุด อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2565 หลังจากที่ได้รับแจ้ง เจ้าหน้าที่จึงได้ไปตรวจสอบที่หมายตามที่ได้รับแจ้ง ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 เวลาประมาณ 14.00 น. พบไม้รังถูกตัดฟันล้มลงคาตอลักษณะใหม่สดยังไม่ได้ตัดทอนเป็นท่อน จำนวน 6 ตอ จึงได้ทำการตรวจวัดบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน หลังจากนั้นได้นัด หมายมาตรวจชุ่มเพื่อรอผู้กระทำผิดมาขนย้าย ในเวลา 18.00น. จนถึงเวลาประมาณ 22.00 น. ไม่พบผู้ใดเข้ามาในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ จึงได้นัดหมายกันอีกครั้ง เพื่อที่จะมาชุ่มจับกุมในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2565เวลาประมาณ 10.00 น. เมื่อ เจ้าหน้าที่ได้เดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ ปรากฎว่าไม้ที่ถูกตัดล้มลงไว้หายไปจากที่เกิดเหตุ พบร่องรอยรถไถนาเดินตามลักษณะใหม่สดออกจากที่เกิดเหตุ ไปตามทางเกวียน มุ่งหน้าไปทางตำบลสวาย


   


จึงได้ขับรถติดตามและสืบสวนสอบถามจนกระทั่งได้ข้อมูลจาก เจ้าของกิจการลานรับซื้อไม้ยูคาลิบตัสและไม้ทั่วไป ซึ่งตั้งอยู่ที่ บ้านสะแง ต.สวาย อ.เมือง จ.สุรินทร์ ว่ามีชาย 1 คน ได้ขับรถไถนาเดินตามพร้อมกระบะพ่วงบรรทุกไม้รังเต็มกระบะรถมาขายให้กับลานไม้ ได้ราคาประมาณ 1,000 บาท ขณะมาขายไม่มีหนังสือรับรองตนเองว่าได้ไม้มาจากที่ใด ตนก็ไม่ทราบว่าได้ไม้มา

จากป่าหรือมาจากที่ดินที่ได้มาโดยชอบด้วยกฎหมาย เห็นว่าเป็นไม้ที่มีขนาดเล็กซึ่งมีอยู่ทั่วไปในท้องที่ ต.สวาย และ ต.สมุดเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ จึงให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ เจ้าหน้าที่จึงได้เดินทางไปที่ลานไม้ พบไม้รังถูกตัดทอนเป็นท่อนลักษณะใหม่สด วางกองอยู่ที่ลานไม้นับได้จำนวน 25 ท่อน เมื่อตรวจสอบโดยนำหน้าตัดท่อนโคนเปรียบเทียบกับหน้าตัดตอ ไม้รังที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบในป่า ปรากฎว่ามี ลักษณะตำหนิรูปพรรณและขนาดเท่ากันสามารถสวมต่อเข้ากันได้ แสดงว่าท่อน ไม้รังที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบในลานไม้ ถูกตัดหรือได้มาจากไม้ที่ขึ้นอยู่ในป่าสงวนแห่งชาติ ป่ากำใสจาน จึงได้แจ้งให้ลานรับชื้อไม้ทราบ และขอดูกล้องวงจรปิดที่อยู่ในบริเวณลานไม้ เพื่อขอทราบว่าผู้ใดเป็นผู้นำไม้รังมาขาย เมื่อเจ้าหน้าที่ดูกล้องวงจรปิดพบชาย 1 คน ได้ขับรถไถนาเดินตามพร้อมกระบะพ่วง บรรทุกไม้รังเต็มกระบะรถ ปรากฏภาพบริเวณที่ชั่ง น้ำหนักและปรากฎภาพที่หน้าเคาเตอร์ชำระเงิน ทราบจากเสมียนคนรับคนรับจ่ายเงินว่าชายดังกล่าวชื่อเล่นว่าเนียล มีบ้าน อยู่ บ้านโคกเมือง ต.สวาย อ.เมือง จ.สุรินทร์ เจ้าหน้าที่จึงได้ประสานนายสมศักดิ์ แซ่เต็ง ผู้ใหญ่บ้านโคกเมือง เข้าตรวจสอบ

