หนุ่มใหญ่เศร้า ! โจรบุกบ้านขโมยทรัพย์สิน 3 ครั้งในรอบ 2 เดือน ลงทุนกู้เงินทำรั้วป้องกัน
18 พ.ย. 2565, 11:23
วันนี้ 18 พ.ย. 2565 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่าได้ลงพื้นที่พบกับชาวบ้านที่โดนมือดีขโมยทรัพย์สิน 3 ครั้ง ในรอบระยะเวลาแค่ 2 เดือน เจ้าของเล่าให้สื่อฟังถึงกับน้ำตาล่วงขณะเล่า เพราะสุดแค้น สุดทน ที่ถูกโจรบุกบ้านขโมยทรัพย์สินถึง 3 ครั้ง ในระยะเวลาเพียง 2 เดือน ครั้งล่าสุดสองโจรแสบบุกขโมยเครื่องเชื่อมไฟฟ้าน้ำหนักกว่าร้อยกิโลช่วงกลางดึก แจ้งความไปยังไร้วี่แววได้ตัว ตัดสินใจกู้เงินทำรั้วหวังปกป้องชีวิตและทรัพย์สินจากกลุ่มโจรแสบ
ภาพวีดีโอจากกล้องวงจรปิด เปิดเผยให้เห็นพฤติกรรมของชายวัยรุ่นรูปร่างผอมสูง จำนวน 2 คน ที่แอบย่องเข้ามาขโมยเครื่องเชื่อมไฟฟ้า น้ำหนักกว่าหนึ่งร้อยกิโลกรัม ออกไปจากบ้านของนายวิชัย กาญจนโชคทวี อายุ 59 ปี ที่อยู่ในพื้นที่ตำบลวังขนาย อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี อย่างยากลำบาก โดยโจรแสบทั้งสองคน ช่วยกันออกแรงดันเอาเครื่องเชื่อมตัวดังกล่าวที่มีมูลค่ากว่าสามหมื่นบาทออกไปขึ้นรถกระบะที่มาจอดรออยู่ริมถนน ก่อนจะขับรถหลบหนีไปอย่างลอยนวล โดยนายวิชัย ซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน เล่าเหตุการณ์ให้ฟังทั้งน้ำตาด้วยความคับแค้นใจว่า บ้านของตนเองถูกขโมยบุกมาขโมยของที่บ้านมาแล้วถึง 3 ครั้ง ในช่วงระยะเวลาเพียงแค่ 2 เดือน ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนกันยายนจนถึงปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งสองครั้งแรก ตนเองยังไม่ได้ติดตั้งกล้องวงจรปิด แต่ครั้งล่าสุด เมื่อปลายเดือนตุลาคม ตนเองติดกล้องวงจรปิดเอาไว้ จึงสามารถจับภาพและพฤติกรรมของคนร้ายทั้งสองคนได้อย่างชัดเจน แม้ตนจะนำเอาคลิปวีดีโอดังกล่าว ไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรท่าม่วงเพื่อให้ช่วยติดตามคนร้าย แต่ผ่านมาเกือบเดือนก็ยังคงไร้วี่แวว โดยคนร้ายกลุ่มนี้มักจะเข้ามาก่อเหตุช่วงกลางคืน โดยเลือกขโมยของจำพวกอุปกรณ์การเกษตรและเครื่องมือการเกษตร เครื่องมือช่าง ทั้งปืนฉีดลม โรตารี่ปั่นของรถไถและเครื่องเชื่อมไฟฟ้าที่ถูกก่อเหตุในครั้งล่าสุด ที่ผ่านมา ตนเองก็ออกตระเวนดูตามร้านรับซื้อเศษเหล็ก รวมถึงร้านรับซื้อของเก่าหลายๆร้าน แต่ก็ยังไม่เคยเจอทรัพย์สินของตนที่ถูกขโมยไป นายวิชัย ยังได้กล่าวทั้งน้ำตาว่า รู้สึกคับแค้นใจที่มาถูกกลุ่มโจรบุกเข้ามาก่อเหตุกับตนเองถึงสามครั้งในระยะเวลาแค่สองเดือน เพราะที่ผ่านมาตนเองอยู่ที่บ้านหลังนี้มาตั้งแต่เกิดจนอายุจะหกสิบปี ยังไม่เคยเจอเหตุการณ์เช่นนี้ ยิ่งเมื่อเห็นพฤติกรรมของคนร้ายจากกล้องวงจรปิด ว่าคนร้ายเข้ามาก่อเหตุถึงในบ้านอย่างไม่เกรงกลัวกฏหมาย แถมแจ้งความกับตำรวจไป ก็ไม่มีความคืบหน้าอะไร ยิ่งทำให้ตนเองรู้สึกท้อแท้ ว่าทรัพย์สินที่ตนทำงานเก็บเงินซื้อมาอย่างยากลำบาก ต้องมาถูกขโมยไปอย่างง่ายดายเช่นนี้ ตอนนี้ ตนเองก็พยายามหาทางปกป้องทรัพย์สินของตนเองอย่างเต็มที่ ทั้งการติดตั้งกล้องวงจรปิด รวมถึงไปกู้เงินคนรู้จักมาทำรั้วลวดหนามและทำประตูทางเข้าออกบ้าน เพื่อหวังปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของตนเอง ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะได้ผลหรือไม่ แต่ก็ยังดีกว่าที่จะไม่ทำอะไร.....ผู้เสียหายย้ำขอฝากเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามเรื่องนี้ให้ประชาชนอยู่อย่างเป็นสุข ได้นอนหลับพักผ่อนจากการทำงานหนักมาทั้งวันด้วย