"สาธารณสุขจังหวัดตรัง" แจกหน้ากากอนามัย ให้กับประชาชนพื้นที่กลุ่มเสี่ยง-แนะนำการป้องกัน
24 ก.ย. 2562, 16:28
24 กันยายน 2562 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า จากปัญหาหมอกควันจากประเทศอินโดนีเซีย ที่ถูกลมตะวันตกเฉียงใต้พัดเข้ามาปกคลุมขยายเต็มพื้นที่ทั้ง 10 อำเภอของ จ.ตรัง ส่งผลทำให้ประชาชนจำนวนมากต้องมีปัญหาด้านสุขภาพ สาธารณสุข จ.ตรัง จึงได้แจกจ่ายหน้ากากอนามัยจำนวน 12,000 ชิ้น ให้กับสาธารณสุขอำเภอ นำไปแจกจ่ายให้กับประชาชนกลุ่มเสี่ยง โดยเฉพาะในพื้นที่ 5 อำเภอติดชายฝั่งทะเลอันดามัน ซึ่งได้รับผลกระทบจากปัญหาหมอกควันยาวนานกว่าพื้นที่อื่นๆ นานกว่า 1 สัปดาห์แล้ว เนื่องจากพื้นที่อยู่ใกล้ทะเลลมมรสุดพัดผ่านเข้ามาตลอดเวลา ประกอบด้วย อ.ปะเหลียน อ.หาดสำราญ อ.ย่านตาขาว อ.สิเกา และ อ.กันตัง สาธารณสุขอำเภอ จึงร่วมกับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล (รพ.สต.) และอาสาสมัครสาธารณสุขตำบล (อสม.) ร่วมกันรณรงค์และแจกหน้ากากอนามัยให้กับประชาชนกลุ่มเสี่ยง และออกให้ความรู้คำแนะนำในการปฏิบัติตัวแก่ประชาชนกลุ่มเสี่ยง
โดยที่มัสยิดสิเหร่ ต.บ่อน้ำร้อน อ.กันตัง จ.ตรัง นายราชัน อรุณแสง สาธารณสุข อ.กันตัง พร้อมด้วย อสม. ต.บ่อน้ำร้อน นำหน้ากากอนามัยจำนวนหนึ่ง พร้อมแผ่นพับให้ความรู้ ออกแจกจ่ายให้แก่ประชาชนกลุ่มเสี่ยง ซึ่งประกอบด้วย เด็ก และคนชรา เพื่อใช้สำหรับการสวมใส่ป้องกันฝุ่นละอองเวลาออกนอกบ้าน พร้อมให้คำแนะนำประชาชนงดการทำกิจกรรมกลางแจ้ง ส่วนผู้มีโรคประจำตัว เช่น เด็ก คนชรา หญิงมีครรภ์ และผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวในกลุ่มโรคทางเดินหายใจ โรคหัวใจและหลอดเลือด ควรเฝ้าระวังสุขภาพ ถ้ามีอาการเบื้องต้น เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง และควรไปพบแพทย์
นายราชัน อรุณแสง สาธารณสุข อ.กันตัง กล่าวว่า สาธารณสุข อ.กันตัง ได้รับหน้ากากอนามัยมาทั้งหมด 2,000 ชิ้น เพื่อให้ อสม. นำไปแจกจ่ายให้กับประชาชนกลุ่มเสี่ยงต่างๆ ทั้งบนเกาะ และพื้นที่ริมชายฝั่งทะเล ซึ่งเชื่อว่าจะเพียงพอประชาชน แต่หากไม่เพียงพอก็พร้อมขอสนับสนุนเพิ่ม หรือทาง อสม.ก็จะมีการแนะนำการทำหน้ากากอนามัยด้วยตนเองให้แก่ประชาชนด้วย แม้ในวันนี้อากาศจะดีขึ้น แต่สภาพหมอกควันในพื้นที่ยังมีอยู่ และไม่มั่นใจในสถานการณ์ เนื่องจากขึ้นอยู่กับพื้นที่ต้นทาง และทิศทางลม ซึ่งหากลมพัดเข้ามาประชาชนในพื้นที่อำเภอชายฝั่งจะได้รับหมอกควันก่อนใคร
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์หมอกควันใน จ.ตรัง พบว่า ในช่วงสายถึงค่ำของทุกวัน หมอกควันจะหนาแน่นกว่าในภาคเช้า ทำให้ผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศออกมาแตกต่างกัน เช่น ล่าสุดในภาคบ่ายพบค่าฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน 54 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และสูงกว่าค่ามาตรฐาน แต่ในภาคเช้า จะมีค่าเพียง 49 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และเชื่อว่าแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอีก หากไม่มีฝนตกลงมา