รูปพรรณภาพที่ปรากฎในกล้องวงจรปิดว่าชายดังกล่าวมีชื่อว่าอะไร ต่อมาทราบชื่อว่า คือนายทนงศักดิ์ เฉลียวพรหม อยู่บ้านเลขที่62 หมู่ที่ 13 บ้านโคกเมือง ต.สวาย อ.เมือง จ.สุรินทร์ เจ้าหน้าที่จึงได้ติดตามตัวไปยังที่อยู่ดังกล่าวปรากฎว่าไม่พบตัว จึงได้ สอบถามราษฎรใกล้เคียงทราบว่า นายทนงศักดิ์ฯ มีภรรยาอยู่ที่บ้านสะแง จึงได้สืบสวนติดตามไปที่บ้านสะแง พบภรรยาของ นายทนงศักดิ์ ทราบว่านายทนงศักดิ์ ขายไม้เสร็จแล้วไปพบกับเพื่อนไม่สามารถติดต่อได้ เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งกับภรรยา ของนายทนงศักดิ์ ว่า เพื่อความบริสุทธิ์ใจของการได้มาของไม้ให้ไปแสดงตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.ทุ่งมน ในวันรุ่งขึ้น


หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ประสานงาน นายอำนาจ เพิกกระโทก ผู้ใหญ่บ้านสะแง หมู่ที่ 11 มารับทราบการตรวจสอบไม้ตาม รูปภาพในกล้องวงจรปิด นายอำนาจ ก็ยืนยันว่าชายที่ปรากฏในกล้องวงจรปิด คือนายทนงศักดิ์ เฉลียวพรหม และยินดีที่จะ ประสานงานเพื่อที่จะให้นายทนงศักดิ์ฯ มาแสดงตัวหรือมอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.ทุ่งมน คณะได้ตรวจวัดขนาดนับ จำนวนไม้ได้เป็นไม้รังจำนวน 25 ท่อน ปริมาตร 0.95 เมตร คิดเป็นเงินค่าภาคหลวง 38.00บาท คิดเป็นค่าเสียหายต่อรัฐ 16,625 บาท ไม้ดังกล่าว มีลักษณะใหม่สด มีร่องรอยตัดทอนโดยใช้เลื่อยมือ ท่อนไม้สามารถสวมต่อเข้ากันได้ เป็นไม้ที่ ได้มาจากการตัดต้นไม้รังจำนวน 6 ต้น เจ้าหน้าที่ร่วมกันพิจารณาจากหลักฐานและพยานบุคคลพร้อมภาพที่บันทึกใน

กล้องวงจรปิดแล้วเห็นว่าการกระทำดังกล่าวของนายทนงศักดิ์ เฉลียวพรหม เป็นการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ ฐาน "ทำไม้ หรือทำด้วยประการใดๆ อันทำให้เสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ โดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา 14 แห่งพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 และทำไม้หวงห้าม(นำไม้ออกจากป่า) มีไม้หวงห้ามอันยังมิได้แปรรูป โดย ไม่มีรอยตราค่าภาคหลวงหรือตรารัฐบาลขายไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามาตรา 69 แห่ง พระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 " จึงได้ตรวจยึดไม้รังจำนวน 25 ท่อน โดยใช้ดวงตรา ย.696 ตรา ต.9669 ตีประทับไว้ที่หน้าตัดท่อน ไม้ทุกท่อนและมอบเรื่อให้นายไกรศรี มณีอ่อน เจ้าพนักงานป่าไม้อาวุโสเป็นผู้กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สภ.ทุ่งมน

เพื่อสืบสวนติดตามตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วนไม้ของกลางได้ขอรับมอบจากพนักงานสอบสวนนำมา เก็บรักษาไว้ที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ สร.2 ต.กังแอน อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ในการตรวจยึดครั้งนี้ เจ้าหน้าที่มิได้ทำให้ทรัพย์สินของผู้ใดเสียหาย สูญหายหรือเสื่อมค่าแต่ประการใดและมีได้ทำให้ผู้ใดได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ทั้งมิได้เรียกร้องเอาทรัพย์สินของผู้ใดมาเป็นประโยชน์ส่วนตนหรือผู้อื่นแต่ อย่างใด มิได้ใส่ร้ายหรือกลั่นแกล้งผู้หนึ่งผู้ใดให้ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด

อ่านบันทึกนี้ให้ฟังแล้ว รับว่าถูกต้องเป็นความจริง จึงร่วมกันลงลายมือชื่อไว้เป็นหลักฐาน






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.